การเล่นบทบาทสมมุติของลูกจะเกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงวัยเตาะแตะ (ตั้งแต่ 15-16 เดือน) และจะเริ่มซับซ้อนขึ้นตามพัฒนาการการเรียนรู้และช่วงวัย เช่น เริ่มนำตุ๊กตามาเล่นเป็นน้อง หรือเล่นเลียนแบบการทำกับข้าวของคุณแม่ ซึ่งการเล่นบทบาทสมมุติในลักษณะต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยบ่งชี้ให้คุณพ่อคุณแม่ทราบได้ด้วยว่า ลูกมีพัฒนาการการเรียนรู้หรือปฎิสัมพันธ์ต่อเรื่องราวต่าง ๆ รอบตัวเป็นปกติหรือไม่ และประโยชน์ของการเล่นบทบาทสมมุติยังสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้านของลูกได้ ดังต่อไปนี้
เด็กจะได้เรียนรู้การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กในการหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ เช่น ใช้หยิบหม้อ กระทะ เมื่อเล่นเป็นแม่ครัว ใช้ถักเปียตุ๊กตา เมื่อเล่นเป็นคุณแม่ หรือเรียนรู้และฝึกฝนการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ให้คล่องแคล่ว ด้วยการปีนป่าย หรือกระโดด เมื่อเล่นบทบาทสมมุติในสิ่งที่ต้องมีการเคลื่อนไหว
เด็กจะได้เรียนรู้ในเรื่องการแสดงออกทางอารมณ์ที่เหมาะสม เช่น ถ้าเล่นกับน้องตุ๊กตาต้องล่นเบา ๆ พูดเพราะ ๆ หรือถ้าล่นกับเพื่อนต้องเล่นกับเพื่อนดี ๆ มีการแบ่งปัน และรอคอย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกเกิดการเรียนรู้ และสามารถปรับอารมณ์ให้เหมาะสมเมื่อต้องออกไปเจอสังคมภายนอก เช่น โรงเรียน ได้
เด็กจะได้เรียนรู้การแบ่งปันและการเล่นร่วมกับผู้อื่น โดยใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา และเป็นการจำลองเหตุการณ์ว่าเมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาควรจะทำอย่างไร โดยในส่วนนี้พ่อแม่อาจจะร่วมเล่นด้วยการตั้งคำถาม หรือสร้างอุปสรรคให้ลูก ๆ ลองใช้ความคิด และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าดูว่าเขามีการเรียนรู้และต่อยอดจากการเล่นได้อย่างไร
โดยเฉพาะการเรียนรู้ด้านภาษา เด็กจะเรียนรู้การใช้ประโยค และคำพูดในลักษณะต่าง ๆ เพื่อนำมาสื่อสารและบอกเล่าให้พ่อแม่ฟัง พยายามที่จะแสดงบทบาทของตนเองออกมาให้ผู้อื่นเข้าใจ ผ่านการเล่นบทบาทสมมุติตามรูปแบบที่พวกเขาได้สมมุติขึ้นมา เช่น เมื่อเล่นเป็นคุณหมอ ลูกก็จะมีการคิดคำถามเด็กในแบบคุณหมอ เช่น “คนไข้ไม่สบายหรือคะ” “เดี๋ยวคุณหมอจะรักษาคนไข้นะคะ” ซึ่งรูปประโยคเหล่านี้ เมื่อเด็กได้ฝึกใช้หรือพูดบ่อย ๆ ก็จะพัฒนาไปสู่การใช้รูปประโยคที่ยาวขึ้น หรือมีการเพิ่มคลังศัพท์ใหม่ ๆ ให้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.