เป็นพืชที่ให้เมล็ด อยู่ในตระกูล Avena sativa เดิมทีแล้วข้าวโอ๊ตเป็นเพียงต้นหญ้าที่ขึ้นแทรกในนาข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ จึงถูกเก็บเกี่ยวมาด้วยและใช้กินเป็นธัญพืช เมื่อพื้นที่ข้าวสาลีมีความอุดมสมบูรณ์ ข้าวโอ๊ตจึงถูกใช้เป็นอาหารสัตว์ ยกเว้นในดินแดนที่ยากจนและทุรกันดารแถบยุโรปตอนเหนือเท่านั้นที่ยังใช้เป็นอาหารของคน ข้าวโอ๊ตปลูกกันมากเฉพาะในเขตยุโรปตอนเหนือที่อากาศค่อนข้างหนาวและมีแสงแดดน้อย โดยเฉพาะเยอรมันตอนเหนือ กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียและรัสเซีย
ข้าวโอ๊ตมีสารอาหารที่สำคัญหลายอย่างเช่น โปรตีน วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 โพแทสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ซิลิคอน และในส่วนของการสกัดจากต้นยอดอ่อนของข้าวโอ๊ตที่เรียกว่า Oatstraw นั้นอุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ และเส้นใยอาหารสูง นอกจากนี้ยังมีสารประกอบที่สำคัญคือ เบต้ากลูแคน (Beta-glucan) เป็นเส้นใยหรือไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ เป็นธัญพืชที่มีกากใยสูง แคลอรีต่ำ กากใยนี้เมื่อกินเข้าไปจะทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำ ช่วยซึมซับน้ำเมื่ออาหารตกผ่านลงไปในท้อง ช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็ว
เมื่อเริ่มต้นกระบวนการย่อยในลำไส้ ข้าวโอ๊ตจะช่วยในการดูดซึมอาหาร ดูดซับคอเลสเตอรอลในลำไส้เล็ก กากใยที่มีจะก่อตัวเป็นเจล แล้วค่อย ๆ ซึมซับคาร์โบไฮเดรต รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่และขจัดของเสียออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีโปรตีนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน โปรตีนในข้าวโอ๊ตมีค่าใกล้เคียงกับโปรตีนในถั่วเหลือง และไม่น้อยไปกว่าเนื้อ นม ไข่ จัดเป็นธัญพืชที่มีโปรตีนมากที่สุด
ข้าวโอ๊ตจึงนับเป็นอาหารที่มากด้วยคุณค่าทางโภชนาการ กินแล้วไม่อ้วน อิ่มเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังต้องการควบคุมน้ำหนัก ที่สำคัญข้าวโอ๊ตยังอุดมด้วยสารซิลิก้า ที่ช่วยทำให้สมองผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง ช่วยลดความเจ็บปวดของร่างกาย ทำให้ปอดแข็งแรง และอีกทั้งยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคด้วย
ข้าวโอ๊ตถูกแบ่งประเภทออกเป็น 3 แบบใหญ่ ๆ ตามลักษณะของเนื้อข้าวโอ๊ตและวิธีการผลิต
โอ๊ตมีล จะมีลักษณะเป็นผงหยาบ ๆ เมื่อนำมาเติมน้ำหรือนมจะมีลักษณะคล้าย ๆ โจ๊กหรือข้าวต้ม โดยโอ๊ตมีลจะได้จากการสับเมล็ดข้าวโอ๊ตออกเป็นชิ้นหยาบ ๆ จึงทำให้สารอาหารยังอยู่ครบถ้วน รวมถึงส่วนของรำข้าวโอ๊ตด้วย เราจะคุ้นตากับการนำโอ๊ตมีลมาเติมนมหรือน้ำ ต้มให้สุกและทานคู่กับผลไม้เป็นอาหารเช้า
โรลโอ๊ต มีลักษณะเป็นเกร็ดคล้าย ๆ กับซีเรียล โดยโรลโอ๊ตจะได้จากการนึ่งข้าวโอ๊ตให้สุกจากนั้นมาทับกดให้แบนด้วยลูกกลิ้งและนำมาอบให้แห้งอีกครั้ง โดยโรลโอ๊ตนิยมนำมาเป็นส่วนผสมของขนมอบและนำมาผสมกับผลไม้แห้ง ถั่ว หรือที่เรียกว่า มูสลี่ และกราโนล่านั่นเอง
ข้าวโอ๊ตสำเร็จรูปพร้อมทาน จะมีลักษณะและการผลิตเหมือนกับโรลโอ๊ต คือจะทำให้ข้าวโอ๊ตสุกเสียก่อนด้วยการนึ่ง ซึ่งจะใช้เวลานานกว่าโรลโอ๊ตเพื่อให้ข้าวโอ๊ตสุกเต็มที่ ก่อนที่จะนำมาสับและอบให้แห้ง และทำการปรุงรสต่าง ๆ เพื่อให้ทานได้ง่ายและสะดวกกับผู้รับประทาน เพราะเพียงเติมน้ำร้อนก็จะได้ซุปนุ่ม ๆ หวาน ๆ โดยไม่ต้องเติมอะไรอีก
นอกจากคุณค่าสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ข้าวโอ๊ตยังมีประโยชน์ในด้านความสวยความงามอีกมากมาย เพราะในข้าวโอ๊ตมีวิตามินอี เป็นกลีเซอรีนธรรมชาติ ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
ข้าวโอ๊ตบดละเอียด ½ ถ้วย
เบคกิ้งโซดา ½ ถ้วย
ชาเขียว 2 ถุงชา
นมแพะ 1 ถ้วย
โจโจ้บาร์ออยล์ ½ ถ้วย
ผสมเบคกิ้งโซดา ข้าวโอ๊ตบดละเอียด นมแพะ และโจโจ้บาร์ออยล์เข้าด้วยกัน เติมชาเขียวลงในส่วนผสมดังกล่าวแล้วคนให้เข้ากัน ส่วนผสมนี้สามารถใช้ได้ถึง 2 ครั้งด้วยกัน หลังจากใช้ครั้งแรกแล้วส่วนที่เหลือให้เก็บไว้ในตู้เย็น และใช้ให้หมดภายใน 1 สัปดาห์
ผิวธรรมดา
ข้าวโอ๊ตบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
ผสมข้าวโอ๊ตกับเบคกิ้งโซดาเติมน้ำลงไปจนเป็นเนื้อครีมและทาทิ้งไว้บนหน้าประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาดผิวหน้าก็จะขาวใส เรียบเนียน
ผิวแห้ง
ข้าวโอ๊ตบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
กล้วยหอมสุกบด ครึ่งลูก
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ (กะให้ปริมาณพอ ๆ กับกล้วยหอมสุกบด)
นวดหน้าด้วยข้าวโอ๊ต แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น หลังจากนั้นนำกล้วยที่ผสมกับโยเกิร์ตในปริมานที่เท่า ๆ กัน แล้วนำมาพอกบนหน้า ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นอีกครั้ง
(ไม่ควรสครับหน้าขณะยังมีสิวอักเสบ เพราะการสครับช่วยกระตุ้นให้สิวยิ่งอักเสบได้ค่ะ)
ผิวมัน
ข้าวโอ๊ตบดละเอียด
น้ำสะอาด
เตรียมข้าวโอ๊ตบดเอียดปริมาณพอเหมาะ เติมน้ำลงไป และคนจนกลายเป็นเนื้อครีม พอกไว้บนหน้า ปล่อยให้แห้งสนิท หลังจากนั้นค่อย ๆ ลอกออก แล้วล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด