1,939 Views
Favorite
สธ.เผยผลสำรวจไอคิวเด็ก ป.1 ทั่วประเทศสูงขึ้น 4 จุด ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 98.2 จุด พบไอคิวมีความสัมพันธ์กับพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม หากเด็กติดสมาร์ทโฟนส่งผลพัฒนาการด้อย แนะต่ำกว่า 3 ปี เลี่ยงเล่นสมาร์ทโฟน
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยผลสำรวจไอคิวเด็กไทย ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทั่วประเทศ พบมีแนวโน้มระดับไอคิวดีขึ้นเพิ่มมาอีก 4 จุด โดยผลสำรวจปี 2559 พบว่า เด็กไทยมีระดับไอคิวเฉลี่ยอยู่ที่ 98.2 จุด จากเดิมปี 2554 วัดได้ 94 จุด ซึ่งร้อยละ 68 ของเด็กไทยพบว่ามีระดับไอคิวอยู่ในเกณฑ์ปกติ 2 ใน 3 และเด็กใน 42 จังหวัดเขตเมือง รวม กทม. มีระดับไอคิวสูงเกิน 100 จุด
ขณะเดียวกัน เด็กในอีก 35 จังหวัด มีระดับไอคิวต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งการพัฒนาในเด็กมีไอคิวสมวัยต้องเริ่มจากการปรับภาวะโภชนาการในเด็กและหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากพบว่า เด็กอ้วน เตี้ย แคระแกร็น จะเป็นเด็กที่มีไอคิวต่ำ ส่วนเด็กที่รูปร่างสมส่วนและสูง จะมีไอคิวในเกณฑ์ดี
ส่วนหญิงตั้งครรภ์ พบว่า หากในระหว่างการตั้งครรภ์มีภาวะซีด ขาดธาตุเหล็ก จะทำให้ทารกที่เกิดมามีไอคิวต่ำ ฉะนั้นต้องเน้นภาวะโภชนาการในหญิงตั้งครรภ์ ส่งเสริมให้มีการรับธาตุเหล็ก ไอโอดีน และโฟลิก เพื่อการพัฒนาของเด็กที่เกิดมา
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่า การสำรวจไอคิวเด็กไทยครั้งนี้พบว่า จังหวัดที่มีพัฒนาการด้านไอคิวดีมากขึ้น ได้แก่ จ.กระบี่ โดยได้รับความร่วมมือจากทางจังหวัด มีการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ทั้งการตั้งศูนย์เด็กเล็กคุณภาพ ส่งเสริมพัฒนาการของแม่และเด็ก ซึ่งไอคิว แม้ครึ่งหนึ่งมาจากพันธุกรรม แต่อีกร้อยละ40 มาจากสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดู โดยพบว่า เด็กที่มีไอคิวต่ำ ส่วนหนึ่งมาจากครอบครัวที่ขาดแคลน ยากจน พ่อแม่ไม่มีเวลาเลี้ยงดูใกล้ชิด แต่ก็พบว่า ไม่ว่าสังคมจะมีเศรษฐสถานะที่แตกต่างกันอย่างไร เกือบทุกครอบครัวมีสมาร์ทโฟน ทำให้เด็กสนใจติดเกมในหน้าจอ พัฒนาการด้อย ไอคิวต่ำ โดยเฉพาะในเด็กเขตเมืองที่ควรจะมีพัฒนาการสูงขึ้นกว่านี้ ทั้งนี้ ผู้ปกครองควรงดการเล่นสมาร์ทโฟนอย่างเด็ดขาดในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี.-สำนักข่าวไทย
