ความเป็นมาของวัดบางกุ้งนั้น เล่ากันว่าเริ่มขึ้นตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ในครานั้นพระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งค่อยทหารขึ้นล้อมวัดบางกุ้งเอาไว้ เรียกว่า “ค่ายบางกุ้ง” ส่วนสาเหตุที่ต้องตั้งล้อมวัด ก็เป็นเพราะต้องการให้วัดเป็นที่ยึดเหนี่ยงทางใจนั่นเอง แต่แล้วค่ายนี้ก็เป็นอันต้องถูกทิ้งร้างไป ในสมัยเสียกรุงครั้งที่ 2 จนกระทั่งในสมัยสมเด็กพรเจ้าตากสินมหาราช พระองค์ทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีและโปรดเกล้าฯ ให้ชาวจีนจาก ระยอง ชลบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี รวบรวมผู้คนมาตั้งกองทหารรักษาค่าย ค่ายแห่งนี้จึงมีชื่อเรียก อีกหนึ่งว่า "ค่ายจีนบางกุ้ง" แต่หลังจากพระเจ้ากรุงอังวะทรงยกทัพมาล้อมค่ายจีนบางกุ้ง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระมหามนตรี (บุญมา) เป็นแม่ทัพยกไปช่วยเหลือทหารจีนขับไล่กองทัพพม่า ค่ายบางกุ้งก็ถูกปล่อยให้รกร้างเกือบ 200 ปี
ต่อมาในปี 2510 ทางกระทรวงศึกษาธิการได้ใช้ค่ายแห่งนี้เป็นค่ายลูกเสือ แต่ก็ถูกยกเลิกไป ปัจจุบันนี้ วัดบางกุ้งจึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีผู้คนหลั่งไหลไปชื่นชมความงามเป็นจำนวนมาก มาดูกันค่ะว่า ที่วัดแห่งนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง...
เริ่มจากสิ่งมหัศจรรย์ของวัด ซึ่งเป็นไฮไลค์เลยก็ว่าได้ นั่นคือ โบสถ์ปรกโพธิ์ โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาก่อนจะถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ทั้งโพ ไทร ไกร และกร่าง มองเห็นเป็นไม้ยักษ์มากกว่าเป็นโบสถ์ ดูสวยงามมาก
ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อนิลมณี หรือ หลวงพ่อดำ พระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย คนที่ไปเยี่ยมชมสามารถเข้าไปสักการะ ขอพร และปิดทองพระพุทธรูปได้ โดยจะต้องแต่งกายให้เรียบร้อย และปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด (หากใส่กางเกงขาสั้นไป ทางวัดมีผ้าถุงให้ยืมใส่ค่ะ ไม่ต้องกังวล) หลังปิดทองแล้วเราก็เดินชมรอบวัด และตัวค่าย ซึ่งมีรูปปั้นแสดงศิลปะการต่อสู้ของไทยบอกเล่าความเป็นมาของวัดไว้อย่างน่าสนใจ
และไฮไลค์ที่น่าสนใจอีกมุมหนึ่ง ก็คือสวนสัตว์เล็ก ๆ ที่มีทั้งอูฐ กวางเรนเดียร์ จระเข้า หมูป่า ฯลฯ ให้ผู้เยี่ยมชมได้แวะให้อาหาร ถ่ายรูปด้วยอย่างใกล้ชิดค่ะ