ดังนั้น ก่อนเริ่มลงทุน นักลงทุนควรสำรวจสไตล์การลงทุนของตัวเองก่อนว่าเป็นอย่างไร เพราะถ้ารู้จักสไตล์การลงทุนก็จะสามารถเลือกหุ้นและกลยุทธ์การลงทุนได้อย่างเหมาะสม
ยกตัวอย่างงานวิจัยของ Bailard, Biehl & Kaiser (BB&K) บริษัทจัดการลงทุนของสหรัฐอเมริกา ที่ได้วิเคราะห์และทำการแบ่งนักลงทุนออกเป็น 5 แบบ ตามระดับ “ความมั่นใจ” และ “ความวิตกกังวล” ต่อการลงทุน ซึ่งสามารถสะท้อนให้เห็นสไตล์การลงทุนได้เป็นอย่างดี
นักลงทุนสไตล์นี้จะมีความมั่นใจตัวเองสูงมาก ใช้เวลาตัดสินใจไม่นาน อาจจะไม่กี่นาทีก็เลือกหุ้น และเข้าไปลงทุนได้ นอกจากนี้ ยังชื่นชอบและมองหาความท้าทาย ใหม่ๆ เสมอ เช่น ถ้ามีสินทรัพย์เพื่อการลงทุนใหม่ๆ หรือมี
ผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา รับรอง จะเห็นนักลงทุนกลุ่มนี้กระโดดเข้าไปเป็นกลุ่มแรก ด้วยเหตุนี้จึงรับความเสี่ยงได้สูงมาก รับความผันผวนได้ทุกรูปแบบ ที่สำคัญ พวกเขา เชื่อว่า... เวลาลงทุนจะสำเร็จมากกว่าล้มเหลว
นักลงทุนกลุ่มนี้จะมีความเชื่อมั่นตัวเองสูงไม่ต่างไปจากกลุ่มแรก จะแตกต่างกันตรงที่กลุ่มนี้จะไม่ด่วนตัดสินใจ พูดง่ายๆ ไม่ผลีผลามหรือวู่วาม ค่อยๆ ศึกษา หาข้อมูล อ่านบทวิเคราะห์ด้วยตัวเอง และเมื่อมั่นใจว่าสิ่งที่ได้ศึกษามานั้นถูกต้องแม่นยำจะลงทุนทันที และส่วนใหญ่จะมีสไตล์ลงทุนแบบเชิงรุก (Active Investment)
นักลงทุนกลุ่มนี้จะเน้นตามกระแส เพื่อนหรือคนรอบข้างบอกอะไรก็ลงทุนตามนั้นโดยไม่สนใจศึกษาหาข้อมูล เป็นกลุ่มที่กลัวตกขบวนรถไฟ จึงมักตัดสินใจเร็วโดยไม่ค่อยระมัดระวัง
เป็นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมาก รับความผันผวนแทบไม่ได้เลย ไม่ต้องการเห็นเงินต้นเสียหาย มีความระมัดระวัง รอบคอบ และมีความวิตกกังวลสูง ดังนั้น นักลงทุนสไตล์นี้ จึงเป็นกลุ่มที่เน้นลงทุนเพื่อรับเงินปันผล เน้นลงทุนหุ้นที่มีความปลอดภัยสูง ถ้าไม่ลงทุนด้วยตนเองก็มักจะลงทุนผ่านกองทุนรวม
นักลงทุนกลุ่มนี้มักจะรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง และไม่สามารถบอกได้ว่ามีสไตล์แบบไหน เพราะบางจังหวะก็พร้อมจะแปลงร่างกลายเป็นนักลงทุนสไตล์เชิงรุก พร้อมบุกได้ทุกเมื่อ เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน แต่เมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้ใจเย็นๆ พวกเขาจะมีสติขึ้นมาทันที และพร้อมมองหาหุ้นลงทุน เน้นชัวร์ เพราะกลัวเจ็บ
ถึงเวลาที่คุณจะสำรวจตัวเองกันแล้ว ว่าตัวเองมีสไตล์การลงทุนแบบไหน อย่างที่บอกไป... ถ้ารู้จักสไตล์ตัวเองดี ก็จะสามารถเลือกสินทรัพย์หรือผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุนให้เหมาะสไตล์ แล้วความสำเร็จคงไม่ไกลเกินเอื้อม