เฮอร์แปงไจน่า (Herpangina) หรือโรคตุ่มแผลในปากเด็ก เป็นโรคที่ติดเชื้อจากไวรัสชนิดเดียวกันกับมือ เท้า ปาก แต่มีอาการที่แตกต่างกันคือจะมีแผลเฉพาะที่ปากเท่านั้น ขณะที่โรคมือ เท้า ปาก จะมีผื่นขึ้นที่ฝ่ามือและฝ่าเท้าร่วมด้วย สามารถติดต่อกันได้ผ่านทางละอองน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ และอุจจาระ กลุ่มเสี่ยงของโรคเฮอร์แปงไจน่าส่วนมากจะเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 10 ขวบ และเจอในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กยังไม่มีภูมิต้านทานของเชื้อนี้ โดยตัวเชื้อจะอยู่ได้นานในอากาศเย็นและชื้น จึงระบาดมากในฤดูฝน แต่ก็สามารถพบได้ในทุกฤดู
1. มีไข้เฉียบพลัน ไข้อาจสูงถึง 41 องศาเซลเซียส
2. ปวดศีรษะ ปวดตามตัว อาจอาเจียนและเจ็บบริเวณเพดานปาก ภายในลำคอ ลิ้นไก่ หรือทอนซิล
3. ภายใน 24 ชั่วโมง จุดแดง ๆ จะกลายเป็นตุ่มแดงขนาดเริ่มต้น 1-2 มิลลิเมตร แล้วกลาย เป็นตุ่มน้ำขนาด 2-4 มิลลิเมตร มีประมาณ 6 ตุ่ม
4. หลังจากผ่านไปประมาณ 2-4 วัน ไข้จะค่อย ๆ ลดลง แต่แผลอาจคงอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์
1. รักษาตามอาการเจ็บป่วย เพราะโรคเฮอร์แปงไจน่ามักหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์
2. เช็ดตัวเป็นระยะเพื่อลดไข้
3. รับประทานอาหารอ่อน ๆ เคี้ยวง่าย กลืนง่าย
4. ให้ดื่มน้ำเย็น นมแช่เย็น หรือไอศกรีม เพราะความเย็นจะช่วยให้บริเวณปากรู้สึกชา ช่วยให้เด็กรับประทานอาหารได้มากขึ้น
5. จิบน้ำบ่อย ๆ เพราะร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ
6. หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำผลไม้ หรือรับประทานผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เพราะอาจไปกระตุ้นให้แสบแผล หรือเป็นแผลมากขึ้นได้
โรคเฮอร์แปงไจน่า จะไม่แสดงผลทันทีที่ได้รับเชื้อ แต่เชื้อจะอยู่ในระยะฟักตัวประมาณ 1-2 สัปดาห์ คุณพ่อคุณแม่ที่สังเกตเห็นว่าลูกไม่สบาย มีอาการเจ็บคอ เจ็บปาก พบจุดสีแดงภายในปาก หรือมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ อาทิ ไข้สูงลอย กินอาหารไม่ได้ หรือปัสสาวะน้อยและมีสีเข้มผิดปกติ ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป