วันว่าง ๆ เลยลองไปเดินดูครีมบำรุงผิวเล่นที่ Watson แล้วก็พบกับเจ้าสิ่งนี้ค่ะ เจลบำรุงผิว 3 สูตรจาก Arra Topface (จริง ๆ ที่สะดุดตาเพราะป้าย 1 แถม 1 นี่ล่ะค่ะ แหะ ๆ ) ฉวยมาอย่างไวแบบไม่ต้องคิดเลย เพราะนี่ก็เป็นหนึ่งในสาวกว่านหางจระเข้เหมือนกัน มีไว้ติดบ้านตั้งหลายต้น สารพัดประโยชน์สุด ๆ
ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเจลว่านหางจระเข้บ้านเรามีเยอะมาก หลากหลายยี่ห้อจนงงไปหมดค่ะ แต่ Arra Topface นี่ติดอันดับไอเท็มขายดีสุด ๆ ของ Watson มาหลายสมัยแล้ว ถ้าไม่ได้ลองนี่ถือว่าพลาดจริง ๆ นะ มาค่ะ เรามาทำความรู้จักเจลทั้ง 3 สูตรนี้ไปพร้อมกันดีกว่าว่าทำไมถึงดีนักหนา
เจลตัวนี้คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีค่ะ เพราะเป็นสูตรแรกที่เขานำเข้ามาจากเกาหลี เนื้อเจลเขาจะใส ๆ เนียน ๆ พอลองทากับผิวแล้วรู้สึกเย็นสบาย เผลอไม่ทันไรเจลก็ซึมเข้าผิวไปหมดแล้ว เหลือไว้แค่กลิ่นหอมอ่อน ๆ เท่านั้นเองค่ะ ปลื้มพอสมควรแต่ยังไม่สุดนะ
เจลสูตรนี้ขอบอกว่าพอเปิดกระปุกมาแอบอึ้งค่ะ เพราะเนื้อสัมผัสมันคล้ายวุ้นมาก ๆ ซึ่งแตกต่างจากเจลว่านหางจระเข้ทั่วไป พอทาลงไปเนื้อเจลก็แตกตัวกลายเป็นน้ำใส ๆ ซึมเข้าผิวไปเลยล่ะค่ะ ขอบอกว่าติดใจตัวนี้มาก เพราะแปลกใหม่และเซอร์ไพรส์สุด ๆ แถมกลิ่นยังอ่อนกว่า Aloe Vera Soothing & Moisture Gel ด้วยนะคะ สำหรับสาว ๆ ที่ไม่ค่อยชอบกลิ่นน้ำหอมมากนัก แนะนำตัวนี้เลยค่ะ
อีกหนึ่งสูตรที่แหวกแนวออกมาจากเจลว่านหางจระเข้ค่ะ เห็นแปลกดีเลยลองซื้อมาด้วย เขาระบุไว้ว่าเป็นสารสกัดจากเมือกหอยทากเข้มข้น ช่วยฟื้นฟูผิวจากมลภาวะและเสริมความแข็งแรงให้ผิวได้ ผลจากการทดลองใช้ก็ชอบนะคะ ให้เนื้อสัมผัสเหมือนเจลว่านหางจระเข้เลย เนื้อเย็นสบาย ซึมเข้าผิวง่าย แต่ติดตรงที่กลิ่นน้ำหอมแรงไปนิดหนึ่ง อาจไม่เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ชอบกลิ่นหอมอ่อน ๆ และเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าต้องการให้ผิวหอมติดทนนานล่ะก็ ต้องลองค่ะ
นอกจากสรรพคุณที่เล่ามาแล้ว เจลทั้ง 3 สูตรของ Arra Topface ยังปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองทั้ง 4 ชนิด ได้แก่ Benzophenone (สารกันแดด), Mineral Oil (น้ำมันจากแร่ธาตุธรรมชาติ), Artificial Coloring (สีสังเคราะห์) และ Paraben (สารกันบูด) ด้วยนะคะ รับรองว่าสาว ๆ ผิวแพ้ง่ายทั้งหลายใช้ได้แน่นอนค่ะ
ต่อมา เรามาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 สูตรนี้กันดีกว่าว่าเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน การซึมสู่ผิว และผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไหม เรียงลำดับจากซ้ายไปขวานะคะ คือ Aloe Vera Soothing & Moisture Gel, Aloe Vera Soothing Gel และ Snail Soothing Gel ค่ะ
ขอบอกว่าตอนลองทาผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 สูตรลงบนแขนหลังจากนำออกมาจากตู้เย็นนี่เป็นอะไรที่ขนลุกสุด ๆ เลยค่ะ เพราะมันเย็นเข้าไปถึงข้างในเลย นี่ถ้านำมาโปะเป็นมาส์กหน้าคงฟินไม่ใช่น้อย …อะนอกเรื่องอีกแล้ว เรามาดูผลการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์กันต่อเลยดีกว่าค่ะ
ทั้ง 3 สูตรซึมง่ายพอ ๆ กันเลยล่ะค่ะ แต่ Aloe Vera Soothing & Moisture Gel จะซึมเร็วที่สุด รองลงมาคือ Snail Soothing Gel และปิดท้ายด้วย Aloe Vera Soothing Gel เหตุที่เนื้อวุ้นของเราซึมช้าที่สุด อาจเป็นเพราะความเป็นวุ้น ทำให้ต้องทาเจลจนกว่าวุ้นจะแตกตัวและซึมเข้าผิวนั่นเองค่ะ ใครที่ชอบการอโรม่า ค่อย ๆ นวด ค่อย ๆ ทาน่าจะติดใจอยู่นะ
เจลว่านหางจระเข้บางแบรนด์ เมื่อทาแล้วจะรู้สึกเหมือนเจลเคลือบผิวไว้ จริงไหมคะ แต่สำหรับทั้ง 3 สูตรนี้ เนื้อเจลจะซึมหายเข้าไปเลยค่ะ แม้จะรู้สึกถึงความหนึบอยู่บ้าง แต่สักพักผิวก็นุ่มลื่นแล้ว อ้อ! ยกเว้น Snail Soothing Gel นะคะที่อาจจะยังรู้สึกหนึบ ๆ อยู่เล็กน้อย
เรื่องความชุ่มชื้นนี้ ขอบอกก่อนว่าสาว ๆ แต่ละคนอาจให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันนะคะ จากที่ลองใช้และให้คนรอบข้างใช้มาพักหนึ่ง ผลลัพธ์ของทั้งสามสูตรแทบไม่แตกต่างกันเลยค่ะ นั่นคือ ผิวดูฟูชุ่มชื้น และสดใสขึ้น ทั้งยังช่วยให้สิวอักเสบยุบไวขึ้นด้วยนะคะ (นอนโปะไว้ตอนกลางคืนก็ได้ผลนะเออ)