ในปัจจุบันนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านสมองได้แนะนำให้ทั้งคุณพ่อคุณแม่และคุณครูส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้ตามศักยภาพและระบบการทำงานของสมองด้วย การเรียนรู้แบบ Brain-based Learning (BBL) นับตั้งแต่แรกเกิดจนถึงระยะที่สมองพัฒนาเต็มที่ ซึ่งจะช่วยให้โอกาสทองของการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัยเปิดรับการเรียนรู้อย่างสูงสุด ตามพื้นฐานศักยภาพความเฉลียวฉลาดที่ทุกคนควรมี 8 ด้านด้วยกัน ตามทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences) ของ Howard Gardner คือ
1. ด้านภาษาศาสตร์ (Linguistic Ability)
2. ด้านตรรกะ - คณิตศาสตร์ (Logical-Mathematic Ability)
3. ด้านมิติสัมพันธ์ (Spatial Ability)
4. ด้านการเคลื่อนไหวของร่างกาย (Bodily-Kinesthetic Ability)
5. ด้านดนตรี (Musical Ability)
6. ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล (Interpersonal Ability)
7. ด้านความเข้าใจตนเอง (Intrapersonal Ability)
8. ด้านการเข้าถึงลักษณะธรรมชาติ (Naturalist Ability)
เป็นแนวทางจัดการเรียนรู้เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของสมองในเด็กแต่ละคน และแต่ละช่วงวัย ด้วยการกระตุ้นที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ โดยนักการศึกษาพบว่าสมองมนุษย์สามารถทำงานและพัฒนาไปพร้อมกันทั้ง 8 ด้านในลักษณะกระจายตัวเชื่อม เมื่อได้รับการส่งเสริมให้สมองได้เรียนรู้อย่างเต็มที่ โดยเด็กในวัย 2 – 6 ปี จะเรียนรู้ผ่านการเล่น ซึ่งเด็กแต่ละคนจะถนัดในการเรียนรู้ตามรูปแบบของตนที่แตกต่างกันไป ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นผู้ค้นหาความถนัดและความสามารถในตัวลูกให้พบ เพื่อนำมาส่งเสริมและกระตุ้นความสามารถนั้น ๆ ให้เหมาะสมกับลูก เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ตามที่ถนัด รวมถึงมีโอกาสพัฒนาความสามารถด้านอื่น ๆ ที่ไม่ถนัด ด้วยการให้ลูกเรียนรู้ด้วยความพร้อมทั้งทั้งร่างกายและจิตใจ อย่างอิสระ สนุกสนาน และเกิดความสุข โดยเรียนรู้จากเรื่องง่ายไปยาก ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ไม่ใช่แค่ท่องจำ และรู้จักแก้ปัญหาเพื่อให้สมองของลูกพัฒนาได้เต็มความสามารถ
คุณพ่อคุณแม่และทุกคนในครอบครัวต้องดูแลเอาใจใส่เด็กอย่างใกล้ชิด ครอบครัวมีส่วนเสริมสร้างการเรียนรู้ที่ดีให้กับเด็ก เพราะถ้าสมาชิกในครอบครัวมีความรักความเข้าใจ เอื้ออาทร ห่วงใยดูแลซึ่งกันและกัน จะส่งผลให้เด็กมีความสุข ทำให้อารมณ์ดี สุขภาพจิตดี สมองก็พร้อมที่จะเรียนรู้ได้เต็มความสามารถ
คุณพ่อคุณแม่ควรจัดสภาพแวดล้อมในบ้านให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของลูก ด้วยการดูแลบ้านให้สะอาดถูกสุขลักษณะ มีแสงสว่างพอเพียง สงบ อากาศถ่ายเท ปลอดภัย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ โดยอาจจะจัดมุมหนึ่งของบ้านให้มีชั้นวางหนังสือ มีโต๊ะเล็ก ๆ ให้ลูกได้ทำงานศิลปะหรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่สนใจ จะช่วยให้ลูกได้พัฒนาการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี
คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้เล่นอย่างอิสระและมีความสุข เพราะเด็กเรียนรู้โลกผ่านการเล่น หากลูกเรียนมาทั้งวันแล้วก็ควรเปิดโอกาสให้เขาได้เล่นสนุก และทำกิจกรรมด้านอื่น ๆ บ้าง อาจหาของเล่นและกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัยมาให้ลูก หรือหาเวลาเล่นกับลูกอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสมองของเด็กจะพัฒนากระบวนการคิดระหว่างการเล่นอย่างเป็นธรรมชาติก่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
สมองมีการทำงานที่มีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกัน คุณพ่อคุณแม่จึงต้องรู้จักการทำงานของสมองและกระตุ้นพัฒนาการให้เหมาะสมกับช่วงวัยของลูก โดยการหากิจกรรมการเรียนรู้ที่กระตุ้นให้สมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวาได้พัฒนาควบคู่กันไป เช่น ให้ลูกได้วาดภาพตามจินตนาการ หัดเขียนไดอารี่ หรืออ่านนิทานเรื่องที่ชอบ ซึ่งกิจกรรมที่ฝึกสมองใน “ส่วนของการใช้เหตุผล” และ “ส่วนของการสร้างสรรค์” จะทำให้เซลล์สมองของลูกเกิดการเชื่อมโยง สามารถทำงานประสานกันได้ดี ทำให้สมองพัฒนาอย่างเต็มที่ ส่งผลให้เด็กสามารถเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว และเกิดความพร้อมในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ อย่างเต็มที่