ขั้นตอนการตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีรถยนต์ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ตรวจสภาพรถ ตรอ. (ย่อมาจาก สถานตรวจสภาพรถเอกชน) จะต้องทำปีละครั้งตามประเภทและลักษณะการใช้งานที่กฎหมายกำหนด ซึ่งถ้าหากเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล รถที่จะต้องไปตรวจสภาพก็จะต้องมีอายุใช้งาน 7 ปีขึ้นไป
สาเหตุที่ทางกรมการขนส่งทางบกกำหนดให้เจ้าของรถยนต์จำเป็นจะต้องเอารถมาตรวจสภาพรถ ตรอ. ก็เพื่อจะการันตีว่า รถที่ใช้อยู่ยังมีความปลอดภัยครบถ้วน ขับขี่ได้ไม่เป็นอันตราย ไม่ได้มีควันดำ หรือสร้างมลพิษในอากาศ เพราะถ้าหากรถไม่พร้อมวิ่งบนถนนเนื่องด้วยสภาพรถต่างๆ ทางกรมการขนส่งทางบกก็ไม่สามารถอนุญาตให้ใช้งานได้ โดยพื้นฐานง่ายๆ ก็คือ เพื่อดูว่ารถของเราปลอดภัยดีสำหรับตัวเราเองและคนรอบข้างหรือไม่ เพราะฉะนั้นในการตรวจสภาพรถ เจ้าหน้าที่ก็จะเช็คสภาพพื้นฐานของรถทั้งหมด เช่นเบรค สภาพล้อ ระบบไฟ รวมไปถึงตัวเลขตัวถังและเลขทะเบียน ดูว่าตรงกับเล่มทะเบียนหรือไม่ และดูว่าท่อไอเสียมีควันดำหรือไม่ มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและกรองอากาศเป็นเช่นไร นั่นเอง
เจ้าของรถยนต์สามารถไปตรวจสภาพรถเพื่อเสียภาษีได้ที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกใกล้บ้านได้เลย รวมทั้งสามารถฝากทางสถานตรวจสภาพรถเอกชนให้ทำธุรกรรมต่อทะเบียนและตรวจสภาพให้ได้ในทีเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของรถที่บ้านอยู่ไกลกรมการขนส่งทางบก แต่ถ้าใครสะดวกก็สามารถไปรับบริการตรวจรถเวลาไปเสียภาษีที่กรมขนส่งได้เช่นกัน
สิ่งที่ต้องเตรียมเมื่อไปตรวจสภาพรถมีดังนี้
เจ้าของรถยนต์จะต้องนำรถเข้าตรวจสภาพรถล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือนก่อนเสียภาษีประจำปี และเมื่อเตรียมเอกสารและนำรถให้เจ้าหน้าที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะทำการตรวจสภาพ หากตรวจผ่าน เจ้าหน้าที่ก็จะออกเอกสารการันตีการตรวจสภาพให้เพื่อที่เจ้าของรถสามารถนำไปใช้ยื่นเสียภาษีรถได้ต่อไป แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่ผ่านหรือมีจุดที่ต้องแก้ไข เจ้าหน้าที่จะแจ้งเหตุผลให้ทราบว่าจะต้องแก้ไขสภาพของรถในจุดใด เช่น รถอาจมีควันดำ เบรคเสื่อมสภาพ หรือระบบไฟรวน เป็นต้น
ซึ่งถ้าหากตรวจสภาพรถแล้วไม่ผ่านก็สามารถนำรถกลับไปแก้ไขแล้วค่อยกลับมาตรวจใหม่ได้ โดยถ้าหากนำรถมาตรวจสภาพที่ศูนย์บริการเดิมภายใน 15 วัน ก็จะเสียค่าบริการแค่ครึ่งเดียว แต่ถ้าหากนำรถกลับมาตรวจช้ากว่านั้นก็จะต้องจ่ายค่าบริการเต็มจำนวน หรือถ้าขอย้ายไปตรวจสภาพรถที่ศูนย์บริการแห่งใหม่ ก็ต้องเสียค่าบริการเต็มจำนวนเช่นกัน
โดยปกติแล้ว ทางกรมการขนส่งทางบกได้แบ่งประเภทของยานพาหนะที่ต้องเข้าตรวจสภาพรถตามเกณฑ์อายุดังนี้
รถที่ไม่สามารถนำไปตรวจได้ มีเงื่อนไขดังนี้
รถเหล่านี้จะต้องถูกนำไปตรวจสภาพรถและต่อภาษีประจำปีที่กรมขนส่งทางบกโดยตรง
เพียงเท่านี้ เจ้าของรถยนต์ก็สามารถไปตรวจสภาพรถเพื่อเสียภาษีได้อย่างสบายใจหายห่วงแล้ว ขอแค่รถต้องอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดและอยู่ในสภาพดี ก็สามารถตรวจได้ผ่านฉลุยแน่นอน และนอกจากเรื่องการนำรถไปตรวจสภาพแล้ว การทำประกันภัยรถยนต์ก็สำคัญไม่แพ้กันที่จะทำให้เจ้าของรถยนต์อุ่นใจเมื่อเกิดเสียหรือประสบอุบัติเหตุขึ้นมา ประกันก็สามารถช่วยจ่ายได้ โดยทุกคนสามารถเข้ามาเปรียบเทียบและเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ในแบบต่างๆ ทั้งประกันชั้น 1 ประกันรถยนต์ 2+ และประกันแบบต่างๆ ที่เว็บไซต์โกแบร์ได้เลย