เราขอเรียกที่เเห่งนี้ว่า "สมรภูมิสีเขียว" ค่ะ เนื่องจากในอดีตก่อนที่จะประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ผืนป่าเเห่งนี้คือแหล่งที่อยู่อาศัยของเหล่าผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) เเละอุทยานแห่งนี้ยังกินพื้นที่ถึง 3 จังหวัด คือ อ.ด่านซ้าย จังหวัดเลย อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก และ อ.หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
ที่สำคัญแห่งนี้คือ "โรงเรียนการเมืองการทหาร" เป็นเเหล่งการเรียนการสอนเกี่ยวกับคอมมิวนิสต์ เเละจุดนี้เราจะเห็นบ้านไม้อยู่หลายหลัง ซึ่งมีทั้งที่พักเเละสถานพยาบาลอยู่ด้วย ถ้าเรามาช่วงช่วงหน้าฝนจะเห็นหลังคาถูกปกคลุมไปด้วยสีเขียว มองเเล้วให้ความรู้สึกทั้งสดชื่น ทั้งน่ากลัวไปในที เเต่ถ้าใครมาช่วงปลายปี จะเห็นหลังคาเเละพื้นที่โดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยใบเมเปิ้ลสีเเดง เเละที่นี่ก็เป็นไม่กี่ที่ในประเทศไทยที่สามารถมาชมใบเมเปิ้ลได้
อีกจุดที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนคือ "กังหันน้ำ" เป็นกังหันน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกคิดค้นจากนิสิตวิศวะจุฬาฯ ที่เป็นหนึ่งใน ผกค. เพื่อใช้ประโยชน์จากธรรมชาติในการช่วยตำข้าว ซึ่งเห็นเเหล่งอาหารที่หล่อเลี้ยงผู้คนในพื้นที่เเห่งนี้
เรามาเริ่มเดินทางเพื่อไปชมธรรมชาติอันสวยงามกันดีกว่า โดยเราสามารถเดินชมด้วยตัวเอง หรือจะจ้างไกด์ท้องถิ่นนำชมก็ได้ซึ่งเราสามารถจ่ายเท่าไรก็ได้ เเต่เราเเนะนำให้ไปกับไกด์ค่ะ เพราะจะได้ความรู้เยอะเลยทีเดียว ทั้งในเเง่ธรรมชาติ เเละประวัติศาสตร์ ในระหว่างทางเดินนั้นเราจะเจอดอกไม้ป่าสวยๆ มากมาย
"ผาชูธง" จุดนี้เรียกว่าเป็นจุดประกาศชัยชนะก็ว่าได้ เพราะว่าทุกครั้งที่เหล่า ผกค. ชนะ เขาจะเอาธงเคียวเเดงขึ้นไปติดไปบนจุดนี้ เเละจุดนี้เมื่อขึ้นไปสามารถมองเห็นบริเวณโดยรอบได้กว้างไกลเลย
จุดต่อมา "ลานหินปุ่ม" เราจะเห็นเป็นลานหินเป็นปุ่มบริเวณกว้างอยู่ริมหน้าผา คาดว่าเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติ เมื่อเราได้ขึ้นมาถึงจุดนี้รู้สึกเย็นสบายมาก เเละเนื่องจากเป็นจุดที่ลมพัดเย็นสบายเเบบนี้ในอดีตจึงเคยใช้เป็นจุดพักฟื้นคนไข้
เเละในช่วงของการเดินกลับนั้นเราได้ผ่านจุดที่น่าสนใจอีกหลายจุด เช่น ผาหัวใจหินเป็นหินที่มีรูปร่างคล้ายหัวใจ ผานาคราชปฏิมากรรมหินธรรมชาติที่แปลกตาและเป็นจุดที่พบไลเคนที่มีที่เดียวในประเทศไทยตั้งชื่อว่าราชินีร่องกล้า เเละเนินเราสู้
เมื่อจบการเดินชมเส้นทางธรรมชาติ เราก็มาต่อกันที่ลานหินเเตกอีกนึงไฮไลท์ของภูหินร่องกล้าเเห่งนี้ เราเดินผ่านฐานพัชรินทร์เข้าไปประมาณ 300 เมตร เมื่อไปถึงเราจะเห็นหินเเตกเป็นเเนวยาว บางจุดเป็นร่องลึกคล้ายแผ่นดินเเยกตัว สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการโก่งตัวหรือเคลื่อนตัวของผิวโลก
เเละจุดสุดท้ายในเขตที่พักของอุทยานมีต้นสนขึ้นมากมายเรียงรายเป็นเเนวค่อนข้างสวยงามเลยทีเดียว สามารถมาเดินถ่ายรูปเล่นได้ เเละถ้าใครเข้ามาเเล้วเกิดหิวก็มีร้านอาหารให้บริการด้วย เเนะนำเมนูกะหล่ำปลีผัดน้ำปลาค่ะ เพราะเรามาใกล้เเหล่งที่ปลูกกะหล่ำปลีเยอะเเล้วต้องลอง
ในส่วนของการเดินทางสามารถเข้าได้ทั้งทางเพชรบูรณ์ เเละพิษณุโลกค่ะ เเต่เเนะนำให้เข้าทางพิษณุโลกทางไม่ยากเเละจะขับรถง่ายกว่า เราอยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสบรรยากาศที่นี่ดูนะคะ ธรรมชาติอันสวยงามที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันน่าสนใจ เเถมยังเที่ยวได้ทุกช่วงด้วยนะ
GPS : https://goo.gl/maps/rwYTnXeP5nM2