แสงอาทิตย์ที่เรามองเห็นนั้นเป็นแสงขาว หากส่องผ่านปริซึมจะเกิดการหักเหและแยกออกเป็นสเปกตรัม 7 สี ตามความยาวคลื่นจากน้อยไปมาก ได้แก่ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด และแดง โดยสีแดงจะอยู่ด้านบนสุด ขณะที่สีม่วงอยู่ด้านล่างสุดของแถบสเปกตรัม สำหรับการเกิดรุ้งกินน้ำก็คล้ายกับการที่แสงส่องผ่านปริซึม เพียงแต่เปลี่ยนจากการหักเหในปริซึมเป็นการหักเหของแสงในละอองน้ำหรือหยดน้ำในอากาศแทน ดังนั้น เราจึงมักเห็นรุ้งกินน้ำหลังฝนตก เพราะช่วงเวลานั้นจะมีละอองน้ำในอากาศอยู่มาก
เมื่อพระอาทิตย์อยู่ด้านหลังของคุณและส่องแสงกระทบกับหยดน้ำ มันจะมีการหักเหภายในหยดน้ำก่อนจะสะท้อนกลับออกมาทำมุมประมาณ 42 องศา โดยแยกแสงสีตามความยาวคลื่นกลายเป็นรุ้งกินน้ำที่เราเห็น และถ้าคุณย้ายไปยืนในตำแหน่งที่ต่างออกไป คุณก็จะเห็นรุ้งกินน้ำจากละอองน้ำหยดอื่นซึ่งจะอยู่ห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ และนี่คือสาเหตุที่คุณไม่สามารถจะไปยืนอยู่ตรงปลายสุดของรุ้งกินน้ำที่เกิดหลังฝนตกได้ เพราะในทุก ๆ ตำแหน่งที่คุณยืน รุ้งกินน้ำที่คุณเห็นจะถูกสร้างขึ้นใหม่จากหยดน้ำที่ไกลออกไปเสมอ
โดยทั่วไปเรามักเห็นรุ้งกินน้ำเป็นเส้นโค้งที่ลากจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง เนื่องมาจากช่วงของมุมที่แสงตกกระทบละอองน้ำหรือหยดน้ำ ถ้าลองวาดแสงที่สะท้อนจากหยดน้ำมายังตาของเรา จะพบว่ามันมีลักษณะเป็นรูปกรวยที่นอนตะแคงอยู่ แต่จริง ๆ แล้วรุ้งกินน้ำนั้นมีลักษณะเป็นรูปวงกลมเลยละ เพียงแต่เราไม่สามารถมองเห็นมันในลักษณะวงกลมได้ครบวงเนื่องจากอยู่บนพื้นที่ราบ ถ้าอยากเห็นรุ้งกินน้ำในลักษณะวงกลมครบวง คุณต้องขึ้นไปยืนในที่สูง เช่น บนเขา หรือบนเครื่องบิน ก็อาจจะเห็นทรงกลมของมันได้
รุ้งแสงจันทร์หรือรุ้งจันทรา เป็นรุ้งที่เกิดในเวลากลางคืน ซึ่งไม่ได้พบเห็นได้บ่อยและง่ายนัก เนื่องจากรุ้งกินน้ำในเวลากลางวันเกิดจากแสงจากดวงอาทิตย์ที่ส่องกระทบละอองน้ำหรือหยดน้ำในอากาศ ขณะที่รุ้งแสงจันทร์เกิดจากแสงจากพระจันทร์ที่มีอยู่เพียงน้อยนิด ดังนั้น หากแสงจันทร์ไม่สว่างพอ โอกาสที่จะได้เห็นรุ้งแสงจันทร์ก็ยิ่งน้อยลงไปอีก
อย่างไรก็ตามนอกจากแสงจันทร์ที่ต้องสว่างเพียงพอแล้ว การเกิดรุ้งแสงจันทร์ยังจำเป็นต้องมีปัจจัยอื่น ๆ ประกอบกันด้วย กล่าวคือ ท้องฟ้าก็ต้องมืดสนิท พระจันทร์จะต้องอยู่ใกล้พื้นราบมาก ๆ โดยทำมุมน้อยกว่า 42 องศาเหนือพื้นราบ และละอองน้ำจากฝนหรือน้ำตกจะต้องอยู่ตรงข้ามกับพระจันทร์ เพื่อให้แสงจันทร์สาดส่องไปกระทบได้ ปัจจัยทั้งหมดนี้สำคัญมากต่อการเกิดรุ้งแสงจันทร์ ซึ่งถ้าคุณโชคดีพอก็จะได้เห็นรุ้งแสงจันทร์
ในบางครั้งที่เกิดรุ้งแสงจันทร์ เราอาจจะเห็นว่ามันเป็นแสงสีขาวทรงโค้ง ไม่เหมือนรุ้งกินน้ำตอนกลางวันที่มีการแยกสีสันสวยงามอย่างชัดเจน นั่นเป็นเพราะแสงจากดวงจันทร์มีน้อยมากและไม่เพียงพอที่จะสร้างสีสันให้เรามองเห็นและแยกสีได้ด้วยอวัยวะรับสีในดวงตา แต่หากใช้กล้องถ่ายรูปที่สามารถตั้งค่าการเปิดรับแสงได้มากพอ คุณก็จะสามารถถ่ายรูปรุ้งแสงจันทร์ในเวลากลางคืนได้ออกมาสวยงามเช่นกัน
แม้ว่ารุ้งจันทราจะหาชมได้ยาก แต่พวกมันก็มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นบ่อยในบางสถานที่ เช่น น้ำตกที่สร้างละอองน้ำในอากาศได้ รุ้งแสงจันทร์จะเกิดขึ้นใกล้ ๆ น้ำตกนั้น อย่างที่อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park) ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา หรือน้ำตกวิกตอเรียที่อยู่บริเวณรอยต่อของประเทศแซมเบียและซิมบับเวในทวีปแอฟริกา เป็นต้น
ภาพปก : Shutterstock