รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ กรรมาธิการการศึกษาและกีฬา ประธานคณะอนุกรรมาธิการการอาชีวศึกษา กล่าวตอนหนึ่งว่า การได้มารับฟัง และแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตครูอาชีวศึกษาจากสถาบันผู้ผลิต รวมถึงคณาจารย์จะช่วยให้คณะกรรมาธิการฯมองเห็นภาพได้ชัดเจนรอบด้าน จะได้ช่วยกำหนดแนวนโยบายในการส่งเสริมสนับสนุนการผลิตครูอาชีวะได้อย่างมีมาตรฐานและตรงจุด เพราะกำลังคนสายอาชีวะมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก
ด้าน รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวว่า การผลิตครูอาชีวะ หากมองแบบผิวเผินจะง่ายก็ไม่ง่าย จะยากก็ยาก เพราะคงไม่ใช่แค่การทำหลักสูตรออกมาแล้วทำได้ทันที หรือเอาใครก็ได้ที่จบปริญญาตรีแล้วเข้ามาเป็นครูช่าง เพราะการจะเป็นครูช่างได้นั้นจะต้องมีทักษะความรู้ด้านช่างมาก่อนจึงจะมีความเข้าใจการจัดการเรียนการสอนได้อย่างแท้จริง แม้เราจะพอทราบกันดีว่าครูช่างกำลังขาดแคลน และจะขาดแคลนหนักขึ้นเรื่อย ๆ แต่คงไม่ใช่ด้วยวิธีการดึงคนที่ไม่มีทักษะความรู้ด้านช่างเข้ามาเป็นครูอาชีวะ เพราะจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหา ควรมีการวางแผนการผลิตครูช่างระยะยาวในระบบปิด มีการคัดเลือกเด็กที่จบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่เก่ง ๆ เข้ามาเรียนครูอาชีวะ เพราะจะทำให้ได้ครูช่างที่เก่งและมีทักษะความรู้ด้านช่าง ครูกลุ่มนี้จะมีความเข้าใจเด็กที่เข้ามาเรียนได้เป็นอย่างดี
ดร.อร่ามศรี อาภาอดุล อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มทร.ธัญบุรี กล่าวว่า การผลิตครูในแต่ละกลุ่มแต่ละสาขามีความแตกต่างกัน เช่น ครูการศึกษาพิเศษ ครูที่สอนในโรงเรียนประถมศึกษา มัธยมศึกษา รวมถึงครูอาชีวศึกษา เป็นต้น การจะให้คนที่เรียนเพื่อมาเป็นครูสอนการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้วมาเป็นครูอาชีวะย่อมไม่เหมาะสม เพราะมีพื้นฐานความรู้ที่แตกต่างกัน
ดังนั้นจึงจำเป็นที่การผลิตครูอาชีวะจะต้องมีมาตรฐานและสมรรถนะเฉพาะด้าน ทั้งนี้ตนได้จัดทำเอกสารรายงานการวิจัย มาตรฐานวิชาชีพครูการอาชีวศึกษา ให้กับคุรุสภาตั้งแต่ปี 2555 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดผลักดัน หรือนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง