ความสุข 8 ประการ เป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้ตนเองมีความสุข และส่งพลังนั้นออกไปยังผู้คนรอบข้าง การงาน องค์กร สังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เชื่อว่า คนเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ที่ต้องเกิดจากความสุขภายในทั้ง 8 ประการ หากตัวเรามีความสุข ก็จะช่วยให้มีประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น
ความสุขประการแรก คือ ตั้งเป้าหมายความสุขด้วยสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง (Happy Body) การมีร่างกายที่ดีต้องสร้างด้วยการออกกำลังกาย ดังที่องค์การอนามัยโลกบอกว่าไว้ เราควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที หรือมีกิจกรรมทางกาย โดยเวลาที่เหมาะสมสำหรับวัยเด็ก อายุ 6-17 ปี ควรมีกิจกรรมทางกายวันละ 60 นาที ผู้ใหญ่ อายุ 18-64 ปี ควรมีกิจกรรมทางกาย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และผู้สูงอายุ อายุเกินกว่า 64 ปี ควรมีกิจกรรมทางกาย 150 นาทีต่อสัปดาห์ควบคู่กับการฝึกการทรงตัว
นอกจากนี้แล้ว การกินอาหารก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง โดยการลดอาหารที่มีรสชาติ หวาน มัน เค็ม ลงครึ่งหนึ่ง หรือเน้นการกินรสชาติธรรมชาติ ปรุงแต่น้อย หรือไม่ปรุงเพิ่ม กินผักผลไม้ให้ถึงวันละ 400 กรัม เพื่อห่างไกลจากโรค ไม่ติดต่อเรื้องรัง หรือ NCDs เมื่อสุขภาพกายดีแล้ว ก็ย่อมส่งผลถึงจิตใจที่ดีและแข็งแกร่งตามมาด้วย
ถัดมา คือ การตั้งเป้าหมายด้วยการเป็นผู้มีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน (Happy Heart) การแบ่งปันช่วยเหลือผู้คนรอบข้าง โดยเห็นผลประโยชน์ของส่วนรวมมาก่อนประโยชน์ส่วนตนนั้น ทำให้เราสละการยึดตนเองเป็นที่ตั้งลงได้ เพราะการทำเพื่อผู้อื่นทำให้เรามีจิตใจที่เต็มไปด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อันเป็นคุณสมบัติสำคัญที่องค์กร หรือสังคมต้องการ
ความสุขในด้านการจัดการกับอารมณ์ตนเอง ผ่อนคลายในการใช้ชีวิต (Happy Relax) เมื่อเรามีความเครียดเกิดขึ้นจากการทำงาน หรือเรื่องใด ๆ ที่เข้ามาในชีวิตแล้วกระทบกับความรู้สึกเรา สิ่งที่ต้องรีบจัดการคือ การรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเอง และผ่อนคลายต่อความรู้สึกต่าง ๆ ด้วยการสร้างความสนุกสนาน เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า ความเครียดจากการทำงาน โดยหากิจกรรมที่ตนเองทำแล้วมีความสุข เช่น ร้องเพลง เล่นดนตรี ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ฯลฯ
มีความสุขในการพัฒนาตนเองด้านการทำงาน (Happy Brain) เป็นเรื่องสำคัญที่ควรนึกถึงและตั้งเป้าหมาย เพราะในชีวิตการทำงาน ต้องมีเป้าหมายของการทำงาน การพัฒนาตนเองเพื่อให้ถึงเป้าหมาย ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างมีความสุข ถ้าหากเป้าหมายเราชัดเจน เราจะรู้ว่าต้องพัฒนาตัวเองด้านใด อย่างไรบ้าง จึงจะนำไปสู่การประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน อีกทั้งยังเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราไปสู่เป้าหมายอย่างถูกทางด้วย
ตั้งเป้าหมายความสุขจากการมีคุณธรรม ศรัทธาในศาสนาและมีศีลธรรมในการดำเนินชีวิต (Happy Soul) นอกจากศาสนาจะทำให้เรามีเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจแล้ว การเรียนรู้หลักคำสอน คุณธรรม ศีลธรรมของศาสนาที่เรานับถือ จะทำให้เรามีความสุข และเข้าใจผู้คนรอบข้างด้วยการมีเหตุผล ทุกศาสนาล้วนสอนให้มนุษย์เป็นคนดี และดำรงตนตามศีลธรรม เมื่อเรารักษาศีลหรือทำได้ตามคำสอนนั้น ๆ แล้ว ย่อมส่งผลถึงจิตใจที่มีความสุข และกระทำสิ่งดี ๆ ต่อคนรอบข้าง
มีเงินเก็บตามเป้าหมาย หรือสามารถจัดการเงินได้เป็นอย่างดี (Happy Money) เป็นความรู้ที่เราต้องเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นการออม การลงทุน ฯลฯ เป้าหมายในชีวิตของเราแต่ละคน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การมีเงินออม หรือการจัดการเงินได้อย่างดีนั้นจะทำให้เราไม่เครียด และมีความสุขกับการบริหารการเงิน เราจึงต้องฉลาดที่จะใช้เงิน และจัดการชีวิตให้เหมาะสม
ตั้งเป้าหมายความสุขในการดูแลครอบครัว ด้วยความรักและความเอาใจใส่ (Happy Family) ครอบครัวนับเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของแรงผลักดันและเป็นกำลังใจดี ๆ ที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ หมั่นแบ่งเวลาให้กับครอบครัว เติมเต็มความรักและความสัมพันธ์ภายในครอบครัวอยู่เสมอ ๆ สิ่งเหล่านี้จะเป็นแรงใจที่ยิ่งใหญ่ที่จะทำให้เราก้าวไปยังเป้าหมายที่ตั้งใจไว้อย่างเข้มแข็ง
เป้าหมายสุดท้าย เมื่อเราเติมความสุขในทุกด้านให้กับตนเองแล้ว ความสุขเหล่านั้นจะล้นออกมาจากตัวคุณเองไปสู่สังคม (Happy Society) คุณจะเป็นผู้ที่รักและดูแลองค์กร หรือสังคมของตนได้ รวมไปถึงมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานอย่างมีความสุข หากเราใช้หัวใจในการขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าตามพันธกิจและภารกิจ เราจะเป็นคนทำงานที่มีความสุขที่สุดในทุกด้าน
หากเรามองแต่การมุ่งสู่เป้าหมายในการประสบความสำเร็จเพียงอย่างเดียว โดยลืมนึกถึงความสุขระหว่างทางที่เป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายของคุณแล้วละก็ ชีวิตที่ประสบความสำเร็จแต่ปราศจากความสุขย่อมไร้ความหมาย ดังเช่น ที่คุณบัณฑิต อึ้งรังสี กล่าวไว้ว่า ‘ความสำเร็จอยู่ที่ ความสุขในการเดินทาง ไม่ใช่จุดมุ่งหมายเพียงอย่างเดียว’
ดาวน์โหลด Infographic ได้ที่ https://goo.gl/Lst9Dr
สุขสันต์ปีใหม่ พ.ศ.2560 ค่ะ
เรื่องโดย อาภาวรรณ โสภณธรรมรักษ์ Team content www.thaihealth.or.th
ขอบคุณภาพปก : Pixabay