ถึงแม้ว่าโรคไตจะมีสาเหตุหลักมาจากการรับประทานอาหารในปริมาณมากเกินไป หรือรับประทานอาหารในสัดส่วนที่ไม่เหมาะสมจนส่งผลให้ไตทำงานหนัก แต่สำหรับเด็ก ๆ โรคไตอาจมาจากสาเหตุอื่น ๆ อาทิ ความผิดปกติของโครงสร้างไตและระบบทางเดินปัสสาวะตั้งแต่กำเนิด ภาวะเนื้อไตผิดปกติ ภาวะไตอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ลำคอหรือผิวหนัง พันธุกรรม และโรคเอสแอลอี (โรคภูมิต้านทานทำลายเนื้อเยื่อตัวเอง) เป็นต้น
• ปัสสาวะผิดปกติ เช่น เป็นฟอง สีแดงหรือสีเหมือนน้ำล้างเนื้อ ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะออกกระปริบกระปรอย บางรายจะออกมากหรือน้อยกว่าปกติ
• มีอาการบวมตามใบหน้า หนังตา ขา หรือบวมทั่วตัว
• อาการอื่น ๆ เช่น ซีด เหนื่อยง่าย หรือตัวเล็ก
ทั้งนี้ อาการของเด็กแต่ละคนอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคไตด้วย หากคุณพ่อคุณแม่พบเห็นสัญญาณต่าง ๆ เหล่านี้ หรือมีอาการเพิ่มเติม อาทิ เป็นไข้สูง ปัสสาวะขัด หรือปวดท้องน้อย ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาที่ถูกต้องโดยทันที ถ้าปล่อยทิ้งไว้หรือไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที เด็กอาจเข้าสู่ภาวะไตวายเรื้อรัง ส่งผลให้เด็กเจริญเติบโตช้าเพราะร่างกายขาดสารอาหาร และขาดฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโตได้
คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ ของลูก หากพบความผิดปกติหรือลักษณะอาการของโรคไต ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและแก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไต
คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลสุขอนามัยภายในบ้านและนอกบ้านของลูกให้เหมาะสม เช่น ทำความสะอาดทุกครั้งหลังปัสสาวะ ไม่กลั้นปัสสาวะ ถ่ายปัสสาวะออกจนสุดโดยไม่เร่งรีบ และดื่มน้ำให้เพียงพอ
เนื่องจากโรคไตมีหลายชนิด และยารักษาโรคเองก็มีหลากหลายสรรพคุณ ดังนั้น ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาที่เหมาะสม ในปริมาณที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันกระทบที่อาจเกิดกับไตของเด็ก
คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างบรรยากาศการรักสุขภาพให้สนุกสนานและน่าดึงดูดใจด้วยการหากิจกรรม หรือหาเทคนิคสนุก ๆ อาทิ การเล่นวิ่งไล่จับ การทำอาหารร่วมกันของครอบครัว การเล่านิทานประกอบการกินผัก การให้รางวัลคนไม่กินขนมจุบจิบ เป็นต้น เพื่อฝึกวินัยในการกินอาหารที่มีประโยชน์ และให้เด็กออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
หากร่างกายมีการสูญเสียน้ำมากเกินไป ได้รับน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือท้องเสียรุนแรง จะส่งผลให้ไตทำงานหนัก ต้องดื่มเกลือแร่ทดแทน หรือไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง