แต่รู้หรือไม่ ? ตบชวาถูกนำเข้ามาในประเทศไทย ในฐานะ “ไม้ประดับ” ย้อนไปเมื่อสมัย พ.ศ. 2444 ที่ผู้ใหญ่ลียังไม่เกิด รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสอินโดนีเซีย และเจ้านายฝ่ายในที่ตามเสด็จ เห็นว่ามีดอกสวยงามดี จึงนำกลับมาในประเทศไทย และปลูกไว้ในอ่างบัว จนวันดีคืนร้ายเกิดน้ำท่วมวังสระปทุม ทำให้ตบชวาลอยไปกับน้ำท่วม และด้วยการแพร่พันธุ์อันง่ายดายและรวดเร็ว จึงเกิดเป็นปัญหาระดับชาติจนทุกวันนี้
เพราะตบชวา คือ แมลงสาปแห่งวงการพืชน้ำ เกิดง่าย ตายยาก อยู่ได้ในทุกพื้นที่และคาดว่าจะอยู่คู่โลกเราไปอีกนาน จนนับว่าเป็น Alien species ที่เข้ามาทำลายระบบนิเวศน์ในเมืองไทย ตบชวา 1 ต้น สามารถแพร่พันธุ์เป็น 1,000 ต้นได้ในเวลา 1 เดือน และถึงแม้น้ำจะแห้งขอดตลอดลำคลอง แต่เมล็ดตบชวา สามารถอยู่แบบแห้ง ๆ ได้กว่า 15 ปี เมื่อวันใดก็ตามที่น้ำมา “ตบชวา” ก็พร้อมจะเริงร่าออกมาสร้างปัญหาต่อไป
ไม่ใช่แค่ประเทศไทย เพราะใคร ๆ ก็เป็นเบื่อเป็นหน่าย “ตบชวา”
ตบชวา กลายเป็นปัญหาระดับชาติ ของกว่า 50 ประเทศทั่วโลกที่ต้องสูญเสียงบประมาณจำนวนมาก เพื่อกำจัดหรือควบคุมปริมาณ
การแก้ไขปัญหาผักตบชวาแบบ Thai Style
ประเทศไทยมีหลากหลายวิธีในการแก้ไขปัญหาตบชวา ไม่ว่าจะเอาไปลวกจิ้มน้ำพริก ซึ่งลักษณะต้องกินกันทั่วประเทศวันละ 3 มื้อถึงจะทัน เอาไปทำเป็นอาหารสัตว์ เอาไปทำกระเป๋า เครื่องจักสานต่าง ๆ กลายเป็นสินค้า Otop ส่งจำหน่าย สร้างความงดงามแบบไทย ๆ จากวัชพืชไปทั่วโลก
“ตบชวา” ไม่ได้มีค่าแค่นั้น…
ไอเดียจากคนไทย กว้างไกลเสมอ เมื่อ “ตบชวา” กลายเป็นวัสดุกันกระแทกชั้นดี ที่รักสิ่งแวดล้อม แบรนด์ไทยชื่อเก๋จำง่าย “ตบชวา” หยิบจับเอาตบชวามาทำเป็นวัสดุกันกระแทก นำวัชพืชไร้ค่า มาสร้างรายได้ให้ชุมชน เพื่อให้ทุกคนสุขใจ วันนี้เราเลยได้มาคุยกับ “กัปตันเจ” นักบินหนุ่มไฟแรง ที่หันมาจับธุรกิจที่รักษาสิ่งแวดล้อมและช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชน
ขยะจากระบบขนส่งในยุคออนไลน์ มากมายจนกำจัดไม่ไหวละ
พฤติกรรมปี 2020 ที่ F กันรัว ๆ พนักงานส่งของวิ่งเข้าออกบ้านไม่หยุด เคยเหลือบไปมองไหม ว่าวัน ๆ นึง ขยะจาก Pakaging ที่บ้านมีมากมายขนาดไหน ? ปี 2562 ไปรษณีย์ไทยเปิดเผยสถิติของการส่งพัสดุในแต่ละวัน อยู่ที่ 1 ล้านชิ้นต่อวัน และกราฟของขยะในประเทศไทย กำลังพุ่งสูงขึ้นทุกปี
ความอรรถประโยชน์ของตบชวา มาจาก Close-cells
ตัวก้านผักตบชวา เมื่อเอามาหั่นดูเราจะพบโครงสร้างเซลล์ปิด เป็นลักษณะเหมือนรังผึ้ง ขนาดเล็ก ๆ จำนวนมาก ที่มีอากาศอยู่ข้างใน นี่คือกุญแจที่ทำให้ตบชวาเป็นเลิศในแง่ของการกันกระแทก เมื่อเรานำตบชวา ตากแห้ง อบ และผ่านกรรมวิธีกระบวนการเพื่อเพิ่มคุณสมบัติด้านการป้องกันเชื้อรา เราจะได้วัสดุกันกระแทก ที่มีคุณภาพ กันกระแทกดีเยี่ยม และย่อยสลายได้
“ตบชวา” กับการทางออกเพื่อลดขยะและสร้างรายได้ให้กับชุมชน
ตบชวาที่เรานำมาจำหน่ายนั้น มาจากชุมชนริมคลอง ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วของตบชวา ชาวบ้านในชุมชน จะนำมาหั่น ตากแห้ง และจัดส่งมาเพื่อให้เรานำเข้ากระบวนการเพิ่มคุณสมบัติด้านการกันเชื้อรา เราอยากให้มันเป็นส่วนนึงของชุมชน ที่สร้างรายได้ และแก้ไขปัญหาไปในตัว
ในแง่ของคุณสมบัติในการเป็นวัสดุกันกระแทก “ตบชวา” นับว่าสอบผ่านทุกข้อ อาจจะราคาแพงกว่าวัสดุกันกระแทกบางประเภทเล็กน้อย แต่ในแง่ของการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดขยะ และประโยชน์เพื่อชุมชน นับว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว
กันกระแทกได้ดีแค่ไหน ? เท่าที่ใจของคนๆนึงจะรับไหวรึเปล่า
เรายังพูดถึงตบชวากันอยู่เนอะ 55+ มันมีการทดสอบ เรามีคลิปทดสอบความทนทาน โยนลงมาจากชั้น 5 ก็ยังไม่แตก ไม่มีปัญหาอะไรในแง่ของการใช้งาน ที่น่าห่วงเรื่องเดียวก็คือความชื้น แต่ระบบขนส่งใด ๆ การส่งสินค้าให้ลูกค้าโดยไม่เปียก ก็ควรเป็นมาตรฐานอยู่แล้วไหม
“ตบชวา” จะเปลี่ยนแปลงอะไร กับขยะในปัจจุบัน ?
คือแน่นอน แบนรด์เราจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ เราจะทำคนเดียวไม่ได้ สิ่งที่เรากำลังพยายามทำ คือการรณรงค์ การเชิญชวน ให้คุณเลือก การใช้สิ่งที่มันเกิดประโยชน์หลายทาง แค่คุณเลือกทางที่มันเกิดประโยชน์มากกว่า เมื่อคุณส่งสินค้าคุณไปให้ลูกค้า ลูกค้าของคุณเห็นก็เกิดความรู้สึกดี ๆ ไม่ว่าจะต่อแบรนด์ ต่อสังคม ต่อสิ่งแวดล้อม ว่าเออดีจังเลย วันนี้เราช่วยลดขยะให้โลกเราได้