รู้รอบโลก ตอน Lost City นครที่หายสาบสูญ
ทีมงานทรูปลูกปัญญา
|
18 ม.ค. 65
 | 7.6K views



เรื่อง: พฤทธิ์ เลิศสุกิตติพงศา และ ศรินทร เอี่ยมแฟง ภาพประกอบ: อารัมภ์พร เอี่ยมวุฒิ

 Lost City 

 นครที่หายสาบสูญ 

รู้รอบโลก ตอน Lost City นครที่หายสาบสูญ

 


25 เมษายน 2558 อาจจะเป็นเพียงวันหยุดสุดสัปดาห์ปลายเดือนที่มีความสุขของใครหลายคน หากแต่อีกมุมหนึ่งของโลก โศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้นที่เนปาล จุดหมายปลายฝันของนักปีนเขาทั่วโลก ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เบื้องล่างภูเขาเอเวอเรสต์เกิดแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ในรอบ 81 ปี แผ่นดินไหวขนาดแมกนิจูด 7.8 ทำลายสถานที่สำคัญที่เคยเป็นมรดกโลกจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม
 

เมืองโบราณที่สูญเสีย
หอคอยธาราฮารา หอคอยเก้าชั้นสีขาวนวลที่เคยตั้งตระหง่านอยู่กลางจตุรัสดูร์บาร์แห่งเมืองกาฐมาณฑุ เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในเนปาล ถล่มลงมาเหลือเพียงโครงกำแพงชั้นล่างสุด แม้จะเคยรอดพ้นจากเหตุแผ่นดินไหวมาแล้วถึงสองครั้งในปี 1834 และ 1934 แต่ก็ไม่สามารถต้านทานพลังของธรรมชาติได้ในที่สุด เช่นเดียวกับ จัตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์ แหล่งมรดกโลกที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยือนเพื่อให้ได้ชื่อว่ามาถึงเนปาลแล้ว สถาปัตยกรรมเก่าแก่หลายร้อยปีหลงเหลือเพียงฐานและกองอิฐระเกะระกะ หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวรัฐบาลเนปาลก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะทำเช่นไรกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับมรดกโลก และคงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายหากจัตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์จะกลายเป็นนครที่สาบสูญ
 

ปอมเปอี สุสานใต้ลาวา
ในประวัติศาสตร์โลกเคยมีเหตุการณ์นครที่สาบสูญ หรือพูดง่ายว่าเมืองหายทั้งเมืองมาแล้ว หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวโศกนาฎกรรมแห่งเมืองปอมเปอี (Pompeii) เมืองโรมันโบราณที่ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟวิสุเวียส ปัจจุบันอยู่ในประเทศอิตาลี 700 ปีก่อนเมืองท่าแห่งนี้เป็นทำเลทองเพราะผืนดินอุดมไปด้วยแร่ธาตุจากลาวาภูเขาไฟ ทำให้คาดกันว่าปอมเปอีมีความเจริญทางเศรษฐกิจจากการเกษตรและการค้า ประมาณกันว่ามีคนอาศัยอยู่เกือบ 20,000 คน

จนกระทั่งปี ค.ศ.79 ไม่มีใครคาดการณ์มาก่อนว่าภูเขาไฟวิสุเวียสจะปะทุขึ้นจนสร้างความสูญเสียอย่างมหาศาล ในแต่ละวินาทีเถ้าถ่าน ก๊าซพิษ และหินลาวากว่า 1.5 ล้านตันพวยพุ่งออกจากปากภูเขาไฟ สูงขึ้นไปกว่า 20 ไมล์ เมืองปอมเปอีเหมือนถูกสาปให้มืดมิด ไร้แสงเดือนและตะวัน หินลาวาที่ลอยขึ้นไปและเย็นตัวลงตกพุ่งใส่เมืองอย่างไม่ปราณี ก๊าซพิษจากภูเขาไฟพัดถาโถมเข้าใส่ผู้คนพร้อมกับเถ้าถ่านจำนวนมาก ประชาชนบางส่วนหนีตายออกนอกเมือง บ้างก็หลบอยู่ภายในบ้าน

ไม่มีใครรู้ถึงเหตุผลของคนที่เลือกอยู่ต่อ ผู้เคราะห์ร้ายถูกรมทั้งก๊าซพิษและฝุ่นผงอยู่นานหลายวัน นั่นเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เถ้าและหินภูเขาไฟตกใส่ถมเป็นชั้นหนา 4-6 เมตร คนส่วนใหญ่หากไม่ถูกทับตายก็ถูกขังและฝังทั้งเป็น ยังไม่นับแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มชายฝั่งของเมืองอีกด้วย และแล้วอารยธรรมและความรุ่งเรืองที่สั่งสมมากว่าพันปีก็หายวับ กว่าจะมีการค้นพบเมืองใต้เถ้าถ่านนี้ก็ใช้เวลากว่า 1,500 ปีถัดมา

การขยับตัวของโลกเพียงครั้งเดียวทำให้แผ่นดินเลื่อนลั่น ผู้คนล้มตาย มหานครพังทลาย อารยธรรมหายสาบสูญ และนั่นก็เป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่าพลังของธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่เพียงใด
 

Did you know?
Rediscovered City

โลกของเรายังคงมีนครที่สาบสูญ ที่รอการค้นพบอยู่ในทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติจนพลังทลายหายสาบสูญ เกิดโรคระบาดถึงชีวิต หรือเกิดสงครามรุนแรงจนผู้คนอพยพออกหมด กลายเป็นเมืองร้างจนกว่าจะมีผู้ค้นพบโดยบังเอิญ อีกประเภทหนึ่งคือ นครซึ่งเคยปรากฏอยู่ในตำนานหรือบันทึกเก่าแก่ ซึ่งยังคงเป็นปริศนาที่รอให้นักโบราณคดีค้นหาต่อไป

ตัวอย่างเมืองโบราณที่เพิ่งถูกค้นพบ ได้แก่ มาชูปิกชู (Machu Picchu) เมืองสาบสูญแห่งอินคา ฮีริค (Helike) เมืองล่มสลายของกรีซ ส่วนบ้านเราก็มี สุโขทัย อยุธยา และนครวัดแห่งอาณาจักรขอม ซึ่งได้รับความคุ้มครองเป็นเมืองมรดกโลกแล้ว

 

ที่มา: นิตยสาร Plook ฉบับที่ 55 เดือนกรกฎาคม 2015