Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ที่ตรวจสภาพรถเสียภาษี ตรวจได้ที่ไหนบ้าง

Posted By GoBear Thailand | 07 ต.ค. 63
820 Views

  Favorite

ตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีต้องทำอย่างไรบ้าง

ขั้นตอนการตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีรถยนต์ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ตรวจสภาพรถ ตรอ. (ย่อมาจาก สถานตรวจสภาพรถเอกชน) จะต้องทำปีละครั้งตามประเภทและลักษณะการใช้งานที่กฎหมายกำหนด ซึ่งถ้าหากเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล รถที่จะต้องไปตรวจสภาพก็จะต้องมีอายุใช้งาน 7 ปีขึ้นไป

สาเหตุที่ทางกรมการขนส่งทางบกกำหนดให้เจ้าของรถยนต์จำเป็นจะต้องเอารถมาตรวจสภาพรถ ตรอ. ก็เพื่อจะการันตีว่า รถที่ใช้อยู่ยังมีความปลอดภัยครบถ้วน ขับขี่ได้ไม่เป็นอันตราย ไม่ได้มีควันดำ หรือสร้างมลพิษในอากาศ เพราะถ้าหากรถไม่พร้อมวิ่งบนถนนเนื่องด้วยสภาพรถต่างๆ ทางกรมการขนส่งทางบกก็ไม่สามารถอนุญาตให้ใช้งานได้ โดยพื้นฐานง่ายๆ ก็คือ เพื่อดูว่ารถของเราปลอดภัยดีสำหรับตัวเราเองและคนรอบข้างหรือไม่ เพราะฉะนั้นในการตรวจสภาพรถ เจ้าหน้าที่ก็จะเช็คสภาพพื้นฐานของรถทั้งหมด เช่นเบรค สภาพล้อ ระบบไฟ รวมไปถึงตัวเลขตัวถังและเลขทะเบียน ดูว่าตรงกับเล่มทะเบียนหรือไม่ และดูว่าท่อไอเสียมีควันดำหรือไม่ มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและกรองอากาศเป็นเช่นไร นั่นเอง

ที่ตรวจสภาพรถเสียภาษีมีที่ไหนบ้าง

เจ้าของรถยนต์สามารถไปตรวจสภาพรถเพื่อเสียภาษีได้ที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกใกล้บ้านได้เลย รวมทั้งสามารถฝากทางสถานตรวจสภาพรถเอกชนให้ทำธุรกรรมต่อทะเบียนและตรวจสภาพให้ได้ในทีเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของรถที่บ้านอยู่ไกลกรมการขนส่งทางบก แต่ถ้าใครสะดวกก็สามารถไปรับบริการตรวจรถเวลาไปเสียภาษีที่กรมขนส่งได้เช่นกัน

เอกสารที่ต้องเตรียมไปตรวจสภาพรถเสียภาษี

สิ่งที่ต้องเตรียมเมื่อไปตรวจสภาพรถมีดังนี้

  • เจ้าของรถต้องมาแสดงตนด้วยตัวเอง
  • ยานพาหนะที่ต้องการนำมาตรวจสภาพ
  • สมุดทะเบียนรถ
  • เงินสำหรับจ่ายค่าตรวจ โดยมีค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้
    - รถยนต์น้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม คิดราคาค่าบริการ 150 บาท/คัน
    - รถยนต์น้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม คิดราคาค่าบริการ 250 บาท/คัน
    - รถจักรยานยนต์ คิดราคาค่าบริการ 60 บาท/คัน

ขั้นตอนการตรวจสภาพรถ ตรอ.

เจ้าของรถยนต์จะต้องนำรถเข้าตรวจสภาพรถล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือนก่อนเสียภาษีประจำปี และเมื่อเตรียมเอกสารและนำรถให้เจ้าหน้าที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะทำการตรวจสภาพ หากตรวจผ่าน เจ้าหน้าที่ก็จะออกเอกสารการันตีการตรวจสภาพให้เพื่อที่เจ้าของรถสามารถนำไปใช้ยื่นเสียภาษีรถได้ต่อไป แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่ผ่านหรือมีจุดที่ต้องแก้ไข เจ้าหน้าที่จะแจ้งเหตุผลให้ทราบว่าจะต้องแก้ไขสภาพของรถในจุดใด เช่น รถอาจมีควันดำ เบรคเสื่อมสภาพ หรือระบบไฟรวน เป็นต้น

ซึ่งถ้าหากตรวจสภาพรถแล้วไม่ผ่านก็สามารถนำรถกลับไปแก้ไขแล้วค่อยกลับมาตรวจใหม่ได้ โดยถ้าหากนำรถมาตรวจสภาพที่ศูนย์บริการเดิมภายใน 15 วัน ก็จะเสียค่าบริการแค่ครึ่งเดียว แต่ถ้าหากนำรถกลับมาตรวจช้ากว่านั้นก็จะต้องจ่ายค่าบริการเต็มจำนวน หรือถ้าขอย้ายไปตรวจสภาพรถที่ศูนย์บริการแห่งใหม่ ก็ต้องเสียค่าบริการเต็มจำนวนเช่นกัน

ต้องตรวจสภาพรถ ตรอ. ปีไหน

โดยปกติแล้ว ทางกรมการขนส่งทางบกได้แบ่งประเภทของยานพาหนะที่ต้องเข้าตรวจสภาพรถตามเกณฑ์อายุดังนี้

  • รถยนต์ส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน มีอายุใช้งาน 7 ปีขึ้นไป
  • รถยนต์ส่วนบุคคล เกิน 7 คน มีอายุการใช้งาน 7 ปีขึ้นไป
  • รถบรรทุกส่วนบุคคล อายุใช้งาน 7 ปีขึ้นไป
  • รถจักรยานยนต์ อายุใช้งาน 5 ปีขึ้นไป

รถที่ไปตรวจสภาพรถกับสถานตรวจสภาพรถเอกชนไม่ได้มีประเภทไหนบ้าง

รถที่ไม่สามารถนำไปตรวจได้ มีเงื่อนไขดังนี้

  • ทำการดัดแปลงสภาพไม่เหมือนกับตอนที่จดทะเบียนไว้
  • ทำการเปลี่ยนสี เปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งจนไม่เหมือนกับรายละเอียดที่ระบุไว้ในคู่มือทะเบียนรถ เช่น การเปลี่ยนเครื่องยนต์ การเปลี่ยนชนิดน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น
  • ไม่ปรากฏตัวเลขตัวรถหรือเลขเครื่องยนต์ โดยมีรอยขูดขีด แก้ไข ชำรุด จนไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้อง
  • เจ้าของแจ้งไม่ใช้ชั่วคราว หรือแจ้งการไม่ใช้รถตลอดเอาไว้กับกรมการขนส่ง
  • รถเก่าที่มีเลขทะเบียนรุ่นเก่า เช่น กท-00001, กทจ-0001 จะต้องทำการเปลี่ยนทะเบียนรถเป็นรุ่นใหม่ก่อน
  • เคยสูญหายหรือโดนโจรกรรมแล้วได้คืน
  • ขาดต่อทะเบียนเกิน 1 ปี

รถเหล่านี้จะต้องถูกนำไปตรวจสภาพรถและต่อภาษีประจำปีที่กรมขนส่งทางบกโดยตรง

เพียงเท่านี้ เจ้าของรถยนต์ก็สามารถไปตรวจสภาพรถเพื่อเสียภาษีได้อย่างสบายใจหายห่วงแล้ว ขอแค่รถต้องอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดและอยู่ในสภาพดี ก็สามารถตรวจได้ผ่านฉลุยแน่นอน และนอกจากเรื่องการนำรถไปตรวจสภาพแล้ว การทำประกันภัยรถยนต์ก็สำคัญไม่แพ้กันที่จะทำให้เจ้าของรถยนต์อุ่นใจเมื่อเกิดเสียหรือประสบอุบัติเหตุขึ้นมา ประกันก็สามารถช่วยจ่ายได้ โดยทุกคนสามารถเข้ามาเปรียบเทียบและเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ในแบบต่างๆ ทั้งประกันชั้น 1 ประกันรถยนต์ 2+ และประกันแบบต่างๆ ที่เว็บไซต์โกแบร์ได้เลย

โกแบร์ ประเทศไทย

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • GoBear Thailand
  • 0 Followers
  • Follow