หลายตำราบอกตรงกันว่า เวลาในการสระผมที่ดีที่สุดคือช่วงหัวค่ำ เพราะจะได้ชำระล้างคราบเหงื่อไคล และผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่เราใช้มาทั้งวัน อีกอย่างหลังสี่ทุ่มไปแล้วจะเป็นเวลาที่เซลล์หนังศรีษะของเรากำลังพักผ่อนฟื้นฟูตัวเอง จึงไม่ควรสระผมเพราะจะเป็นการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ขึ้นมาอีก
การสระผมแต่ละครั้งจะทำให้หนังกำพร้าเปิด ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพเส้นผมของเรา อย่างไรก็ตามวิถีชีวิตในปัจจุบันทำให้บางคนจำเป็นต้องสระผมทุกวัน คุณจึงควรเลือกใช้แชมพูที่เหมาะสำหรับการสระทุกวัน เพื่อถนอมเส้นผมและหนังศรีษะเราให้มากที่สุด
การเทแชมพูลงบนเส้นผมโดยตรง อาจทำให้เราทำความความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง และแชมพูอาจจะไปตกค้างตรงจุดใดจุดหนึ่งมากจนเราล้างออกไม่หมด ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหารังแคและผมร่วงได้
บางคนยิ่งเกายิ่งมัน ยิ่งออกแรงเกาหนักเข้าไปใหญ่ คุณรู้ไหมว่าการใช้เล็บเกาจะทำให้อันตรายต่อหนังศรีษะ ทำให้เซลล์ชั้นนอกหลุดลอกออกมา หรือทำให้เกิดแผลได้ วิธีที่ถูกคือใช้ปลายนิ้วกดนวดที่ศรีษะเบา ๆ ก็พอ นอกจากนี้ในการใช้ครีมนวดผม ไม่ควรให้ครีมโดนบริเวณโคนผมมากนัก ควรเว้นระยะออกมาและเน้นนวดที่เส้นผมมากกว่า
ข้อควรระวังในการสระผมคือ ต้องเช็ดหรือเป่าผมให้แห้งเสมอ เพราะการปล่อยให้ผมและหนังศรีษะเปียกชื้นอยู่เป็นเวลานาน อาจทำให้คุณเป็นหวัด ผมร่วง หรือติดเชื้อราบนหนังศีรษะได้ โดนเฉพาะการสระผมช่วงหัวค่ำก่อนนอนยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะการนอนทั้งผมเปียกยิ่งทำให้หนังศีรษะอับชื้นยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามการใช้ไดร์เป่าผมบ่อย ๆ อาจทำให้เส้นผมแห้งเสียได้ หากุณมีเวลาใช้ผ้าขนหนูเช็ดหรือใช้พัดลมเป่าจนแห้งจะดีกว่า
คนเรามีเส้นผมประมาณ 100,000 เส้น และจะร่วงวันละประมาณ 100 เส้นซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตามอาการผมร่วงสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่โรคตับ โรคไต โรคผิวหนัง กรรมพันธุ์ การใช้ผลิตพัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพหนังศรีษะ ฯลฯ ฉะนั้นหากผมร่วงมากกว่าเกณฑ์ปกติควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาต่อไป