เด็กทุกคนชอบเล่นน้ำ และการที่ได้อาบน้ำพร้อมกับได้เล่นกับพ่อแม่ไปด้วยนั้นย่อมก่อให้เด็กเกิดความสุข อีกทั้งในระหว่างการอาบน้ำนั้น พ่อแม่ก็ยังสามารถหากิจกรรมที่ทำให้ลูกเกิดความสนุกสนานไปได้ด้วย
การที่เด็กได้เล่นฟองสบู่ระหว่างอาบน้ำนั้น นอกจากเด็ก ๆ จะเกิดความสนุกสนานในการได้ไล่จับฟองสบู่หรือเป่าฟองสบู่แล้ว ยังเป็นการฝึกการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกได้อีกด้วย โดยพ่อแม่อาจตั้งคำถามระหว่างการเล่น เพื่อให้ลูกเกิดการสังเกต เช่น ฟองสบู่เกิดขึ้นได้อย่างไร ฟองสบู่นุ่มหรือไม่ กลิ่นของสบู่เป็นอย่างไร หรือลองให้ลูกเล่นเกมไล่จับฟองสบู่ ก็เป็นการฝึกทักษะมือตาให้สัมพันธ์ได้อีกด้วย
ในช่วงเวลาของการอาบน้ำ คือช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลาย ซึ่งจะทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในช่วงเวลานี้หากพ่อแม่มีการเปิดเพลงและร่วมร้องเพลงไปพร้อมกันกับลูก ก็เท่ากับเป็นการฝึกทักษะทางภาษาที่ดีให้กับลูกได้อีกวิธีหนึ่ง
การที่ครอบครัวได้นั่งรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันนั้น แสดงให้เห็นถึงพื้นฐานความเข้มแข็งของครอบครัวในอีกทางหนึ่ง และการที่ลูกได้อยู่ในครอบครัวที่เข้มแข็งและอบอุ่น ย่อมก่อให้เกิดพื้นฐานทางจิตใจที่เข้มแข็ง อีกทั้งพ่อแม่ก็สามารถหากิจกรรมให้ลูกได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือพ่อแม่ได้อีกด้วย
โดยพ่อแม่อาจมอบหน้าที่ให้ลูกเตรียมจาน ชาม ช้อน แก้ว ให้กับทุกคน ซึ่งถือเป็นการฝึกให้เด็กมีความรับผิดชอบ อีกทั้งยังเป็นการฝึกทักษะการนับเลขไปในตัวอีกด้วย เมื่อลูกทำเสร็จพ่อแม่ก็ให้คำชมเชยเป็นรางวัล ก็จะยิ่งสร้างความสุขและความเชื่อมั่นให้กับลูกได้อีกด้วย
ช่วงเวลาของการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารเย็นนั้น ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่คนในครอบครัวแต่ละคนจะมาร่วมแชร์ประสบการณ์ที่ตนเองพบเจอมาในแต่ละวันให้กับครอบครัวได้รับรู้ เป็นช่วงเวลาแห่งการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ช่วงเวลาแห่งการแสดงความห่วงใย ช่วงเวลาแห่งการให้กำลังใจ และสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน
ช่วงเวลาของการเข้านอนถือเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของวัน หลังจากที่เด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมมาทั้งวัน ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่สมบูรณ์แบบของวันในการที่พ่อแม่จะเชื่อมสัมพันธ์กับลูก และทำกิจกรรมที่กระตุ้นประสาทสัมผัสให้กับลูก เช่น การกอด การหอม หรือการเล่านิทาน ก็จะช่วยทำให้เวลาเข้านอนมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
ถือเป็นกิจกรรมที่เด็ก ๆ ชื่นชอบที่สุด โดยเฉพาะการเล่านิทานก่อนนอน จะยิ่งเป็นการช่วยกระตุ้นอีคิวและไอคิวให้กับเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการที่ลูกได้หลับไปพร้อมกับเสียงของพ่อแม่ก็เป็นการสร้างความมั่นคงทางจิตใจให้ลูกได้อีกทางหนึ่ง พ่อแม่จะสังเกตได้ว่าการที่ลูกหลับไปพร้อมกับการเล่านิทานหรือการฟังเพลงเบา ๆ จะทำให้ลูกหลับได้นานกว่าวิธีอื่น