แต่จะมีพ่อแม่ซักกี่คนที่ตระหนักได้ว่า บนโลกโซเชียลนั้น คือ โลกเสมือนจริงที่ในบางครั้งสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้โพสต์ลงไป อาจก่อให้เกิดผลกระทบในภายหลังได้ วันนี้เรามีข้อคิดดี ๆ เกี่ยวกับการโพสต์เรื่องราวต่าง ๆ ลงบนโลกโซเชียลมาฝากกันค่ะ
ในบางครั้งการที่ลูกแสดงพฤติกรรมที่ไม่น่ารักออกมา ในกรณีพ่อแม่มือใหม่อาจจะต้องการแชร์สิ่งเหล่านี้เพื่อขอคำแนะนำ หรืออยากปรึกษาใครสักคน แต่จริง ๆ แล้ว ทางแก้ไขพฤติกรรมต่าง ๆ ของลูกนั้น แก้ได้ง่าย ๆ จากคนใกล้ตัวนั่นก็คือ พ่อแม่ เพราะเป็นคนที่อยู่ใกล้ตัวลูกที่สุด พฤติกรรมต่าง ๆ ที่เด็กแสดงออกมา มักจะเกิดจากสภาพแวดล้อมในตอนนั้นเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ อารมณ์ของลูก และอารมณ์ของพ่อแม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เมื่อนำมาประมวลเข้าด้วยกัน ก็จะสามารถหาคำตอบได้เองว่า เราจะจัดการกับพฤติกรรมของลูกได้อย่างไร
ดังนั้น ต่อจากนี้ขอให้พ่อแม่จงจำไว้ว่า ทุกครั้งที่จะโพสต์พฤติกรรมด้านลบของลูก การโพสต์นั้นไม่ได้เกิดประโยชน์ และอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจของลูกในอนาคตอีกด้วย
ทุกครั้งที่พ่อแม่รู้สึกผิด ไม่ว่าจะเป็นเพราะการดุ การตี หรือตะคอกลูก การโพสต์เรื่องราวเหล่านี้บนโลกโซเชียลไม่ใช่สิ่งที่ดีและเกิดประโยชน์ แต่กลับเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความไม่มั่นใจของตัวพ่อแม่เอง และสถานการณ์อาจจะยิ่งเลวร้ายลง ถ้ามีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นไปในแนวทางที่แตกต่างกับความคิดของพ่อแม่ หรือต่อว่าพฤติกรรมของพ่อแม่ ก็อาจจะยิ่งส่งผลให้สภาพจิตใจของพ่อแม่ในตอนนั้นแย่ลงไปอีก ซึ่งอาจส่งผลไปถึงลูกด้วย
ดังนั้น การโพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้วจึงไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ ทั้งยังเหมือนเป็นการย้ำเตือนถึงสิ่งเหล่านั้นให้คงอยู่รบกวนจิตใจของเรา แทนที่จะปล่อยให้เหตุการณ์เหล่านั้นเลือนหายไปตามเวลา
เรื่องราวรายละเอียดต่าง ๆ ของลูกและของพ่อแม่นั้น ควรเป็นข้อมูลที่รู้กันเฉพาะแค่คนในครอบครัว เรื่องราว ความชอบ ไม่ชอบของลูก ภาพถ่ายส่วนตัว เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่เมื่อเราโพสต์ลงโซเชียล เรื่องเหล่านี้จะไม่ใช่เรื่องแค่ภายในครอบครัวอีกต่อไป แต่จะถูกขยายและเผยแพร่ออกไปในวงกว้าง ซึ่งอาจส่งผลในเรื่องของความปลอดภัยของลูก และอาจเป็นการละเมิดสิทธิของลูกอีกด้วย เพราะเมื่อลูกโตขึ้นเรื่องราวบางเรื่อง หรือรูปภาพบางภาพ อาจเป็นสิ่งที่ลูกต้องการเก็บไว้เป็นความลับที่ไม่อยากเปิดเผยให้ใครรู้ก็ได้ หรือแม้แต่เรื่องราวส่วนตัวของพ่อแม่เองก็อาจถูกมิจฉาชีพนำไปใช้เป็นข้อมูลในการอ้างอิงทำในสิ่งผิดกฎหมายก็ได้
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.