เพราะริมฝีปากของเราไม่มีต่อมไขมันที่ช่วยสร้างน้ำมันเพื่อปกป้องผิวเหมือนผิวหนังส่วนอื่น และต้องสัมผัสทั้งอาหารและสารเคมีต่าง ๆ ทำให้ริมฝีปากสวย ๆ ของเราแห้งแตกง่าย บางคนเข้าใจผิดคิดว่าการเลียปากบ่อย ๆ เป็นการเพิ่มความชุ่มชื่นให้ริมฝีปาก แต่การเลียปากบ่อย ๆ นอกจากทำให้เสียบุคลิกแล้วยังทำให้ปากแห้งมากยิ่งขึ้นเพราะเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยอาหารในน้ำลายจะไปรบกวนริมฝีปากให้แห้งมากขึ้นไปอีก มาทำความรู้จักกับอีก 7 ตัวการสำคัญที่ทำให้ริมฝีปากแห้งและหมองคล้ำ มีอะไรบ้างที่ทำอยู่แล้วเป็นการทำร้ายเรียวปากแสนสวยของเรา
ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากอาจทำให้บางคนเกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะชนิดที่มีส่วนประกอบของสารที่ทำให้เกิดรสชาติเย็นซ่า สารเพิ่มความสดชื่น สารทำให้เกิดฟองและมีฟูลออไรด์ปริมาณสูงก็ทำร้ายริมฝีปากได้
เครื่องสำอางที่สาว ๆ ขาดไม่ได้ ตัวการทำร้ายริมฝีปากอาจเกิดจากสี น้ำหอมหรือสารกันบูด โดยเฉพาะลิปติกราคาถูกเพราะอาจไม่ได้มาตราฐาน แต่ลิปติกราคาแพงบางครั้งก็อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน ก่อนซื้อสาว ๆ อาจต้องทำการทดสอบการแพ้ให้แน่ใจก่อน
ได้แก่ ลม ความแห้ง ความเย็นโดยเฉพาะในหน้าหนาว หรือสาว ๆ ที่ต้องทำงานในห้องแอร์ตลอดเวลา และแสงแดดก็มีส่วนทำร้ายเซลล์ผิวบริเวณริมฝีปากด้วยเช่นกัน
ผลไม้บางชนิดมียางอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่ริมฝีปาก ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างส้ม สับปะรด หรือมะม่วง ผักบางอย่างเช่น ขึ้นฉ่าย ผักชี หอม กระเทียม ขิง ล้วนมีสารที่ชื่อว่า โซราเลน (Psoralen) เมื่อสัมผัสกับรังสี UV จากแสงแดด จะก่อปฏิกริยาเคมีทำให้ผิวหนังอักเสบและกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีออมามากจนริมฝีปากดำคล้ำ หรือบางคนดื่มน้ำน้อยทำให้ริมฝีปากขาดความชุ่มชื้นแห้งแตกได้เช่นกัน
ยาบางชนิดทำให้ริมฝีปากแห้ง เช่นยาลดน้ำมูก ยารักษาสิวกลุ่มเรตินอยด์ (กลุ่มกรดวิตตามินเอ)
หากร่างกายไม่แข็งแรงมีโรคประจำตัวบางอย่างเช่น โรคโลหิตจาง เจ็บป่วยเรื้อรัง มักมีริมฝีปากแห้งและซีดเซียว สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจบางประเภทหรือคนที่ขาดวิตตามินบี อาจทำให้ริมฝีปากดูคล้ำกว่าคนทั่วไป
แม้จะไม่ส่งผลทันที แต่เมื่อสูบต่อเนื่องเป็นเวลานานริมฝีปากจะมีสีคล้ำขึ้น