งานนี้จัด ณ ลานกิจกรรม ถนนรัชดาภิเษก ซอย 8 เดินทางง่าย ๆ โดยขึ้น MRT ลงสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ทางออกที่ 2 เดินไปนิดหน่อยก็เจอทางเข้างาน ซึ่งพื้นที่ตรงข้ามห้างเอสพลานาดนี้ร้างมานาน พอเห็นเขาจัดสวนเรืองแสงแห่งใหม่เท่านั้นล่ะ เลยรีบเข้าไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศมาฝากกัน ... แค่ก้าวแรกตอนเข้างานศิลป์แสงก็ขนลุกแล้วค่ะ เพราะเขาต้อนรับเราด้วยซุ้มประตูสีทองสว่างไสว ถือเป็นจุดถ่ายรูปจุดแรกที่ต้องรีบถ่ายโดยเร็ว เพราะเดี๋ยวคนจะเยอะ หลังจากพ้นซุ้มประตูเข้ามาเราจะพบกับโซนทั้งหมด 5 โซนด้วยกันค่ะ
โซนนี้นับเป็นโซนหลักของศิลป์แสงเลยค่ะ เพราะเป็นการโชว์ความสวยงามของแสงไฟที่จัดเป็นรูปร่างต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสวนดอกไม้ นักษัตร อุโมงค์สายรุ้ง และตุ๊กตาขนาดใหญ่อีกมากมาย ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 30 ไร่ทำให้เดินถ่ายรูปกันเมื่อยขาไปหมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะมุมไหนก็สวยไปหมด อ้อ ! แต่ต้องระวังอย่าทำลายไฟดวงน้อย ๆ ที่จัดแสดงอยู่ด้วยนะคะ เราต้องช่วยกันรักษาของสวยงามให้อยู่ถ่ายรูปไปนาน ๆ นะ
เป็นนิทรรศการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ภายในเล่าเรื่องเกี่ยวกับในหลวงทั้ง 2 พระองค์พร้อมภาพประกอบค่ะ
โซนนี้จะอยู่ด้านหน้าตอนเข้ามาในศิลป์แสงเลยค่ะ โดยจะอยู่ทางซ้ายมือของเรา เป็นซุ้มเกมเพื่อการกุศล มีตั้งแต่เกมปาโป่ง ปาป๋อง ปาเป้า โยนห่วง และโยนบอล จุดเด่นของเขาอยู่ที่การแปลงของรางวัลที่เราได้จากการชนะการเล่นเกม เป็นสิ่งของสำหรับมอบให้หน่วยงานการกุศลและมูลนิธิต่าง ๆ ได้แก่ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย, บ้านเฟื่องฟ้า, สถานสงเคราะห์เด็กอ่อน ปากเกร็ด, บ้านราชาวดีหญิง และบ้านนนทภูมิ นอกจากจะสนุกแล้ว ยังได้บุญด้วยนะคะ
เมื่อเดินถ่ายรูปจนหนำใจ ท้องก็เริ่มหิว โซนสตรีทฟู้ดนี้อยู่ด้านในสุดเลยค่ะ เป็นลานกว้าง มีโต๊ะจำนวนมากตั้งอยู่ตรงกลาง รายล้อมไปด้วยสตรีทฟู้ดมากหน้าหลายตา มีตั้งแต่อาหารอีสาน ฝรั่ง ไปจนกระทั่งอาหารจีนและอาหารญี่ปุ่น แถมยังมีเครื่องดื่มสมุนไพรและชาไข่มุกให้เลือกซื้อกันอีกด้วย
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ ด้านหน้าของลานยังมีเวทีไว้ฟังดนตรีสดเพลิน ๆ ในบางวันก็มีมินิคอนเสิร์ทด้วยนะ
สำหรับโซนสุดท้ายนี้จะอยู่ลึกสุด ใกล้กับโซน Street Food ค่ะ เห็นโซนนี้เด่นเป็นสง่าด้วยพวงไฟระย้าสีทองสวย นิทรรศการนี้นำเสนอแสง สี เสียง ประกอบบทเพลงพระราชนิพนธ์ทั้ง 5 เพลง ได้แก่ อาทิตย์ อับแสง (Blue Day), แว่ว (ECHO), ใกล้รุ่ง (Near Dawn), แผ่นดินของเรา (Alexandra) และ ในดวงใจนิรันดร์ (Still on my mind) เรียกง่าย ๆ กว่าใครชอบการแสดงแบบ Light and Sound ไม่ควรพลาดนะคะ โดยเขาจะเปิดให้ชมเป็นรอบ รอบละ 12 นาที เริ่มรอบแรกเวลา 19.00 น. หากใครสนใจจะเข้าชมนิทรรศการสามารถรับตั๋วเข้าชมได้ที่จุดบริการหน้าห้องนิทรรศการได้เลยค่ะ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ @ThailandIlluminationFestival2017