มีการถ่ายทอดสดการประกาศผลรางวัลออสการ์ (Oscar) หรือรางวัลอะคาเดมี อะวอร์ดส์ (Academy Awards) เผยเเพร่ทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกของโลก โดยงานครั้งนี้จัดขึ้นที่โรงละครแพนเทจน์ ในฮอลลีวู้ด รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีการเผยแพร่ภาพไปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนนาดา โดยมีผู้ชมทางบ้านจำนวนมากถึง 9 ล้านคนที่เฝ้าดูอยู่หน้าจอทีวี
งานมอบรางวัลออสการ์เป็นพิธีมอบรางวัลด้านภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางที่สุดในโลก ซึ่งจัดโดยสถาบันศิลปะและศาสตร์แห่งภาพยนตร์ (Academy of Motion Picture Arts and Sciences หรือ AMPAS) เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่นักแสดง ผู้กำกับ ทีมงาน รวมถึงสื่อบันเทิงต่าง ๆ ให้พัฒนาฝีมือต่อไปในอนาคต
•พีธีมอบรางวัลออสการ์จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1929 ในรูปแบบงานเลี้ยงอาหารค่ำเล็ก ๆ ที่โรงแรมฮอลลีวูด รูสเวลท์ (Hollywood Roosevelt Hotel) ในสหรัฐอเมริกา มีอัตราค่าเข้าชม 5 เหรียญ ($) ซึ่งในตอนนั้นมีผู้ร่วมงานไม่ถึง 250 คน เนื่องจากยังไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้งานประกาศผลเป็นที่รู้จักกันมากนัก
•การจัดงานประกาศรางวัลครั้งที่ 2 ในปี 1930 ได้มีการกระจายเสียงรายงานสดผ่านทางวิทยุสู่เมืองใหญ่ ๆ ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และได้เปลี่ยนสถานที่จัดงานมาเป็นโรงแรมแอมบาสเดอร์ (Ambassador) และโรงแรมบลิทมอร์ (Biltmore)
•ปี 1953 มีการแพร่ภาพการประกาศรางวัลถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์ขาวดำเป็นครั้งแรกของโลก และแพร่ภาพเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น
•ปี 1966 เริ่มมีการแพร่ภาพการประกาศรางวัลถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์สีในปีนี้ และในปี 1969 จึงเริ่มออกอากาศทั่วโลกนับแต่นั้นมา
•สถานที่จัดพิธีประกาศรางวัลในปัจจุบัน คือ ดอลบี้เธียเตอร์ (Dolby Theatre) หรือชื่อเดิมว่า โกดักเธียเตอร์ (Kodak Theater) ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย และถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา
ในช่วงทศวรรษแรก การประกาศรางวัลสู่สาธารณชนจะทำโดยนำผลการตัดสินมอบให้แก่หนังสือพิมพ์ในเวลา 23 นาฬิกาของคืนวันงาน จนกระทั่งปี 1940 เมื่อหนังสือพิมพ์ลอสแอนเจลิสไทม์ (Los Angeles Time) ได้แอบทราบผลการตัดสินและนำไปตีพิมพ์สู่สาธารณชนก่อนพิธีประกาศรางวัลจะเริ่มขึ้น นับแต่นั้นมาผลการตัดสินจึงอยู่ในซองจดหมายที่ปิดผนึก และจะไม่มีใครทราบจนกว่าจะประกาศผลบนเวที
•รางวัลนี้มีขนาดความสูง 13 นิ้ว หนัก 8 ปอนด์ ทำจากบริทานเนียมชุบด้วยทองคำบนฐานโลหะสีดำ ออกแบบโดย "เซดริก กิ๊บบอนส์" (Cedric Gibbons) ซึ่งเป็นผู้กำกับศิลป์ของค่ายภาพยนตร์เอ็มจีเอ็ม (Metro Goldwyn Mayer หรือ MGM) และเป็นหนึ่งในสมาชิกเก่าแก่ของออสการ์นับตั้งแต่ครั้งแรกที่จัดงาน กิ๊บบอนส์ได้คิดค้นและออกแบบโดยใช้หุ่นของนักแสดงชาวเม็กซิกัน "เอมิลีโอ เฟอร์นันเดส" (Emilio Fernández) มาเป็นต้นแบบ
•ในยุคแรกฐานของรูปปั้นนั้นทำจากหินอ่อนแกะสลักเป็นชื่อรางวัลในสาขาต่าง ๆ ซึ่งมีเพียง 5 สาขาในตอนนั้น ได้แก่ นักแสดง เขียนบท กำกับการแสดง อำนวยการสร้าง และเทคนิคพิเศษ (สอดคล้องกับล้อฟิล์ม 5 แฉก)
กระทั่งปี 1945 เป็นต้นมา ฐานของรางวัลจึงได้เปลี่ยนมาทำจากโลหะแทน และเกิดเป็นรางวัลในสาขาต่าง ๆ ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
•แม่พิมพ์ต้นฉบับของรูปปั้นออสการ์ทำขึ้นในปี 1928 ที่ C.W. Shumway & Sons Foundry ในบาตาเวีย รัฐอิลลินอยส์ (Batavia, Illinois) ในแต่ละปีรูปปั้นรางวัลออสการ์จำนวนประมาณ 40 อัน จะถูกผลิตขึ้นที่ชิคาโก (Chicago) โดยบริษัท R.S. Owens หากมีรูปปั้นใดทำออกมาแล้วไม่มีคุณภาพ รูปปั้นนั้นจะถูกตัดเป็นสองท่อนแล้วนำไปหลอมละลาย
สำหรับที่มาของชื่อ "ออสการ์" (Oscar) ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ว่า "ใครเป็นผู้ตั้งขึ้น ?"
•เริ่มแรกมีการสันนิษฐานว่ามีที่มาจากนักแสดงหญิงคนหนึ่งชื่อว่า "เบตตี้ เดวิส" (Bette Davis) เธอได้กล่าวว่าเป็นผู้ตั้งชื่อรางวัลนี้จากชื่อสามีคนแรกของเธอ “แฮมมอน ออสการ์ นิลสัน” (Harmon Oscar Nelson) ซึ่งนิตยสารไทม์ก็ได้กล่าวถึงชื่อออสการ์ในบทความเกี่ยวกับงานประกาศ Academy Awards ครั้งที่ 6 เมื่อปี 1934 ขณะที่เบตตี้ขึ้นรับรางวัลด้วย
•อีกข้อสันนิษฐานหนึ่ง มาจากหนึ่งในพนักงานและเลขา ฯ ของผู้บริหารสถาบันชื่อ "มากาเร็ต เฮอริค" (Magaret Herrick)เธอได้ชมการมอบรางวัลในปี 1931 และได้เห็นรูปปั้นบนถ้วยรางวัลที่ทำให้เธอนึกถึงลุง "ออสการ์" (Oscar) ของเธอ จึงเรียกถ้วยรางวัลนี้ว่าออสการ์มาโดยตลอด เพราะฟังดูมีตัวตน และเรียกไม่ยากเหมือนชื่อ "Academy Awards" ชื่อ "Oscar" จึงกลายมาเป็นชื่อที่คนภายในสถาบันนำมาใช้เรียกกันเอง จนกระทั่งปี 1934 "วอล์ท ดิสนีย์" (Walt Disney) ได้ใช้ชื่อ "Oscar" เรียกรางวัล Academy ในขณะที่กล่าวสุนทรพจน์หลังจากขึ้นไปรับรางวัล คนทั่วไปจึงนิยมเรียกว่า "ออสการ์" (Oscar) ตาม