ปัญหาสำหรับสาวผิวมัน นอกจากหน้ามันเยิ้ม เมคอัพไหลแล้วยังเป็นสิวง่ายตามไปด้วย ชวนหงุดหงิดรำคาญใจ หลายคนจึงเข้าใจว่าการล้างหน้าบ่อย ๆ เพื่อกำจัดความมันบนใบหน้าเป็นวิธีที่สมควรทำ แต่ความจริงแล้วกลับตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เพราะผิวมันจึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษ แต่หากทำความสะอาดผิวและเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบผิด ๆ แล้วล่ะก็จะทำให้หน้ามันมากขึ้น
การรับมือกับความมันบนใบหน้าจึงไม่ใช่แค่กำจัดน้ำมันส่วนเกินให้ออกไปได้มากที่สุด แต่สิ่งจำเป็นคือเราต้องควบคุมความมันบนใบหน้าให้สมดุล เพื่อป้องกันไม่ไห้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมาหล่อเลี้ยงผิวมากเกิน จนหน้าเยิ้มเป็นกระทะทอดไข่ ฟังดูยากใช่ไหมคะ มาค่ะ ที่นี่เรามี 9 ทิปส์ดี ๆ ทำตามง่ายด้วยวิถีธรรมชาติ เพื่อให้สาว ๆ แฟน Plook Women ใช้รับมือกับความมันบนใบหน้าได้อยู่หมัด ทำอย่างไรบ้างมาดู
สำหรับสาวหน้ามัน คลีนส์ซิ่งออยคงเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่สาว ๆ เลือกใช้ในการเช็ดเครื่องสำอางออกจากใบหน้า เพราะคิดว่าจะทำให้หน้ามันกว่าเดิม แต่รู้รึเปล่า ยิ่งผิวมันมากเท่าไร ยิ่งควรต้องใช้ คลีนส์ซิ่งออย เพราะคุณสมบัติเริ่ด ๆของมันจะตรงเข้าไปจับน้ำมันส่วนเกิน ฝุ่น สิ่งสกปรก และเครื่องสำอางให้หลุดออกจากผิวและรูขุมขนได้สะอาดหมดจด และยังช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย
สาวผิวมันจึงควรมองหาคลีนส์ซิ่งออยที่มีส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากผลซีบัคธอร์น ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้ หรือส่วนผสมจากโจโจ้บาออย ซึ่งเชื่อว่ามีความใกล้เคียงกับน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว เพื่อหลอกต่อมไขมันให้ชะลอการผลิตน้ำมันมาเลี้ยงผิว ทำให้ผิวมันน้อยลง
หน้ามัน ๆ เยิ้ม ๆ อาจทำให้เราอยากล้างหน้าวันละ 8 รอบ แต่ไม่ได้นะคะ เพราะการล้างหน้าบ่อย ๆ เป็นการล้างไขมันทั้งดีและไม่ดีต่อผิวออกไปจนหมด และจะยิ่งกระตุ้นให้ต่อมไขมันเร่งผลิตน้ำมันออกมาชดเชยน้ำมันที่ถูกล้างออกไป จึงทำให้หน้ายิ่งเยิ้มหนักกว่าเดิม ดังนั้นสาว ๆ หน้ามันทั้งหลายจึงควรจำกัดการล้างหน้าให้อยู่ที่วันล 2 ครั้ง หรือหลังเสียเหงื่อมาก ๆ เท่านั้นก็พอค่ะ และอย่าลืมว่าหลังเช็ดหน้าด้วยคลีนส์ซิ่งออยแล้ว ก็ต้องล้างหน้าอีกครั้งให้สะอาดหมดจดเพื่อล้างคราบเหนียว และคราบฝุ่นออกจากผิวหน้าด้วย
หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ กรดซาลิไซลิก หรือเบนซอยเปอร์ออกไซด์ แม้ว่าสาร 2 ชนิดนี้จะช่วยกำจัดสิว แต่ก็ทำให้ผิวหน้าแห้ง กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้หน้ายิ่งมันมากขึ้น สาว ๆ หน้ามันที่มีปัญหาสิวจึงควรหันมาใช้เจลแต้มสิวเฉพาะจุด ผิวที่ไม่มีปัญหาจะได้ไม่ถูกรบกวนจนเกิดผื่นแดงเป็นปัญหาตามมาอีกค่ะ
ปัญหาของสาวหน้ามันที่พบบ่อยคือรูขุมขนกว้างและเป็นสิวง่าย จึงควรเพิ่มขั้นตอนการดูแลผิวเป็นพิเศษด้วยการมาส์กหน้าสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง นอกจากช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขน และกำจัดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าได้แล้วยังช่วยให้สาว ๆ รู้สึกผ่อนคลายความตึงเครียด และยังช่วยปลุกผิวให้ตื่นพร้อมรับการบำรุงขั้นต่อไปในขั้นต่อไปได้ด้วย
มาส์กที่เหมาะกับสาวผิวมันคือ มาส์กที่มีส่วนผสมจากกรดไฮยาลูรอนิกและ AHA ซึ่งทั้งสองส่วนประกอบช่วยจัดการปัญหาความมันบนใบหน้าได้อยู่หมัด
แม้ผิวหน้าเราจะมัน แต่ก็ยังต้องการความชุ่มชื้นไม่ต่างจากสภาพผิวอื่น เพราะหากปล่อยให้ผิวแห้ง ร่างกายจะยิ่งกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ให้ผลิตน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวมากกว่าเดิม สาวผิวมันจึงควรเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีเบสเป็นน้ำ ไม่เติมน้ำหอม เพื่อคงความชุ่มชื้นและคงความสมดุลให้ผิว เมื่อผิวอิ่มน้ำ หน้าก็มันน้อยลงนะคะ
น้ำผึ้งเรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยดูแลด้านผิวพรรณและความงามอย่างครบวงจร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และครอบคลุมทุกปัญหา ทั้งช่วยลดความมัน คืนความชุ่มชื้นให้ผิว รวมไปถึงกำจัดและยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย ตัวการเกิดสิว สาวผิวมันจึงควรเติมน้ำผึ้งลงในส่วนผสมของมาส์กหน้า ใช้แต้มสิวและรอยด่างดำ หรือนำน้ำผึ้งทาทั่วหน้า ทิ้งไว้ 2-3 นาทีแล้วล้างออกทุกวัน เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้ผิว แถมช่วยลดความมันได้ด้วย ดี๊ดีอ่ะ
ใช้โทนเนอร์หลังล้างหน้าเป็นการช่วยกระชับรูขุมขนและลดความมันบนใบหน้าได้ดี มีหลากหลายแบนด์ให้สาว ๆ เลือกซื้อ แต่สำหรับสาวผิวมันควรมองหาโทนเนอร์ที่ส่วนผสมของชาเขียว เพราะชาเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า โพลีฟีนอล มีคุณสมบัติลดการอักเสบ ควบคุมความมัน และช่วยยับยั้งแบคทีเรีย เหมาะกับสาวผิวมันและสาวที่มีปัญหาสิวสุด ๆ หรือจะเลือกทำโทนเนอร์ชาเขียวใช้เองก็ได้ วิธีง่าย ๆ โดยนำใบชาเขียวแช่ในน้ำอุ่น ทิ้งไว้สักครู่ หรือชงชาผงเติมน้ำร้อน จากนั้นรินน้ำชาใส่ในขวดสเปรย์ เท่านี้เป็นอันเสร็จ ง่ายเวอร์ ใช้ฉีดหน้าหลังล้างหน้าได้ทุกวัน
แทนที่จะแก้ปัญหาหน้ามันด้วยการตบแป้งบ่อย ๆ ยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการอุดตันรูขุมขน ลองหันมาพกกระดาษซับมันติดตัว หน้ามันเมื่อไรก็หยิบมาใช้ได้ทันที พกพาสะดวก โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน และเป็นการควบคุมความมันที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง ไม่ต้องพอกแป้งหนา ๆ หน้าไม่มัน ไม่วอก ไม่ลอย สิวน้อยลงอีกต่างหาก
อีกขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิวมัน คือ การกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรกที่อาจตกค้างจากการล้างหน้า การกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดการอุดตันของต่อมไขมัน และป้องกันการเกิดสิว
สครัปผิวจากธรรมชาติอย่างข้าวโอ๊ตหรืออัลมอนด์บด จะช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกได้อย่างอ่อนโยน และไม่ทำให้ผิวแห้งเกินไป ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เติมน้ำผึ้งลงในข้าวโอ๊ตหรืออัลมอนด์บด ผสมให้เข้ากัน นำมาขัดเบา ๆให้ทั่วใบหน้าแล้วล้างออก แต่ไม่ควรสครัปหน้าเกินสัปดาห์ละ 2 ครั้งนะ
แม้จะยังไม่มีการวิจัยทางวิทยศาสตร์ออกมารองรับความเชื่อเรื่องนี้ แต่ในด้านการแพทย์พื้นบ้านของหลาย ๆ ทวีปก็เชื่อว่า การกินอาหารมัน ๆ ทอด ๆ จะทำให้หน้ามันมากขึ้น เป็นสิวง่ายขึ้น อีกอย่างหากสาว ๆ หันมากินคลีน เน้นการกินผักสด ผลไม้สด ถั่ว และธัญพืช ซึ่งล้วนมีสารอาหารครบถ้วนและดีต่อร่างกายมากกว่า ย่อมต้องดีกับร่างกายรวมไปถึงสุขภาพผิวมากกว่าอยู่แล้ว จริงไหมคะ