สักครั้งในชีวิตพิชิต SERENGETI

บุกต้นกำเนิดของภาพยนตร์ THE LION KING

___

ช่วงปลายปีนี้หลายคนวางแผนลาพักร้อนไปพักผ่อนหย่อนใจหลังจากทำงานหนักมาทั้งปี หากอยากจะหาความบันเทิงใจอีกระดับให้ชีวิตเราอยากชวนคุณมารู้จักกับดินแดนมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของแอฟริกาอย่าง เซเรนกิติ ต้นกำเนิดของภาพยนตร์ The Liong King  

เซเรนเกติ คือ

เซเรนเกติ มาจากคำว่า ไซรินกิตู (Siringitu) ในภาษามาไซ แปลว่า สถานที่ที่แผ่นดินเคลื่อนไหวตลอดกาล โดยบ่งบอกถึงความกว้างใหญ่ไพศาล ความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ป่า และแน่นอนว่าที่นี่กลายเป็นจุดหมายของนักล่าสัตว์ทั่วโลก กระทั่งปี 1951 เซเรนเกติได้รับประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติของประเทศแทนซาเนีย (ชื่อทางการ สหสาธารณรัฐแทนซาเนีย ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของแอฟริกา มีอาณาเขตติดกับเคนยาและยูกันดา) เพื่อดูแลรักษาชีวิตสัตว์ป่าหายากเหล่านี้ให้อยู่อย่างปลอดภัย เซเรนเกติมีเนื้อที่กว้างถึง 9,218,750 ไร่ เป็นที่พักพิงของสัตว์กินเนื้อและสัตว์กินพืชหลากหลายชนิดทั้งยังเป็นที่มาของภาพยนตร์ The Lion King ด้วย

สัตว์ป่าจำนวนมหาศาล

ในอุทยานแห่งชาติเซเรนเกติยังมีสัตว์หลายชนิด ทั้งหมูป่า พังพอน ม้าลาย ควายป่า กระทิง ไฮยีน่า แรดขาว แรดดำ ฮิบโป เสือดาว กาเซลล์ สิงโต และอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน โดยรวมแล้วพื้นที่แห่งนี้มีวิลเดอร์บีสถึง 1.5 ล้านตัว ม้าลายสองแสนกว่าตัว นกกว่าห้าร้อยสปีชีส์ สิงโตกว่าหลายพันตัว และอีกหลากหลายชีวิตที่หายากบนพื้นที่แห่งนี้  สำหรับสัตว์ที่มีมากที่สุดในเซเรนเกติ คือ วิลเดอร์บีส (Wildebeest) หรือ นู (Gnu) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทหนึ่งคล้ายกับวัว ขนาดตัวเท่ากับวัวบ้านแต่มีเขาคล้ายกระทิง ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่และมีการอพยพตลอดทั้งปี เราเรียกการอพยพครั้งใหญ่แบบนี้ว่า Great Migration ทุกปีในช่วงเดือนพฤษภาคมฝูงวิลเดอร์บีสจะอพยพจากเซเรนเกติ ประเทศแทนซาเนียไปยังเขตอนุรักษ์มาไซมาราประเทศเคนยา (Serengeti-Mara Ecosystem) การอพยพครั้งใหญ่นี้ไม่ใช่วิลเดอร์บีสทุกตัวที่จะรอดชีวิตเพราะระหว่างทางอันแสนยาวไกลนั้นมีเหล่านักล่ามากมายที่รอคร่าชีวิตพวกมันอยู่ และในช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน วิลเดอร์บีสจะอพยพกลับมายังเซเรนเกติอีกครั้ง นักท่องเที่ยวจึงมักจะมาเที่ยวกันช่วงปลายปีเพื่อจะได้เห็นวัฎจักรอันแสนน่าทึ่ง

วิวหลักล้านราคาหลักพัน

ในแต่ละปีมีจำนวนนักท่องเที่ยวมาเยือนเซเรนเกติกว่าสามแสนคน โดยมีค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติอยู่ที่คนละ 60 ดอลล่าร์สหรัฐ เด็กอายุ 5-16 ปี และ นักเรียน คนละ 20 ดอลล่าร์สหรัฐ ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเข้าฟรี ปัจจุบันรายได้หลักส่วนใหญ่ของอุทยานมาจากค่าเข้าชมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกันไม่ขาดสายตลอดทั้งปี

กิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว

กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อมาเยือนที่นี่เลยก็คือ Game Drive กิจกรรมส่องกล้องหาสัตว์ป่านานาชนิดในบริเวณอันกว้างใหญ่แห่งนี้ โดยมีสัตว์ 5 ชนิด (Big Five) ที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดเด็ดขาดคือ แรด เสือ สิงโต ควาย และ ช้างป่า ที่มีลักษณะอันโดดเด่น หายาก นอกจากนี้อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่เรียกว่า Great Migration หรือ การอพยพขนาดใหญ่ประจำปีของวิลเดอร์บีส ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเช่นกัน การมาเที่ยวเซเรนเกติให้ปลอดภัยนั้นต้องปฏิบัติตามกฎของอุทยานอย่างเคร่งครัด ทั้งยังมีข้อห้ามอย่างการห้ามให้อาหารสัตว์ ห้ามยื่นอวัยวะออกไปนอกตัวรถ ห้ามเดินไปไหนลำพัง และ ห้ามตะโกนหรือใช้เสียงดัง เพราะอาจทำให้สัตว์ตกใจและคุณอาจจะกลายเป็นมื้อเย็นของพวกมันก็เป็นได้

อากาศเป็นยังไง ไปเที่ยวช่วงไหนดี

อากาศของที่เซเรนกิติแบ่งเป็นแล้งและฝน ช่วงแล้งประมาณเดือน มิถุนายน – ตุลาคม อากาศประมาณ 14-27 องศา ในขณะที่ช่วงหน้าฝนแบ่งเป็น 2 ช่วงคือ Short Rains เดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม และ Long Rains เดือน มีนาคม – พฤษภาคม อุณหภูมิเท่าๆกันอยู่ที่ 15-27 องศา

ดินแดนคู่ขนานที่รอให้เราไปสัมผัส

เซเรนเกติไม่ได้เป็นเพียงแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าแต่ที่นี่มีระบบนิเวศอันเก่าแก่ที่น่าทึ่งและมหัศจรรย์จนอยากจะไปดูให้เห็นกับตาสักครั้งในชีวิต ขณะที่เรากำลังทำงานในกรุงเทพตึกสูงระฟ้า ถนนที่แน่นไปด้วยรถรามากมาย ยังมีดินแดนที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ดินแดนที่เต็มไปด้วยสัตว์มากมายที่ในชีวิตนี้เราอาจจะเคยได้ยินเพียงแต่ชื่อของมัน ดินแดนที่ชีวิตน้อยใหญ่กำลังต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดจากนักล่า ดินแดนอันน่าทึ่งของวัฎจักรการเคลื่อนย้ายอพยพไม่จบไม่สิ้น ดินแดนที่ว่านั้นมีอยู่อีกมากมายในโลกใบนี้ เช่นเดียวกับ เซเรนเกติ ดินแดนแห่งชีวิตที่กำลังเคลื่อนไหวคู่ขนานไปกับพวกเราเช่นกัน

สารคดี SERENGETI ทางทรูวิชันส์

ชวนทุกคนแพคกระเป๋าแล้วออกเดินทางไปกับเราในสารคดี SERENGETI จำนวน 6 ตอนด้วยกัน เริ่ม 14 สิงหาคมนี้ เวลา 19.05 น. ตอนใหม่ทุกวันพุธ รับชมย้อนหลังทุกวันเสาร์ เวลา 09.40 น. และ วันอาทิตย์ เวลา 11.15 น. ทางช่อง BBC EARTH (568)