อุทยานประวัติศาสตร์ในประเทศไทย
เด็กๆ หลายคนคงเคยไปเที่ยวอุทยานมาแล้ว เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีบรรยากาศสงบรื่นรมย์ เราเห็นป่ามีต้นไม้ใหญ่ มีสัตว์ป่า เช่น ช้าง กวาง ลิง กระรอก กำลังหากินตามธรรมชาติของมัน มีน้ำตกซัดกระเซ็นสวยงาม
อุทยานบางแห่งเป็นสวน มีทั้งไม้ใหญ่ ไม้ดอก ไม้ประดับ ร่มรื่นน่าเข้าไปเดินเที่ยวเล่น เช่น อุทยานสวนศรีนครินทร์ อุทยานสวนเบญจศิริ สวนหลวง ร.๙ เป็นอุทยานที่สวยงามรื่นรมย์
อุทยานประวัติศาสตร์ก็น่าไปเที่ยวชม เราจะได้ทราบถึงประวัติศาสตร์ของชุมชนต่างๆ ได้เห็นซากโบราณสถาน สิ่งก่อสร้างต่างๆ และวัดวาอาราม แม้จะปรักหักพังแล้ว แต่ก็ยังแสดงให้เราทราบถึงชีวิตความเป็นอยู่ ขนบประเพณี วัฒนธรรม ที่เจริญรุ่งเรืองของบรรพบุรุษของเรา เมื่อได้เข้าไปชม เรารู้สึกภาคภูมิใจที่เราเกิดมาเป็นคนไทย
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีอุทยานประวัติศาสตร์ ๑๐ แห่ง กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ๔ แห่ง ในจำนวน ๑๐ แห่งนั้น ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรม ซึ่งถือเป็นสมบัติของบรรพบุรุษ ที่โลกจะต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่ต่อไปนานๆ คือ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
ความหมายของอุทยานประวัติศาสตร์
อุทยานประวัติศาสตร์ คือ บริเวณสถานที่ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี และได้รับการบูรณะตกแต่งให้คงสภาพที่ดี ทั้งในส่วนที่เป็นโบราณสถาน และสภาพแวดล้อมต่างๆ โดยรอบ เพื่อให้เป็นแหล่งที่แสดงถึงความเจริญที่เกิดขึ้นในอดีต ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมเและเรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ รวมทั้งศิลปวัฒนธรรมที่มีร่องรอยปรากฏอยู่ในบริเวณสถานที่แห่งนั้น
การจัดตั้งอุทยานประวัติศาสตร์ในประเทศไทย
แนวความคิดในการจัดตั้งอุทยานประวัติศาสตร์ขึ้นในประเทศไทย มีที่มาจากความต้องการจะอนุรักษ์โบราณสถาน ซึ่งมีอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศให้คงสภาพที่ดี โดยใช้วิธีการบูรณะตกแต่งอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ พร้อมกันนั้น ก็มีการจัดสภาพแวดล้อมให้ดูร่มรื่นสวยงาม เช่น มีสวนป่า ขุดลอกคูคลองและสระน้ำ ทำถนนและทางเดิน ให้สามารถเข้าชมบริเวณต่างๆ ภายในอุทยานได้โดยสะดวก
อุทยานประวัติศาสตร์ที่จัดตั้งขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๒๐ - ๒๕๒๔) โดยมีแผนแม่บทการอนุรักษ์และพัฒนาศิลปะและวัฒนธรรม เป็นตัวกำหนดโครงการ คือ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๙ สำหรับอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๔ เป็นเพียงการบูรณะโบราณสถานปราสาทหินเขาพนมรุ้งเท่านั้น ต่อมาภายหลังจึงจัดทำแผนแม่บท พัฒนาเป็นโครงการอุทยานประวัติศาสตร์ขึ้น
ลักษณะสำคัญของอุทยานประวัติศาสตร์แต่ละแห่ง
อุทยานประวัติศาสตร์ที่จัดตั้งขึ้นแล้วรวม ๑๐ แห่ง มีลักษณะสำคัญพอสรุปได้ดังนี้คือ
๑. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร มีโบราณสถานตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเคยเป็นราชธานี และเมืองสำคัญในสมัยสุโขทัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยนั้น มีอาณาบริเวณกว้างขวางมากที่สุดถึง ๔๓,๗๕๐ ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของกรุงสุโขทัยไว้เกือบทั้งหมด มีกำแพงเมือง คูเมือง ศาสนสถาน และสระน้ำที่เรียกว่า ตระพัง ซึ่งปัจจุบันยังคงอนุรักษ์ไว้ให้เห็นอย่างชัดเจน
๒. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีโบราณสถานที่แสดงถึงความเจริญของกรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่เริ่มตั้งเป็นราชธานีเรื่อยมาจนถึงการเสียกรุงครั้งที่ ๒ มีพระราชวังโบราณและวัดวาอารามเป็นจำนวนมาก เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ ที่จัดตั้งขึ้นในบริเวณที่มีชุมชนตั้งบ้านเรือนอย่างหนาแน่นแล้วในปัจจุบัน ขอบเขตของอุทยานฯ ที่เป็นเกาะ มีน้ำล้อมรอบ และบริเวณนอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา จึงมิได้อยู่ต่อเนื่องเป็นบริเวณเดียวกัน เหมือนอย่างอุทยานประวัติศาสตร์แห่งอื่นๆ
๓. อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อุทยาน ประวัติศาสตร์ศรีเทพ มีโบราณสถาน ที่แสดงที่ตั้งของเมือง พร้อมทั้งศาสนสถาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเมืองโบราณนั้น
๔. อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง มีปราสาทหินศิลปะเขมรโบราณ ตั้งอยู่ บนเขาพนมรุ้ง ซึ่งเป็นภูเขาไฟเก่าที่หมดพลังแล้ว
การจัดตั้งอุทยานประวัติศาสตร์ในประเทศไทย
๕. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี มีโบราณสถาน ซึ่งเป็นพระราชวัง และอาคารสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
๖. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท มีโบราณสถานที่แสดงภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งปรากฏอยู่บนผนังของเพิงผาหิน รวมทั้งศิลปกรรมสมัยทวารวดี ศิลปกรรมแบบเขมร และศิลปกรรมสกุลช่างลาว ที่ปรากฏอยู่ตามศาสนสถานในบริเวณนั้น
อุทยานประวัติศาสตร์ที่ได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลก
ในการประชุมของคณะกรรมการมรดกโลก แห่งอนุสัญญาคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรม และธรรมชาติของโลก ขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ณ เมืองคาร์เทจ ประเทศตูนีเซีย เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ได้มีมติยกย่องให้อุทยานประวัติศาสตร์ ๔ แห่งในประเทศไทย เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม คือ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา นับเป็นที่น่าภาคภูมิใจของคนไทยทุกคนเป็นอย่างยิ่ง ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ของแหล่งโบราณสถานที่สำคัญในสายตาของชาวโลก