สมองเป็นอวัยวะที่เป็นศูนย์รวมของความคิด จินตนาการ การวางแผน การแก้ปัญหา ตลอดจนความจำ ซึ่งช่วยบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่เราได้ประสบพบเห็นมาในชีวิตประจำวัน ดังนั้นการที่เราจะฝึกให้ลูกมีความจำที่ดีนั้น เราจะต้องมีการเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมองให้มีการทำงานที่ดีควบคู่ด้วย
ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองก็คือ การที่คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรมเพื่อช่วยกระตุ้นกระบวนการทำงานของสมอง และเปลี่ยนความจำที่มีแค่ในช่วงสั้น ๆ ให้เป็นความจำที่มีระยะยาวมากขึ้น
การฝึกสมาธิเป็นวิธีการที่ดีมากอย่างหนึ่งในการช่วยเพิ่มพลังความจำอย่างได้ผล การทำสมาธิสำหรับเด็กเล็ก ๆ หมายถึงการที่เขาได้พักสงบกับตนเอง เช่น การได้นั่งระบายสี หรือการนั่งต่อจิ๊กซอว์ ก็ถือเป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง การฝึกสมาธิจะช่วยผ่อนคลายความเครียด และช่วยเตรียมให้สมองได้เปิดรับการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ และจดจำบทเรียนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
เพื่อให้เกิดความจำที่มีประสิทธิภาพ เด็กจะต้องคิดและลงมือทำเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ และสร้างความเข้าใจที่แท้จริงด้วย เมื่อกระบวนการแห่งความเข้าใจเกิดขึ้น ความจำในเรื่องนั้น ๆ ก็จะซึมลึกลงสู่สมองของเด็ก เช่น เมื่อให้ลูกเรียนเรื่องตัวเลข นอกจากเราจะสอนแค่ให้ลูกนับ 1 2 3 เราอาจจะสร้างกิจกรรมด้วยการให้ลูกไปหยิบสิ่งของตามจำนวนตัวเลขด้วย เมื่อทำกิจกรรมทั้ง 2 อย่างควบคู่กัน เด็กก็จะมีความเข้าใจ และก่อให้เกิดความจำเกี่ยวกับเรื่องตัวเลขและจำนวนได้ดีขึ้น
สมองเป็นอวัยวะที่มีแบบแผนและมีการจัดเรียงข้อมูลความจำอย่างเป็นระบบ โดยสมองจะเก็บข้อมูลความจำในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแค่ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ถ้าเรามีการจัดเก็บข้อมูลความจำให้เป็นระบบ สมองก็จะมีการเชื่อมโยงความรู้เก่าและความรู้ใหม่เข้าหากันได้ง่ายขึ้น เมื่อคุณครูสอนบทเรียนใหม่ ๆ ลูกก็จะสามารถนำความทรงจำในบทเรียนเดิม มาช่วยสร้างความเข้าใจในการเรียนบทเรียนใหม่ได้ดีขึ้น
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.