โดยความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่สถาบันการศึกษาภาครัฐและองค์กรธุรกิจเอกชนร่วมมือกันในการศึกษา วิจัย อนุรักษ์ และเก็บบันทึกเรื่องราวความโดดเด่นในทุกมิติของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ลงในสื่อผสมหลากหลายทั้งงานภาพจิตรกรรม หนังสั้น และบันทึกลงในมัลติมีเดียแอพลิเคชั่น เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา
ในงานแถลงข่าวเปิดตัวความร่วมมือในโครงการบันทึกการเปลี่ยนผ่านหน้าประวัติศาสตร์ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ “Preserving Dusit Thani Bangkok’s Artistic Heritage” ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน 2561 ชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เผยถึงจุดเริ่มต้นอันนำมาสู่ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศิลปากรว่า “ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย คุณแม่ของผมสร้างโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เพราะเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในเวทีระดับโลก
ซึ่งท่านคิดว่า การสนับสนุนที่ดีที่สุดคือ การสร้างโรงแรมที่โดดเด่นและดีที่สุดตามมาตรฐานสากล โดยยึดขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมไทยเป็นหลัก เพื่อให้กรุงเทพมหานครปรากฏอยู่บนแผนที่ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ได้สร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทั้งในเรื่องของการบริการและการดูแล
รวมถึงการเป็นอาคารอันเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัย ด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มีอัตลักษณ์ในแบบเฉพาะตัว ดังนั้น เมื่อจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง ผมจึงต้องการที่จะเก็บรักษาส่วนต่าง ๆ ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ที่มีคุณค่าทางจิตใจและทางประวัติศาสตร์ไว้ให้ได้มากที่สุดสำหรับคนรุ่นหลังได้ศึกษา เพราะผมเชื่อว่า อดีตคือแรงบันดาลใจสู่อนาคตที่ยั่งยืน”
รองศาสตราจารย์สยุมพร กาษรสุวรรณ รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่าโครงการความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยศิลปากรและกลุ่มดุสิตธานี ในครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดี เนื่องจากเป็นครั้งแรกของความร่วมมือกันระหว่างภาคเอกชน และมหาวิทยาลัยภาครัฐที่จับมือกันวิจัย ศึกษา อนุรักษ์ และบันทึกมรดกทางประวัติศาสตร์ศิลปะและสถาปัตยกรรม ผ่านโครงสร้างอาคารและการออกแบบตกแต่งของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันน่าประทับใจในแบบครบวงจร
“สำหรับบทบาทของมหาวิทยาลัยศิลปากรในโครงการนี้เน้นที่การนำความรู้ความชำนาญของเหล่าคณาจารย์จากภาควิชาต่าง ๆ ทั้งคณะโบราณคดี คณะสถาปัตยกรรม คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ หอศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และความร่วมมือของคณะวิชาต่าง ๆ มาบูรณาการร่วมกันในการเก็บบันทึกข้อมูลในแง่มุมต่าง ๆ เพื่อให้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเรื่องราวของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เหมือนเป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นยอดสำหรับผู้ที่สนใจในการพัฒนาการทางด้านศิลปะวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมของไทย
และที่สำคัญคือเรารู้สึกยินดีมากที่ทางดุสิตธานีเห็นถึงคุณค่าของงานเหล่านี้และมีความประสงค์ที่จะอนุรักษ์ไว้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายาม งบประมาณ และเวลาไม่น้อยแต่ดุสิตธานีก็ยังยืนยันที่จะทำ”