สาวออฟฟิศทั้งหลายรู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมที่ทำในชีวิตประจำวันบางอย่างอาจทำลายสุขภาพของเราได้โดยไม่รู้ตัว ตอนนี้ยังไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าปล่อยสะสมไว้นานคงไม่ดีแน่ หากไม่อยากมานั่งเสียเงินเสียเวลารักษาสุขภาพร่างกายทีหลัง ลองสังเกตตัวเองดูสิว่ามีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่หรือเปล่า

1. ไม่กินมื้อเช้า

แค่ตื่นมาทำงานให้ทันก็ยากแล้ว ให้ตื่นมากินข้าวเช้าด้วยคงไม่ไหว เสียงบ่นจากใครหลายคนเลยใช่ไหม แต่เดี๋ยวก่อนคิดแบบนี้ไม่ได้นะ เพราะมื้อเช้าคือมื้อที่สำคัญที่สุด การอดอาหารมื้อเช้าจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ เกิดสภาวะสารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ส่งผลให้สมองเสื่อมได้ อันที่จริงการกินมื้อเช้ามันไม่ได้ลำบากมากมายหรอก แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ให้ความสนใจเสียมากกว่า ถ้าหากกลัวเสียเวลาลองทำอาหารแช่ตู้เย็นไว้แล้วตื่นเช้ามาก็หยิบมากินได้เลย อย่างแซนวิชสักชิ้นกินพร้อมกับนมสักกล่องก็เข้าท่า เพียงแต่ว่าต้องเลือกวัตถุดิบที่มาทำกันหน่อยเพื่อให้ได้สารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ขนมปังเลือกเป็นขนมปังโฮลวีทไส้แซนวิชควรเน้นโปรตีนและผักธัญพืช หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ติดมันและเครื่องปรุงจำพวกมายองเนส ซอสมะเขือเทศ ถ้ากลัวไม่มีรสชาติอาจใส่ลงไปได้แต่อย่าใส่ปริมาณเยอะ

2. กินอาหารไม่มีประโยชน์

เข้าใจว่าอาหารที่มีขายทั่วไปนั้น ไม่ได้หลากหลายเต็มไปด้วยคุณประโยชน์สักเท่าไร แต่บางครั้งก็ต้องเลือกบ้างเพื่อสุขภาพของตัวเราเอง โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ฟาสฟู๊ดทั้งหลาย หลีกเลี่ยงได้ก็จะดีมาก อาหารจำพวกของมันของทอดก็เช่นกัน เพราะถ้ากินอาหารเหล่านี้เป็นประจำ โรคต่าง ๆ ทั้งโรคอ้วน เบาหวาน หัวใจ มารอต่อคิวแน่นอน หากใครที่มีเวลา มีฝีมือปลายจวัก ลองทำอาหารใส่กล่องมากินที่ทำงานก็เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งนะ

3. เสพติดเครื่องดื่มแคลอรี่สูง

กาแฟ โกโก้ ชานม ชาเขียว หรือเครื่องดื่มหวานมันทั้งหลาย รวมไปถึงน้ำอัดลม ซื้อติดไม้ติดมือทุกวัน บางคนติดถึงขั้นเช้า กลางวัน เย็นเลยทีเดียว รู้ว่ามันหอมหวานอร่อยทำให้สดชื่น แต่นั่นแหละตัวการที่ทำให้น้ำหนักขึ้น หุ่นพังเลยนะ เพราะในเครื่องดื่มเหล่านี้เต็มไปด้วยน้ำตาลปริมาณมาก เสี่ยงต่อการเกิดโรคมากมาย เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น

4. กินจุกจิก ติดขนมกรุบกรอบ

โต๊ะทำงานปล่อยให้โล่งไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเอกสารเยอะหรอกนะ แต่เป็นขนมของว่างวางสแตนบายพร้อมหยิบเข้าปากได้ทุกเมื่อ ของว่างที่ว่าอาจจะเป็นคุกกี้ เค้ก เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ ซึ่งขนมเหล่านี้อุดมไปด้วย แป้ง น้ำตาล ไขมัน และโซเดียม เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคไต แต่ถ้าหากงดไม่ได้จริง ๆ ให้เปลี่ยนจากขนมขบเคี้ยวมาเป็นผลไม้ หรือธัญพืชอบกรอบอย่างถั่วต่าง ๆ แทน แต่ก็ต้องระวังเรื่องปริมาณ กินแต่พอเหมาะด้วยนะ

5. ไม่พักสายตา นั่งอยู่กับที่นาน ๆ

เป็นเรื่องธรรมดาที่บรรดาสาวออฟฟิศต้องนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ทำให้ใช้สายตามากจนเกิดอาการปวดศีรษะตามมา ควรสละเวลาพักสายตาสัก 3-5 นาทีใน 1 ชั่วโมง โดยการละสายตาจากหน้าจอมองออกไประยะไกลๆ บ้าง นอกจากเรื่องสายตาแล้ว อาการปวดเมื่อยตามส่วนต่าง ๆ เช่น คอ บ่า ไหล่ หลัง หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ โรคออฟฟิศซินโดรม ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เกิดกับสาว ๆ เช่นกัน สาเหตุก็มาจากการนั่งอยู่กับที่ด้วยท่าเดิม เกร็งกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เป็นเวลานาน ถ้าปล่อยทื้งไว้จะยิ่งรักษาลำบาก บางคนถึงขั้นต้องไปพวกนักกายบำบัดเลยทีเดียว ทางที่ดีควรเปลี่ยนท่านั่ง ลุกออกไปยืดคลายกล้ามเนื้อ เช่น ช่วงที่ไปเข้าห้องน้ำก็แวะยืดเส้นยืดสายสักหน่อย และยังถือว่าได้พักสายไปในตัว

6. กลั้นปัสสาวะ

ปวดก็ไปเข้าเถอะนะ จะอ้างว่างานเยอะทำไม่ทันจนไม่มีเวลาไปเข้าห้องน้ำก็เกินไป สละเวลาแค่ไม่กี่นาที ดีกว่ากลั้นไว้แล้วโรคภัยตามมา แล้วจะบ่นว่าทรมานทีหลังไม่ได้นะ

7. ไม่ชอบออกกำลังกาย

เลิกงานก็เย็นแล้ว เหนื่อยมาทั้งวันจะเอาเวลาไหนไปออกกำลังกาย ก็เพราะคิดแบบนี้ไงยิ่งทำให้การออกกำลังกายดูเป็นเรื่องไกลตัวเข้าไปทุกที ถ้าคิดว่าไม่สามารถออกกำลังกายหลังเลิกงานได้ เปลี่ยนมาใช้เวลาว่างในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์สิ ตอนเช้าหรือตอนเย็นก็ได้ ออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะ หรือจะเล่นโยคะ ไปฟิตเนส เดี๋ยวนี้มีวิธีการออกกำลังกายมากมายหลายรูปแบบให้เลือกตามความสนใจ ใครที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย หันมาให้ใส่ใจกระตุ้นตัวเองกันสักหน่อย เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดี และยังสร้างภูมิต้านทานโรคได้ด้วย

ตรงกับพฤติกรรมของใครหลายคนเลยใช่ไหมล่ะ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันก่อนจะสาย ดีกว่ามาเสียเงินไปกับการรักษาโรคภัยต่าง ๆ แทนนะคะ