แต่เราจะเลือกของเล่นอย่างไรให้เหมาะสมกับความสนใจ เหมาะสมกับพัฒนาการการเรียนรู้ มีความคุ้มค่า และเกิดประโยชน์ต่อลูกนั้น วันนี้เรามีคำแนะนำดีดีมาฝากกันค่ะ
ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด พ่อแม่ต้องหมั่นตรวจสภาพของเล่น ว่าชำรุด หรือมีลักษณะที่จะก่อให้เกิดอันตรายแก่ลูกหรือไม่ ดูความเหมาะสมกับพัฒนาการ เช่น ถ้าลูกยังเล็ก ก็ต้องเลือกของเล่นที่ไม่มีขนาดเล็กจนเกินไป เพราะเด็กในวัยนี้ยังชอบเอาของเข้าปาก หรือเข้าจมูก เป็นต้น
ของเล่นจะต้องช่วยเพิ่มการรับรู้ ทางประสาทสัมผัสในด้านต่าง ๆ เช่น มีเสียง มองคว้าได้ สัมผัสได้ สำหรับเด็กเล็ก ชิ้นต้องไม่เล็กเกินไป มีการเคลื่อนไหว ส่วนเด็กโต ควรเป็นของเล่นที่เริ่มมีกลไกมากขึ้น ของเล่นที่ฝึกแก้ปัญหา และช่วยให้ลูกมีพัฒนาการในการคิด
เพราะความสนใจของเด็กนั้นมักเกิดขึ้นแค่ในช่วงสั้น ๆ ดังนั้นของเล่นที่ดีควรมีความหลากหลาย และสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นได้ เช่น ตัวต่อ ไม้บล็อก เกมกระตุ้นเพื่อฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ ทำให้ลูกเกิดความตื่นตัวในการคิดค้น แก้ปัญหา
เพราะในวัยเด็กความสนใจต่อเรื่องต่าง ๆ ยังมีระยะที่สั้นมาก ดังนั้นของเล่นจึงไม่ควรมีราคาที่แพงเกินไป เพราะของเล่นบางชิ้น ลูกอาจจะเล่นไม่กี่ครั้งแล้วก็เบื่อ อีกทั้งในวัยนี้ยังไม่รู้จักเรื่องของการรักษา หรือดูแลของใช้ส่วนตัว ทำให้ของเล่นอาจจะหายหรือพังได้ ดังนั้นเมื่อลูกยังเล็ก จึงเป็นธรรมดาที่จะมีของเล่นมาก หรือต้องเปลี่ยนของเล่นอยู่บ่อย ๆ
การเลือกของเล่นให้ลูกนั้น สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ การที่ของเล่นชิ้นนั้นมีประโยชน์และไม่สร้างความขัดแย้งให้แก่คนในครอบครัว ยกตัวอย่างในปัจจุบัน ที่พ่อแม่มักจะเลือกใช้เทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วย หรือเป็นเพื่อนให้กับลูก เช่น การให้เล่น Tablet ซึ่งบางครั้ง การให้ลูกเล่น โดยขาดการตั้งกฎกติกาไว้ก่อน ย่อมก่อให้เกิดข้อขัดแย้งตามมา บางบ้านแทนที่เทคโนโลยีจะเป็นตัวช่วยให้ครอบครัวมีความสุข กับกลายเป็นตัวปัญหาที่ทำให้ พ่อ แม่ ลูก ขัดแย้งกัน ดังนั้นหากพ่อแม่คิดว่าสามารถ ควบคุมการใช้เทคโนโลยีของลูกได้ ก็สามารถซื้อให้ได้ แต่หากคิดว่าเป็นเรื่องยากในการควบคุม ก็ให้ชะลอการซื้อให้ลูกไว้ก่อน
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.