เมื่อลูกกินนมอิ่มแล้วหูรูดส่วนปลายหลอดอาหารปิดไม่สนิท จึงทำให้นมและกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมา บางครั้งออกทั้งทางปากและจมูก น้ำนมที่ออกมาอาจมีลักษณะเป็นลิ่มคล้ายเต้าหู้ เพราะรวมกับน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร
ทารกทั่วไปจะมีอาการแหวะนมได้ตั้งแต่อายุ 2 สัปดาห์ขึ้นไป พบบ่อยที่สุดในช่วง 2-3 เดือน และอาจจะมีอาการสำลักร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ น้อยลงเมื่อเข้าสู่วัย 6-7 เดือน และจะไม่เป็นอีกเมื่ออายุล่วงเข้า 1 ขวบแล้ว ซึ่งคุณแม่สามารถบรรเทาอาการแหวะนมของลูกได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
โดยใช้แขนวางทาบแผ่นหลังประคองให้หลังตรง เพราะถ้าหลังงอ หน้าอกจะก้มลงมาด้านหน้า เพิ่มความดันในช่องท้อง กระเพาะอาหารจะถูกกด ทำให้แหวะหรืออาเจียนได้ง่าย นอกจากนั้นการให้นมมากเกินไปในแต่ละมื้อ ลูกก็แหวะได้เช่นกัน คุณแม่ต้องพยายามให้นมอย่างถูกวิธี ตรวจปริมาณนมต่อมื้อให้เหมาะสมตามวัย โดยแต่ละมื้อให้นมน้อยลง แต่ให้บ่อย ๆ
เด็กเล็กที่คอยังไม่แข็งดี คืออายุน้อยกว่า 4 เดือน ควรระวังการอุดกั้นทางเดินหายใจจากผ้าไปอุดจมูกและปากจากการหนุนศีรษะให้สูง จึงควรหนุนที่ใต้เบาะแทน โดยให้ยกศีรษะและไหล่ให้สูง 30-45 องศา
ต้องให้มีฟองอากาศไหลเข้าขวดนมได้สะดวก สังเกตตอนลูกดูดอย่าให้จุกนมแฟ่บ เพราะจะทำให้ลูกดูดนมจากขวดไม่ออก ซึ่งทำให้ลูกดูดแต่ลมเข้าท้อง
ควรจับลูกวางนอนตะแคง ศีรษะอยู่ในระดับเดียวกับลำตัวหรือต่ำกว่าเล็กน้อย เพื่อให้น้ำนมไหลออกมาข้างนอก ไม่สำลักเข้าหลอดลมและปอด และถ้ามีน้ำนมค้างอยู่ในรูจมูก ก็ให้เช็ดออกเพื่อป้องกันการสำลักนม
หากลูกน้อยมีอาการอื่นหลังแหวะนม เช่น อาเจียนบ่อยและรุนแรง บางครั้งอาจมีเลือดปน ปฏิเสธการป้อนนมหรืออาหาร หงุดหงิดง่าย น้ำหนักลดหรือไม่ขึ้นตามเกณฑ์ ไอบ่อย ไอเรื้อรัง และหายใจเสียงดังหรือหายใจลำบาก ร้องไห้จนแอ่นหลังเป็นท่าสะพานโค้งซึ่งอาจต้องมีการตรวจรักษาเพิ่มเติม หรือมีผื่นตามตัวที่สงสัยแพ้นมวัวร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์