เมื่อมีโทรศัพท์จากบริษัทมาเรียกสัมภาษณ์งาน หากไม่ใช่บริษัทที่เราส่งเรซูเม่ไป แต่จากการสอบถามคร่าว ๆ แล้วน่าสนใจ อาจลองหาข้อมูลของบริษัทจาก Google ไปก่อน เพราะมีหลายรายถูกเรียกไปทำขายอ้อม ซึ่งอาจไม่ใช่สิ่งที่น้อง ๆ ตั้งใจไปทำนัก
จากการลองไปสัมภาษณ์งานมาหลายครั้ง พี่แนะนำได้เลยว่าถ้าครั้งไหนที่เราไปแบบไม่มั่นใจ คิดว่าต้องทำงานนี้ไม่ได้แน่ ๆ ทั้งน้ำเสียงและภาษากายจะบ่งบอกออกมาค่ะ ทำให้น้อง ๆ ชวดงานนี้ไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น ต้องพูดจาอย่างมั่นใจ ฉะฉาน พูดสั้น ๆ กระชับ ไม่ต้องชักแม่น้ำทั้งห้า ตอบให้ตรงประเด็นก็พอ
แม้ว่าเงินจะเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่การเริ่มถามถึงเงินเดือนนั้นอาจจะดูไม่น่ารักไปหน่อย น้อง ๆ อาจต้องรอจังหวะให้เขาสัมภาษณ์เรื่องอื่น ๆ ไปก่อน จนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม หรือใกล้จะจบการสัมภาษณ์ค่อยตกลงกันเรื่องเงินเดือนค่ะ
วัฒนธรรมขององค์กรแต่ละที่แตกต่างกันนะคะ ยกตัวอย่างเช่น บางที่มีกฎที่เข้มงวด แต่บางที่เน้นทำงานหนักแต่งานเลี้ยงก็ไม่เป็นรอง น้อง ๆ ควรสอบถามไปเลยว่าวัฒนธรรมในที่ ๆ เราต้องไปทำงานอยู่นั้นเป็นอย่างไร หากเราเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ชอบสังสรรค์ อาจจะเกิดช่องว่างกับเพื่อนร่วมงานได้ ถ้าหากที่บริษัทนั้นมีวัฒนธรรมเฮฮาปาร์ตี้นะคะ
มีน้อง ๆ หลายคนประสบปัญหา ได้ทำงานหลายอย่างมากกว่าที่ตกลงกันไว้ หากน้องมั่นใจว่าได้งานนี้แน่ ๆ อาจจะลองถามถึงขอบเขตงานที่ได้รับมอบหมายให้แน่ชัดอีกที แล้วลองถามไปเลยว่านอกจากนี้อาจจะต้องทำอะไรบ้าง จากนั้นลองกลับมานั่งทบทวนดูว่าเราไหวหรือไม่ เช่น ถ้าต้องไปทำงานต่างจังหวัดนาน ๆ หรือบางครั้งต้องออกไปประชุมคนเดียว ถ้าหากไหวก็ฮึดดูสักตั้ง แต่ถ้าคิดว่ายังไม่ใช่ทางอาจจะลองทำดูก่อน (เผื่อจะชอบ) หรือรอคอยงานที่ใช่กว่าโดยไม่รีบร้อนค่ะ