อย่างแรก เราต้องรู้ก่อนว่า ตัวเราเองมีสไตล์แบบไหน เป็นสาวเปรี้ยว สาวหวาน หรือสาวเท่ การออกเดทไม่จำเป็นว่าเราต้องแต่งตัวอัพลุคเป็นสาวหวานเสมอไป เพราะผู้ชายทุกคนไม่ได้ชอบสาวหวานเรียบร้อยไปซะทุกคนหรอก เช่นถ้าเราเป็นสาวเปรี้ยวแต่ให้มาแต่งหน้าลุคหวาน ๆ บางทีมันก็ดูขัดกับบุคลิก เผลอ ๆ เสียความมั่นใจได้นะ แต่ถ้าสาว ๆ รู้ว่าสไตล์ของตัวเองแล้ว ก็จะได้จับทางการแต่งหน้าได้ถูก เหมาะกับบุคลิกของตัวเองยังไงล่ะ
การแต่งหน้าที่เหมาะที่สุดในการไปเดท คือการแต่งหน้าในโทนสีธรรมชาติ ไม่ได้หมายความว่าให้แต่งหน้าแบบดูเป็นธรรมชาติ เหมือนไม่แต่งหน้าอะไรแบบนั้นนะ แต่เราหมายถึงการเลือกสีเมคอัพที่เน้นโทนธรรมชาติเป็นหลัก ไม่ใช่สีแปลกแหวกแนวหรือจัดจ้านเกินไป อย่างสีสะท้อนแสง สีเข้มมืดดำ เพราะเราไม่ได้ไปเดินแฟชั่นโชว์ ไม่ต้องล้ำอะไรขนาดนั้น สีที่เหมาะ เช่น สีนู้ด น้ำตาล ทอง ชมพูอ่อน สีแชมเปญ สีพีช หรือสีม่วงอ่อนอมชมพู เป็นต้น
เข้าใจว่าอยากให้ผิวหน้าดูเนียนสวย แต่การแต่งหน้าโดยโบกสารพัดสิ่งลงบนผิว จนดูหนาเป็นชั้นอาจไม่เหมาะกับการออกเดทสักเท่าไร หากสาว ๆ ที่มีสภาพผิวดีอยู่แล้ว แนะนำว่าลงแบบบางเบาดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องลงหลายชั้นให้มากมาย เนื่องจากผิวเราไม่มีปัญหา ก็ควรจะโชว์ผิวสวยเนียนใสจะดีกว่า ส่วนสาวคนไหนที่ผิวมีปัญหารอยสิว รอยแผลเป็น ก็เลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกปิดแบบเนื้อไม่หนักมาก แล้วค่อยใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดเฉพาะจุด ดีกว่าประโคมนั่นนี่ลงไปบนผิว ทาซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะการลงรองพื้นหรือลงแป้งที่หนาเกินไป อาจไปเพิ่มร่องริ้วรอยต่าง ๆ ทำให้หน้าดูแก่ขึ้นได้นะจะบอกให้
ดวงตาต้องสดใสน่ามอง ต่อให้เมื่อคืนนอนดึกเพราะตื่นเต้นกับเดท จนตอนเช้าตื่นมาตาเป็นหมีแพนด้าสักแค่ไหน เราก็ต้องเมคโอเวอร์ให้ดวงตายังคงสดใสดูเปล่งประกายพร้อมจ้องตากับชายหนุ่มคู่เดทของเราตลอดเวลา ถ้าขอบตาดำก็จัดการลงคอนซีลเลอร์ปกปิดซะ และเน้นแต่งตาด้วยสีสว่าง หากเป็นช่วงกลางวันเราขอแนะนำให้แต่งแบบไม่ต้องจัดเต็มบล็อกตาดำขนาดนั้น แค่คัดเบ้าให้มีมิติ ใช้อายแชโดว์สีธรรมชาติจะดูเวิร์กสุด ส่วนกลางคืนอาจเพิ่มลูกเล่นให้ดวงตาโดยการใช้อายแชโดว์แบบชิมเมอร์หรือกลิตเตอร์ เพื่อให้ดวงตาดูเป็นประกายชวนมอง ถ้าสาว ๆ ที่ชอบติดขนตาก็สามารถติดได้นะ แต่ให้เลือกแบบที่ธรรมชาติ ไม่หนาเวอร์หรือทรงแปลกประหลาด ไม่อย่างนั้นผู้ชายเขาจะคิดว่าเราเตรียมไปขึ้นเวทีประกวดที่ไหนได้นะ
การเฉดดิ้งให้หน้าดูเรียวอาจจำเป็นสำหรับสาว ๆ บางคน แต่อย่าลืมว่าเราไปเดท ไม่ได้ไปประกวด ดังนั้นไม่ต้องจัดเต็มเห็นเป็นกรอบเป็นเส้นชัดเจนมากนัก เอาแค่พอประมาณให้ใบหน้าดูมีมิติเป็นพอ
การเลือกสีลิปสติกก็เป็นสิ่งสำคัญ แม้จะเป็นสาวมั่นนำเทรนด์ ลิปสติกสีไหนฮิตต้องซื้อมาทา แต่การไปเดทนั้น จะทาปากสีน้ำตาล สีม่วง คงไม่ใช่โอกาสที่ดี คู่เดทเห็นอาจจะตะลึงกึ่งตกใจเอาได้ ในสถานการณ์แบบนี้ เลือกสีมาตรฐานอย่าง ชมพู ส้ม พีช สีโทนสุภาพจะดูเหมาะกว่า ถ้ามั่น ๆ อยากท่าสีแดงก็ลองเลือกสีแดงที่ไม่แรงจนเกินไป เน้นสีแดงสดใส อาจเป็นแดงชมพู แดงส้มก็ได้ และ และที่สำคัญควรบำรุงริมฝีปากให้เรียบเนียนดูสุขภาพดี คงไม่ดีแน่ถ้าทาลิปสติกแล้วปากแห้งลอกเป็นขุย อีกอย่างถ้าไม่มั่นใจฝีมือในการทาลิปสติกแบบเติมขอบปากหวังให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม พยายามอย่าทาลิปสติกเกินขอบปากเด็ดขาด ผู้ชายเห็นเขาจะเข้าใจว่าเราน่ะทาลิปสติกเลอะจนเกินขอบปากหรือเปล่า ดังนั้นถ้าอยากให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มสุขภาพดี ลองใช้กลอสแตะลงบนริมฝีปากนิดหน่อยก็ช่วยได้นะ
นอกจากแต่งหน้าให้สวยดูดีพร้อมเดทแล้ว สิ่งที่สาว ๆ ต้องรู้ไว้เพื่อให้เดทราบรื่่นก็คือ การตรงต่อเวลา นัดแล้วอย่ามาสายเกินงาม ปล่อยให้ผู้ชายรอนานไม่ดีนะคะ การวางตัวให้เหมาะสม เป็นตัวของเอง ไม่ต้องพยายามทำหรือเป็นในสิ่งที่ผู้ชายชอบเกินไป เพราะการเดท คือการเปิดโอกาสให้คนสองคนได้ลองศึกษาดูใจเรียนรู้ซึ่งกันและกัน หากเราเสแสร้งแกล้งทำให้ผู้ชายประทับใจไปซะหมด เมื่อคบกันนานเข้า เราก็ต้องหลุดตัวตนที่แท้จริงออกมาอยู่ดี และท้ายที่สุดอาจเกิดปัญหาตามมาได้ แต่ ! การเป็นตัวของตัวเองก็ควรมีขอบเขตจำกัดด้วยนะคะ ไม่ต้องเปิดเผยหมดตั้งแต่เริ่ม เดี๋ยวผู้ชายจะตั้งตัวไม่ทัน