เด็กแต่ละคนมีพัฒนาการและความชอบแตกต่างกัน ย่อมแสดงถึงเด็ก ๆ เหล่านั้นมีกระบวนการเรียนรู้และซึมซับประสบการณ์ที่ต่างกันด้วย เมื่อถึงวัยที่ต้องเข้าโรงเรียนอนุบาล คุณพ่อคุณแม่จึงต้องหาโรงเรียนที่เหมาะสมกับลูกน้อยมากที่สุด เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนของเขาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดเช่นกัน
ปัจจุบันมีแนวทางการเรียนการสอนสำหรับเด็กอนุบาลหลากหลายรูปแบบ จำแนกได้ แนวทาง ดังนี้
เป็นการเรียนการสอนผ่านสื่อการเรียนรู้เป็นหลัก โดยให้เด็กเลือกและสัมผัสสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ ตามความสนใจของตัวเอง ดังนั้น กระบวนการเรียนรู้ของเด็กแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไปตามความชอบและความถนัด เด็กจะมีอิสระในการเลือกกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการเรียนรู้วิชาพื้นฐานร่วมกับเพื่อนในชั้นเรียน
การสอนแบบนี้เน้นการค้นหาข้อมูลและหาคำตอบเชิงลึกในเรื่องที่เด็กสนใจ โดยผสมผสานขั้นตอนการอภิปราย ศึกษานอกสถานที่ สืบค้นข้อมูล นำเสนอหน้าชั้นเรียน และจัดแสดงผลงานอย่างง่ายไว้ด้วย เด็กจะได้เรียนรู้อย่างเป็นระบบ และสามารถนำไปต่อยอดในชั้นเรียนที่สูงขึ้นได้ จุดแข็งของการเรียนการสอนแบบนี้คือ เด็กจะได้เรียนรู้การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างเพื่อนร่วมชั้นและคุณครู กล้าคิด กล้าถาม และกล้าแสดงออก
เป็นการเรียนการสอนที่ผสมผสานศาสตร์ตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน แนวทางนี้ให้ความสนใจทั้งพัฒนาการด้านร่างกาย จิตใจ ศีลธรรม และวิชาการ ดังนั้นจึงมีกิจกรรมช่วยฝึกสมาธิ โยคะ เสริมสร้างจิตใจ และเพิ่มพูนความรู้อย่างครบถ้วน
เป็นการสอนที่เชื่อว่าการเรียนรู้ของเด็กเกิดจากความสมดุลทางความคิด ความรู้สึก และการกระทำ ถ้าเด็กอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบ เป็นสุข และผ่อนคลาน กระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ จะเป็นไปได้ด้วยดี แนวทางนี้เน้นความเป็นธรรมชาติโดยไม่พึ่งพาเทคโนโลยี ให้เด็กเรียนรู้ ค้นหา สังเกต และทำทุกอย่างด้วยตนเอง ท่ามกลางธรรมชาติรอบข้าง
เป็นการสอนที่ให้เด็กเป็นคนตั้งข้อสงสัยหรือข้อสังเกต และหาคำตอบนั้น ๆ ด้วยตนเอง ไม่ใช่การเรียนจากแบบเรียนสำเร็จ โดยที่คุณครูคอยช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ เพื่ออธิบายและตอบคำถามที่เด็กสงสัย และเชื่อมโยงทฤษฎีหรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง จนเด็กพบคำตอบด้วยตนเอง
แนวทางนี้เชื่อว่ามนุษย์มีปัญญาในตัวหลายด้าน และแต่ละคนจะมีความโดดเด่นแต่ละด้านต่างกัน จึงควรสนับสนุนเด็กแต่ละคนในปัญญาที่เขาถนัดให้ดียิ่งขึ้น และส่งเสริมด้านที่อ่อนให้พัฒนามากขึ้น โดยปัญญาแต่ละด้าน คือ ภาษา, ตรรกะและคณิตศาสตร์, มิติสัมพันธ์, การเคลื่อนไหว, ร่างกาย, ดนตรี, มนุษยสัมพันธ์, รู้ตนเอง, ธรรมชาติ และการคิดใคร่ครวญ
เป็นการสอนผ่านการเล่นและทำกิจกรรมอย่างอิสระโดยให้เด็กเป็นผู้คิดและดำเนินกิจกรรมการเล่นตัวตัวเอง เด็กจะเกิดกระบวนการคิด ความเข้าใจ และการแก้ปัญหาผ่านประสบการณ์ตรง โดยมีคุณครูคอยให้คำปรึกษา นอกจากเด็กจะได้ฝึกกระบวนการทางความคิดต่าง ๆ แล้วยังได้ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้นเรียน ฝึกทักษะการเข้าสังคม ความมีระเบียบวินัย น้ำใจนักกีฬา และความมีเหตุผลด้วย