แต่ในมุมของลูกนั้นได้จำฝังใจไปเรื่อย ๆ ซึ่งปมความกลัวที่พ่อแม่สร้างขึ้นเหล่านี้ อาจกลายเป็นปัญหาในอนาคต เพราะลูกจะกลายเป็นเด็กที่มีแต่ความกลัว ไม่กล้าที่จะลองหรือทำอะไรใหม่ ๆ เพราะกลัวพ่อแม่ห้าม กลัวตำรวจจะมาจับ
ซึ่งความกลัวที่ถูกปลูกฝังตั้งแต่เด็กเหล่านี้ จะกลายเป็นปมเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นภายในใจของลูก จนกลายเป็นกรอบที่ใหญ่ขึ้นจนบดบังความกล้าแสดงออก และแรงบันดาลใจในการแสดงความสามารถภายในตัวของลูกไป ซึ่งหากพ่อแม่ได้ทำความเข้าใจ และหันกลับมาพูดคุยและให้เหตุผลกับลูกแทนการห้าม ก็จะส่งผลดีกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติของลูกได้มากกว่า และการให้เหตุผลของพ่อแม่ก็จะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุผล และมีความสมดุลทางอารมณ์
ทุกครั้งก่อนที่จะพลั้งปากหลอกลูก ตั้งสติสักนิด ว่าเราต้องการให้ลูกเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุผล หรือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่กลัวไปหมดทุกเรื่อง เพราะความกลัวคือกำแพงสำคัญที่จะปิดกั้นลูกจากโอกาสต่าง ๆ ที่จะนำเขาไปสู่ความสำเร็จ
อธิบายในสิ่งที่ไม่อยากให้ลูกทำอย่างใจเย็น ด้วยเหตุและผล เพื่อทำให้ลูกเกิดความเข้าใจ และเกิดแรงบันดาลใจในการทำสิ่งนั้น ๆ ด้วยตนเอง เช่น แทนที่จะบอกลูกว่า รีบนอนได้แล้วเดี๋ยวผีมาหลอก เปลี่ยนใหม่เป็นว่า หนูควรรีบนอนได้แล้ว เพราะพรุ่งนี้หนูจะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปโรงเรียนให้ทันเวลา ถ้าหนูนอนดึกไปกว่านี้ หนูจะนอนไม่พอ พอถึงเวลาตื่นทำให้ไม่อยากตื่น อารมณ์ไม่แจ่มใส ที่สำคัญจะทำให้หนูไปโรงเรียนไม่ทันเวลา เป็นต้น
เพราะพ่อแม่คือต้นแบบที่ดีสำหรับลูก ดังนั้นหากพ่อแม่อยากให้ลูกทำสิ่งใด จงทำให้ลูกเห็น เป็นต้นแบบก่อนเสมอ การเป็นแบบอย่างที่ดี ใช้เหตุผลในการดำเนินชีวิต จะช่วยให้ลูกซึมซับรับรู้เรื่องเหตุและผลมากขึ้น และไม่กลัวอะไร ๆ อย่างไร้เหตุผลได้ เช่น หากจะสอนให้ลูกกลัวก็ควรจะสอนให้ลูกกลัวในสิ่งที่มีอันตราย และให้ลูกหันมาระมัดระวังความปลอดภัยของตนเอง เช่น กลัวรถชน กลัวสัตว์ที่อันตราย มากกว่าสร้างความกลัวในสิ่งที่ไร้เหตุผล
หากเราอยู่ในครอบครัวใหญ่ พ่อแม่จะต้องมีหน้าที่สร้างความเข้าใจ และแก้ไขความเข้าใจผิดให้กับทุกคนที่อยู่ร่วมกัน หากปู่ ย่า ตา ยาย ใช้วิธีการหลอกให้กลัว เพื่ออยากให้หลานนิ่งหรือเชื่อฟัง พ่อแม่ก็ควรอธิบายให้ท่านฟังว่า วิธีเหล่านี้ส่งผลเสียต่อพัฒนาการเด็กในระยะยาวอย่างไร พวกท่านอยากให้หลานเติบโตเป็นคนที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก หรืออยากได้หลานเป็นคนเก็บตัว และหวาดกลัวไปกับทุกสิ่ง
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.