• ในฐานะนักข่าวมีมุมมองการเข้าร่วม AEC ของไทย ว่าเป็นอย่างไรบ้าง  

             ถ้าเป็นในด้านภาษาก็เป็นโอกาสดีที่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวอีกหน่อยจะต้องมีคู่แข่งเข้ามาแข่งกับเราอีกเกินหกร้อยล้านค่ะ เพราะฉะนั้นมันก็เป็นโอกาสดีที่คนที่ตื่นตัวทันจะได้รู้ว่าเราจะต้องเรียนภาษาเพราะไม่งั้นเราสู้เขาไม่ได้ ตอนเขาเข้ามาเรายังพูดภาษาอังกฤษไม่คล่องเลยแพ้เพราะว่าพวกนี้ไม่ได้เข้ามาหาเราเฉพาะวงการการศึกษา แต่เขามีอาชีพฟรีที่เปิดเข้ามาได้หกอาชีพ และนอกจากนั้นเขาก็ยังเข้ามายังส่วนต่างๆได้อีก เพราะฉะนั้นถ้าเราตอนเป็นนักศึกษาไม่ผลักดันตัวเองเรื่องภาษา เรื่องการเรียนรู้วิชาการให้ทัน อีกหน่อยเมนเนเจอร์บริษํทต่างๆเขาอาจจะไม่รับเรา เขาอาจจะรับสิงคโปร์เพราะพูดได้ nature แบบ native อังกฤษกับจีนมาอยู่แล้ว และก็ถ้าในเรื่องเศรษฐกิจคิดว่าเหมือนกัน ถ้าเราไม่ผลักดันตัวเองให้พร้อมตอนเจอคู่แข่งเราจะรู้ว่าถ้ามัวแต่ทะเลาะกันเจ็บมันเป็นไง

               ถ้าคิดว่าไทยพร้อมไหมมันมีหลายส่วน คิดว่าส่วนของกรุงเทพตรงกลาง บริษัทใหญ่ๆ โรงเรียนกรุงเทพเนี่ยมันพร้อมที่ผลักดันเรื่องภาษา ผลักดันเรื่องวิชาความรู้มันแน่นซะจนเด็กจะรับไม่ไหวอยู่แล้วในบางกลุ่ม แต่ถ้าขยายออกไปด้านชนบท เขายังไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า AEC คืออะไร จะบอกว่าความพร้อมคืออะไรอ่ะ และก็อย่างที่ไป ตอนนี้แหล่งข่าวทุกที่จะบวกคำว่าเพื่อ AEC เพื่อให้มันน่าสนใจแต่พอไปถึงบางทีมันก็ไม่ใช่นะคะหรืออย่างบางโรงเรียนติดธงเด็กท่องได้ว่าอะไรคือ AEC ลงไปสัมภาษณ์แต่อย่าถามเกินสคริปนะ เขาก็จะตอบไม่ได้ แต่อันนี้เข้าใจว่ามันเพิ่งเริ่มไม่ใช่ทุกคนที่รู้เรื่อง ตระหนักรู้ถึงเรื่อง AEC นี้ ตอนนี้เขาก็เลื่อนออกไปอีกปีหนึ่งแล้ว มันก็มีเวลาให้เรามากขึ้น การเลื่อนออกไปบางทีมันไม่ใช่ว่าสบาย แต่การเลื่อนออกไปมันน่าจะบอกกับเรามากกว่าว่าก็เพราะว่าเราดูท่าทางยังไม่พร้อมไง ก็ต้องกระตุ้นให้มากกว่านี้