หนึ่งในวายร้ายนำโรคภัยต่าง ๆ มาสู่ลูกคือ “เชื้อไวรัส” วันนี้เราจึงรวมโรค จากเชื้อไวรัสมาให้คุณพ่อคุณแม่ศึกษา และทำความเข้าใจ เพื่อจะได้เตรียมรับมือกับโรคเหล่านั้นได้อย่างถูกวิธี
ไวรัสโรต้า เป็นสาเหตุสำคัญของโรคอุจจาระร่วงหรือโรคท้องเสียในเด็กเล็ก กลุ่มเสี่ยงของโรคท้องร่วงจากไวรัสโรต้าอยู่ที่ช่วงอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง 6-12 เดือน ต้องเฝ้าระวังมากที่สุดเพราะอยู่ในวัยชอบอมนิ้วมือหรือหยิบสิ่งของเข้าปาก
อาการ
มีไข้, ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ, กระหายน้ำ, ปากแห้ง, ปัสสาวะออกน้อยลง
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า
ไวรัสโรต้า ... ต้นเหตุอาการท้องเสียของทารก
โนโรไวรัส เป็นอีกหนึ่งเชื้อไวรัสที่ส่งผลให้เด็กอุจจาระร่วง เด็ก ๆ มักได้รับเชื้อจากการสัมผัสสิ่งของหรืออาหารที่มีเชื้อโนโรไวรัสปนเปื้อน หรือได้รับจากพฤติกรรมทั่วไปของเกเมื่ออยู่ที่โรงเรียน
อาการ
ท้องเสีย, ปวดท้อง, อาเจียน, มีไข้ต่ำ, ปวดเมื่อยตามตัว
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อโนโรไวรัส
โนโรไวรัส โรคติดเชื้อที่ทำให้ลูกท้องเสียรุนเเรง
โรคติดเชื้อ RSV เป็นโรคที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เชื้อโรคมักเจริญเติบโตได้ดีในช่วงที่มีอากาศชื้น โดยเฉพาะฤดูฝน มีระยะฟักตัวประมาณ 2 – 6 วัน พบมากในเด็กทารกจนถึงเด็กเล็ก
อาการ
คล้ายไข้หวัด คือ มีไข้, ไอ, มีน้ำมูกไหล, เจ็บคอ, หอบเหนื่อย
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคติดเชื้อ RSV
อาร์เอสวี (RSV) ไวรัสร้ายในเด็กเล็ก
โรคไข้เลือดออกมีอยู่ 4 สายพันธุ์ มียุงลายบ้าน (Aedes Aegypti) ตัวเมียเป็นพาหะนำโรค การติดเชื้อจะเริ่มจากยุงลายกัดและดูดเลือดของผู้ป่วยที่เป็นโรคไข้เลือดออกแล้วไปกัดคนอื่นต่อ ทำให้เชื้อไวรัสเดงกี่เข้าสู่ร่างกาย
อาการ
อาการของโรคไข้เลือดออก แบ่งเป็น 3 ระยะ โดยระยะแรกเด็ก ๆ อาจมีไข้สูงเฉียบพลัน ลักษณะเป็นไข้สูงลอยตลอดเวลา กินยาลดไข้ก็ไม่ลด อาจมีอาการหน้าแดงตาแดง และปวดเมื่อยตัวร่วมด้วย เมื่อผ่านไป 7 วันจะเข้าสู่ระยะที่ 2 คือไข้ลดแต่อาการทรุดหนัก มือเท้าเย็น และเริ่มไม่รู้สึกตัว แต่หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง จะเข้าสู่ระยะที่ 3 คือ ระยะฟื้นตัว ซึ่งร่างกายจะค่อย ๆ ปรับเข้าสู่ภาวะปกติในที่สุด
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก
ไข้เลือดออก ... ภัยร้ายจากยุงลาย
รู้ทัน ป้องกัน “ไข้เลือดออก” นักฆ่าในหน้าฝน
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แบ่งออกเป็นหลากหลายสายพันธุ์ มักแพร่กระจายได้ดีในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวที่อากาศเย็นและชื้น ติดต่อกันได้ผ่านทางน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ
อาการ
มีไข้สูง, มีน้ำมูก, ไอ, ปวดกล้ามเนื้อ, หนาวสั่น
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่ ... ภัยร้ายใกล้ตัว
แพทย์เตือน ไข้หวัดใหญ่ในเด็กแพร่ระบาดช่วงเปิดเทอม
หลอดลมอักเสบ เป็นโรคที่พบมากหลังจากเด็กเป็นไข้หวัดใหญ่เป็นเวลานาน หากลูกไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี โรคหลอดลมอักเสบอาจลุกลามกลายเป็นโรคปอดอักเสบได้เลยทีเดียว
อาการ
มีน้ำมูกไหล, มีเสมหะสีเหลืองหรือเขียว, เด็กหายใจมีเสียง, หอบหรือหายใจผิดปกติ และไอเรื้อรังมากกว่า 7 วัน
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคหลอดลมอักเสบ
‘โรคหลอดลมอักเสบ’ โรคร้ายที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก
โรคปอดบวมเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ไมโครพาสมา เชื้อชนิดอื่น เช่น เชื้อรา ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นทางการสูดหายใจ และน้ำมูกน้ำลายจากผู้ป่วย พบมากในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
อาการ
อาการแรกเริ่มคล้ายไข้หวัด คือ มีไข้สูง, ไอ, มีเสมหะ, หายใจติดขัด, ซึม และเบื่ออาหาร
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคปอดบวม
โรคปอดบวมในเด็กเล็ก...อันตรายมากกว่าที่คิด
เฮอร์แปงไจน่า (Herpangina) หรือโรคตุ่มแผลในปากเด็ก เป็นโรคที่ติดเชื้อจากไวรัสชนิดเดียวกันกับมือ เท้า ปาก แต่มีอาการที่แตกต่างกันคือจะมีแผลเฉพาะที่ปากเท่านั้น กลุ่มเสี่ยงของโรคเฮอร์แปงไจน่าส่วนมากจะเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 10 ขวบ
อาการ
มีไข้เฉียบพลัน, ปวดศีรษะ, ปวดตามตัว, เจ็บบริเวณเพดานปากหรือภายในลำคอ
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคเฮอร์แปงไจนา
เฮอร์แปงไจนา อีกหนึ่งโรคระบาดตระกูลมือ-เท้า-ปากในเด็ก
ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี เพราะเด็ก ๆ ยังไม่มีภูมิต้านทานที่แข็งแรงพอ ทั้งยังมักหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ ที่อาจไม่สะอาดและมีเชื้อโรคปะปน หรืออาจใกล้ชิดสัมผัสกับผู้ป่วยโดยไม่รู้ตัว
อาการ
มีอาการคล้ายเป็นหวัด คือ มีน้ำมูก, มีไข้, คัดจมูก, ครั่นเนื้อครั่นตัว, อาเจียน และอ่อนเพลีย
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคต่อมทอนซิลอักเสบ
สังเกตได้อย่างไรว่าลูกเป็น 'ต่อมทอนซิลอักเสบ' ในเด็ก