ท่อน้ำตาอุดตัน คือ ภาวะที่ท่อน้ำตาไม่เปิดเข้าสู่โพรงจมูกตามปกติ จึงทำให้น้ำตาที่ถูกสร้างเอ่อล้นออกมาให้เห็นที่เบ้าตาจนเกิดอาการตาแฉะได้ อาจเป็นเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง ซึ่งส่วนใหญ่พบได้ในเด็กทารกแรกเกิดและจะหายเป็นปกติก่อนเด็กอายุ 1 ขวบ และภาวะท่อนำตาอุดตันนี้มักเกิดกับเด็กที่คลอดก่อนกำหนด เนื่องจากแผ่นพังผืดที่เป็นรูทางออกของท่อน้ำตาถูกปิดไว้ ทั้งที่ปกติแล้วแผ่นพังผืดนี้จะถูกเปิดเองในช่วงใกล้ครบกำหนดคลอด
• เยื่อที่ปิดอยู่ตรงปลายท่อน้ำตาไม่ยอมหลุดลอก ปกติแล้วในเด็กแรกเกิดจะมีเยื่อบาง ๆ ปิดอยู่ที่ปลายท่อน้ำตา โดยส่วนมากเยื่อนี้จะหายไปเองเมื่ออายุประมาณ 1 เดือน แต่ยังมีส่วนน้อยที่เยื่อไม่หลุดออกไป ทำให้เกิดการอุดตันที่ปลายท่อน้ำตา
• เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุตา เนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรียขณะคลอด ทำให้มีขี้ตาลงไปอุดก็เป็นไปได้
• ภาวะนี้พบค่อนข้างบ่อย ในเด็กทารกประมาณ 30% อาจจะเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ บางคนจะหายได้เองภายใน 2-3 เดือน หลังคลอด แต่ในบางคนที่ไม่หายก็ต้องได้รับการรักษา
คุณพ่อคุณแม่ลองสังเกตดูว่าลูกมีน้ำตาซึม คลอเบ้าตลอดเวลา มีขี้ตาสีเขียวเหลืองบ่อย ๆ หรือไม่ ถ้ามีอาการเหล่านี้ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยได้ถูกต้อง เพราะอาการตาแฉะ มีน้ำตาคลอตลอดเวลานั้นอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น เยื่อบุตาอักเสบ กระจกตาอักเสบ หรือมีสิ่งแปลกปลอมในตาก็ได้
การรักษาเริ่มโดยการพาเด็กไปพบแพทย์ก่อนเป็นอันดับแรก และแพทย์จะได้แนะนำวิธีการดูแลที่ถูกต้องเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มาดูแลต่อได้อย่างถูกวิธี สำหรับวิธีง่าย ๆ สามารถทำได้ด้วย “การนวดหัวตา” โดยมีวิธีการดังนี้
1. เริ่มจากพ่อแม่ล้างมือให้สะอาด ตัดเล็บให้สั้น
2. ใช้นิ้วชี้กดที่หัวตาที่อยู่ระหว่างหัวตากับสันจมูก แล้ววนนิ้วเบาๆ ไล่ลงมาตามข้างสันจมูกเพื่อสร้างแรงดันไปดันพังผืดที่ปิดรูทางออกของท่อน้ำตาให้ทะลุออกไป
3. ทำข้างละ 20 ครั้ง วันละอย่างน้อย 4 รอบ โดยแบ่งเป็นเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน
4. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการนวดควรเป็นตอนที่ลูกหลับหรือทานนมเพื่อจะได้ทำโดยง่าย
การนวดหัวตาถือสำคัญมาก ๆ เพราะจะช่วยให้ท่อน้ำตาเปิดเร็วขึ้น และถ้าหากช่วงใดที่เด็กมีขี้ตามาก แพทย์อาจให้ยาฆ่าเชื้อมาหยอดตามาใช้ร่วมด้วย เพื่อป้องกันการอักเสบ ช่วยไม่ให้ตาติดเชื้อได้