ปัญหาเด็กชอบเรียกร้องความสนใจ มักพบได้ในเด็กที่ไม่ได้รับความรักและความเอาใจใส่มากเพียงพอ หรืออาจจะได้รับมากเกินไป เป็นภาวะที่เด็กรู้สึกไม่มั่นคงทางจิตใจ รู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่ได้รับการยอมรับ และโดดเดี่ยว เด็กจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเรียกร้องความสนใจ เช่น ตะโกนเสียงดัง เกาะติดคุณพ่อคุณแม่มากผิดปกติ ขว้างปาข้าวของ หรือแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวอื่น ๆ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ในครอบครัวหันมาสนใจ หากปล่อยให้เด็กมีพฤติกรรมอย่างนี้ต่อไป อาจส่งผลด้านลบต่ออารมณ์และจิตใจของเด็ก ทำให้เติบโตขึ้นกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีความอดทน ใจร้อน เอาแต่ใจ ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง และชอบโอ้อวดในอนาคต
คุณพ่อคุณแม่ควรจัดสรรเวลาในแต่ละวันให้ดี โดยแบ่งเวลามาอยู่กับลูกบ้างเพื่อให้เขารู้สึกว่ายังสำคัญ การแบ่งเวลามาเล่นกับลูกสัก 10-15 นาที หรือเล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอน จะช่วยเติมเต็มความอบอุ่นและเสริมความมั่นคงทางจิตใจของเด็กได้ เมื่อเด็กรู้สึกว่าเขาได้รับความรักความเอาใจใส่ที่เพียงพอ พฤติกรรมเรียกร้องความสนใจก็จะไม่เกิดขึ้น
ก่อนที่จะดุหรือทำโทษลูก ควรพิจารณาสิ่งแวดล้อมก่อนว่าปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อจิตใจของลูก เพราะทุกการกระทำย่อมมีสาเหตุ บางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจยุ่งอยู่กับงาน หรือบางครอบครัวมีลูกมากกว่า 1 คน อาจส่งผลให้ดูแลลูก ๆ ไม่ทั่วถึง เมื่อเด็กรู้สึกว่าความรักและความใส่ใจที่เคยได้รับเริ่มลดน้อยลง เขาจะรู้สึกกลัว น้อยใจ และสับสน จึงแสดงพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจออกมา
คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ เมื่อเห็นลูกแสดงพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจก็มักรีบไปหาและตอบรับในสิ่งที่ลูกต้องการทันที เพราะไม่อยากให้ลูกแสดงพฤติกรรมไม่น่ารักต่อไป แต่การตอบรับในทันทีแบบนี้จะทำให้เด็กเข้าใจว่าทุกครั้งที่เขาต้องการความสนใจจากคุณพ่อคุณแม่ เขาต้องแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ออกมาก่อนเสมอ แท้จริงแล้ว หากคุณพ่อคุณแม่ไม่อยากให้ลูกแสดงพฤติกรรมไม่น่ารัก ควรชี้แจงเขาด้วยเหตุผล ว่าเหตุใดจึงตอบรับความต้องการของเขาไม่ได้ และเตือนเด็กด้วยท่าทีจริงจังว่าพฤติกรรมเหล่านี้ไม่เหมาะสม
บางครั้งการเรียกร้องความสนใจมักเกิดจากความเบื่อ ความเหงา หรือความโดดเดี่ยว หากคุณพ่อคุณแม่ค่อย ๆ สอนให้ลูกรู้จักอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้น พร้อมทั้งสอนวิธีการรับมือกับความรู้สึกต่าง ๆ อาทิ ถ้ารู้สึกเบื่อหรือเหงา ลองสอนให้ลูกนั่งวาดภาพระบายสี ต่อตัวต่อ อ่านนิทาน หรือมาช่วยงานบ้าน เด็กก็จะเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น และแสดงออกอย่างเหมาะสม
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต้องใช้เวลาและความตั้งใจค่อนข้างสูง หากคุณพ่อคุณแม่เห็นลูกมีแนวโน้มที่ดีขึ้น อาจจะยังเรียกร้องความสนใจบ้างบางครั้งแต่ก็ลดน้อยลง ควรชื่นชมและให้กำลังใจเขา กอดเขา และบอกว่าคุณพ่อคุณแม่ภูมิใจในตัวเขามากแค่ไหนที่เป็นเด็กดีและน่ารัก เมื่อเด็กมีทัศนคติที่ดีขึ้น และภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้น พฤติกรรมเรียกร้องความสนใจเหล่านี้ก็จะหายไปเองในที่สุด
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.