สวัสดีค่ะ..เป็นไงกันบ้างคะสำหรับ “การให้เหตุผลแบบอุปนัย” ที่เคยสรุปคร่าวๆ ไว้ในครั้งที่แล้ว ยังพอจำกันได้อยู่ใช่ไหมคะ :) วันนี้เรามาวิเคราะห์หัวข้อต่อไปกันต่อเลยค่ะ...
การให้เหตุผลแบบนิรนัย
เป็นการนำความรู้พื้นฐานที่อาจเป็นความเชื่อ ข้อตกลง กฎ หรือบทนิยาม ซึ่งเป็นสิ่งที่รู้มาก่อน และยอมรับว่าเป็นจริง แล้วตรวจสอบความสมเหตุสมผลเพื่อนำไปสู่ข้อสรุป เป็นการอ้างเหตุผลที่มีข้อสรุปตามเนื้อหาสาระที่อยู่ภายในขอบเขตของข้ออ้าง ที่กำหนด
เรามาวิเคราะห์ตัวอย่างข้อสอบการให้เหตุผลแบบนิรนัยกันดีกว่า
ตัวอย่างที่ 1 จงพิจารณาการอ้างเหตุผลต่อไปนี้
เหตุ 1. คนทุกคนมี 2 ขา
2. นิศาเป็นคน
ผล นิศามี 2 ขา
จะเห็นได้ว่าเป็นการอ้างเหตุผลที่สมเหตุสมผล
ตัวอย่างที่ 2 จงพิจารณาการอ้างเหตุผลต่อไปนี้
เหตุ 1. เรือทุกลำลอยน้ำได้
2. ขวดพลาสติกลอยน้ำได้
ผล ขวดพลาสติกเป็นเรือ
จากข้อสรุปผลข้างต้นไม่สมเหตุสมผล ถึงแม้ว่าเหตุทั้งสองข้อจะเป็นจริง แต่การที่เราทราบว่าเรือทุกลำลอยน้ำได้ไม่ได้หมายความว่าสิ่งอื่นๆ ที่ลอยน้ำได้จะต้องเป็นเรือเสมอไป
ตัวอย่างที่ 3 จงพิจารณาการอ้างเหตุผลต่อไปนี้
เหตุ 1. จำนวนคี่ คือ จำนวนที่หารด้วย 2 ไม่ลงตัว
2. x เป็นจำนวนที่หารด้วย 2 ลงตัว
ผล x ไม่ใช่จำนวนคี่
จะเห็นได้ว่าเป็นการอ้างเหตุผลที่สมเหตุสมผล
ตัวอย่างที่ 4 จงพิจารณาการอ้างเหตุผลต่อไปนี้
เหตุ 1. ถ้าฝนตก หลังคาบ้านเปียก
2. หลังคาบ้านไม่เปียก
ผล ฝนไม่ตก
จะเห็นได้ว่าเป็นการอ้างเหตุผลที่สมเหตุสมผล
ตัวอย่างที่ 5 จงพิจารณาการอ้างเหตุผลต่อไปนี้
เหตุ 1. คนทุกคนเป็นสิ่งมีชีวิต
2. ดำเป็นสิ่งมีชีวิต
ผล ดำเป็นคน
จากข้อสรุปผลข้างต้นไม่สมเหตุสมผล เพราะว่าเหตุที่อ้างไม่รัดกุมพอที่จะให้ได้ข้อสรุปผลเช่นนั้นอย่างแน่นอน
แต่ถ้า เหตุ 1. คนทุกคนเป็นสิ่งมีชีวิต
2. ดำเป็นคน
ผล ดำเป็นสิ่งมีชีวิต
จึงจะเป็นการอ้างเหตุผลที่สมเหตุสมผล เพราะเหตุเป็นจริงทุกข้อทำให้ผลต้องจริงด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ข้อสังเกตและปัญหาของการให้เหตุผลแบบนิรนัย
- ผลหรือข้อสรุปจะถูกต้องก็ต่อเมื่อยอมรับ “เหตุเป็นจริงทุกข้อ”
- การสรุปผลสมเหตุสมผล
***การให้เหตุผลแบบนิรนัยจะให้ความแน่นอนกว่า ส่วนการให้เหตุผลแบบอุปนัยจะให้ความน่าจะเป็น
แล้วพบกันใหม่นะคร้าาาาา… :)