นอกจากนี้เมื่อเด็ก ๆ หลับในระยะหลับลึก สมองจะทำหน้าที่จัดเก็บและจัดระเบียบข้อมูลที่เด็กเรียนรู้มา เพื่อประมวลผลพร้อมให้ดึงกลับมาใช้งานใหม่ หากเด็กหลับไม่สนิทสมองก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ส่งผลต่อการเรียนรู้และพัฒนาการด้านต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการให้ลูกนอนหลับอย่างเพียงพอในแต่ละวันจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ปัญหาที่มักจะเจอบ่อยคือ ลูกไม่ยอมเข้านอน ติดเล่น ไม่ว่าจะกล่อมอย่างไรก็ไม่ยอมนอน และเมื่อเข้านอนช้า ก็อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมอง ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงต้องฝึกวินัยการนอนตั้งแต่ยังเล็ก และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนของลูกให้เหมาะสมตามวัย
เริ่มจากช่วงกลางวันคุณพ่อคุณแม่ควรหากิจกรรมให้ลูกทำ เช่น วิ่งเล่น ขี่จักรยาน ทิ้งขยะ หรือช่วยล้างจาน ให้เขานอนหลับช่วงกลางวันน้อยลง โดยให้นอนไม่เกิน 2 ชั่วโมง และไม่ควรให้นอนหลังบ่าย 2 โมง พอตกเย็นลูกก็จะเหนื่อยและหลับไปตลอดคืน
ควรงดกิจกรรมที่กระตุ้นให้เด็กเกิดการตื่นตัวช่วงก่อนเข้านอน เช่น การดูทีวี หรือเล่นคอมพิวเตอร์ เพราะจะทำให้เด็กนอนหลับยาก เนื่องจากแสงสว่างจากจอจะขัดขวางการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินที่ช่วยให้หลับ
เมื่อใกล้เวลานอนควรให้มีบรรยากาศสงบเหมาะแก่การพักผ่อน ไม่มีการเล่นช่วงก่อนเข้านอน และคอยสังเกตว่าลูกชอบทำอะไรก่อนนอน เช่น ลูกชอบให้อ่านหนังสือ เล่านิทาน หรือเปิดเพลงคลอเบา ๆ ให้ทำสิ่งนั้นอย่างสม่ำเสมอเพื่อเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าถึงเวลาต้องเข้านอนแล้ว
เพื่อให้ลูกหลับง่ายขึ้น เช่น การนวด หรือการร้องเพลงกล่อม ที่สำคัญควรจำกัดเวลาในการทำกิจกรรมไม่เกิน 15 นาทีเท่านั้น และห้ามใจอ่อนยอมต่อเวลาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นลูกจะเรียกร้องให้คุณทำต่อไปเรื่อย ๆ ตลอดคืน
ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องให้เป็นกิจวัตร โดยให้ลูกเข้านอนและตื่นนอนในเวลาเดิม ๆ ทุกวัน หากลูกงอแงไม่อยากนอน ก็ไม่ควรดุหรือตีเป็นอันขาด เพราะวัยเด็กเป็นวัยที่อยากเล่นอยู่เสมอ เด็กจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องดุ และอาจจะยิ่งทำให้เกิดการต่อต้านยิ่งขึ้น คุณพ่อคุณแม่อาจจะเข้านอนพร้อมลูก และพูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล เช่น “ถึงเวลานอนแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาเล่นกันใหม่” หากลูกชอบยื้อ เช่น ขอเข้าห้องน้ำ ขอดื่มน้ำบ่อย อาจจะให้ดื่มน้ำแก้วเล็ก ๆ และบอกให้เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เพื่อให้ลูกรู้จักจัดระเบียบชีวิตของตัวเองให้เป็น