Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

เศษวิบากกรรม ที่แม้แต่พระพุทธเจ้าสมณโคดม ก็ทรงหลีกเลี่ยงไม่ได้

Posted By มหัทธโน | 07 ต.ค. 59
72,921 Views

  Favorite

เศษวิบากกรรมของพระพุทธเจ้าสมณโคดม 

 

ในพระไตรปิฏก มีพุทธภาษิตอยู่บทหนึ่งว่า
 

"สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตัว มีกรรม เป็นตัวให้กำเนิด มีกรรมเป็นตัวเกี่ยวข้อง มีกรรมเป็น ที่พึ่ง สัตว์ทั้งหลาย ทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม จักได้ผลกรรมนั้นแน่นอน...."
 

สื่อให้เห็นชัดเจนว่า ศาสนาพุทธสอนเรื่องกรรมเก่า และให้ยอมรับผลของกรรม หรือผลของการกระทำ เช่น ถ้าเราไม่อาบน้ำ  เราย่อมสกปรก มีกลิ่นตัว นี่เป็นเรื่องของกรรมล้วน ๆ  ไม่มีใครหลีกหนีผลกรรมหรือผลการกระทำได้
 

ไม่มีข้อยกเว้น แม้แต่ตัวพระพุทธเจ้าเอง
 

พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ด้วยพระองค์เองในคัมภีร์อปทานตอนที่ว่าด้วย ปุพพกัมปิโลติ พุทธาปทาน ข้อ ๓๙๒ ถึงกรรมเก่าที่พระองค์ทรงกระทำมาแล้วในอดีต ๑๔ ข้อ ทั้งฝ่ายกุศลและฝ่ายอกุศลนี้ ก็เพื่อเป็นตัวอย่างว่า พระองค์เมื่อยังเป็นปุถุชน ก็ได้ทำดีและทำชั่วมาแล้วเช่นเดียวกับพวกเรา

 

เรื่องกรรมเก่าของพระพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงกระทำมาแล้วในอดีต ๑๔ ข้อ

๑. กรรมดีในการเคยถวายผ้าไว้ในอดีต จึงได้รับผลบุญ

กรรมเก่าข้อแรกนี้เป็นกุศลกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยให้พระองค์ได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าไว้ด้วยนั่นคือ ถวายผ้าเก่าแก่พระ
 

พระองค์ตรัสเล่าว่าในชาติหนึ่งในอดีตนั้น ทรงเกิดเป็นคนยากจนเห็นพระสาวกของพระพุทธเจ้ารูปหนึ่งซึ่งถืออยู่ป่าเป็นวัตรแล้วเลื่อมใสจึงถวายผ้าห่มเก่าผืนเดียวที่ตัวเองมีอยู่แก่ท่านพร้อมกันนั้นก็ได้ฟังเรื่องราวของพระพุทธเจ้าจากพระสาวกรูปนั้นแล้วเกิดเลื่อมใสยิ่งขึ้นจึงตั้งจิตปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก

 

 

การเริ่มต้นปรารถนาแต่ครั้งนั้นของพระองค์ส่งผลให้ทำความดีมาอย่างต่อเนื่องจนมาได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในชาตินี้ 
 

ผลคือ

ในชาติสุดท้าย เมื่อพระโพธิสัตว์ทรงตัดพระโมลีแล้ว ตั้งสัจจะอธิษฐานโยนไปในอากาศว่า จักเป็นพระพุทธเจ้า ณ ริมฝั่งแม่น้ำอโนมานทีแล้ว ก็ดำริอีกว่า ผ้าของชาวกาสีอย่างดีเหล่านี้ ไม่สมควรแก่ความเป็นสมณะของเรา ในทันใดนั้นเอง สหายเก่า ซึ่งไปเกิดเป็นพรหมชื่อว่า ฆฏิการมหาพรหม จึงถือสมณบริขาร ๘ อย่าง มาถวายด้วยตนเอง

 

 ๒. กรรมในการเคยแกล้งโคไม่ให้ดื่มน้ำ

ชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นคนเลี้ยงโค ต้อนโคไปเลี้ยง เห็นแม่โคแวะดื่มน้ำข้างทาง เกรงจะชักช้าจึงไล่แม่โคไม่ให้ดื่มน้ำ ด้วยการแกล้งเอาไม้กวนน้ำให้ขุ่น
  

 

บาปกรรมในชาตินั้นส่งผลมาถึงชาตินี้ คือ ทรงกระหายน้ำแล้วทรงตรัสให้พระอานนท์ไปตักน้ำให้แต่เนื่องจากมีขบวนเกวียนผ่าน ทำให้น้ำขุ่น จึงทรงไม่ได้เสวยสมปรารถนาในทันทีต้องทรงตรัสถึง 3 ครั้ง จึงจะได้เสวยน้ำ เมื่อคราวใกล้จะเสด็จ ดับขันธปรินิพพาน

 

๓. กรรมจากการเคยกล่าวตู่ผู้มีศีลด้วยเรื่องไม่จริง  

 พระองค์ตรัสเล่าว่า เป็นกรรมเก่าทำไว้ในหลายชาติในอดีตดังนี้

ในชาติหนึ่ง ทรงเกิดเป็นนักเลง ชื่อ "ปุนาลิ" ได้กล่าวตู่ (ใส่ร้าย) พระปัจเจกพระพุทธเจ้าพระนามว่า "สุรภี" ว่าทำผู้หญิงท้อง โดยที่พระปัจเจกพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ทรงโต้ตอบใด ๆ
 

ตายจากชาตินั้น บาปกรรมส่งผลให้ ไปเกิดอยู่ในนรกนานแสนนาน เสวยทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส
 

เกิดมาในชาติสุดท้ายนี้ แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว เศษกรรมที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ส่งผลให้พระองค์มาถูกนางสุนทริกา กล่าวตู่ว่า นางตั้งครรภ์กับพระองค์   

 

๔. กรรมจากการเคยกล่าวตู่ผู้มีศีลด้วยเรื่องไม่จริง

ต่อมาในชาติหนึ่ง มีพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก  พระองค์ได้ทรงกล่าวตู่พระเถระชื่อ "นันทะ" พระสาวกองค์หนึ่ง ของพระพุทธเจ้าด้วยเรื่องทำนองเดียวกันคือ ด้านชู้สาว
 

 ตายจากชาตินั้น บาปกรรมส่งผลให้ไปเกิดอยู่ในนรกนานนับหมื่นปี เกิดมา ในชาตินี้แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว เศษกรรมที่ยังหลงเหลืออยู่ก็ส่งผลให้พระองค์ถูก นางจิญจมาณวิกา กล่าวตู่ด้วยคำเท็จ ว่า นางตั้งครรภ์กับพระองค์อีกเช่นกัน

 

๕. กรรมจากการเคยกล่าวตู่ผู้มีศีลด้วยเรื่องไม่จริง 

เมื่อครั้นทรงเป็นพราหมณ์ชื่อสุตวา อันชนทั้งหลายสักการะบูชา สอนมนต์ให้กับมาณพ 500 คนอยู่ในป่าใหญ่ ได้เห็นฤาษีผู้น่ากลัว ได้อภิญญา ๕ มีฤทธิ์มาก มาในสำนัก  จึงกล่าวตู่ฤาษีกับพวกศิษย์ของตนว่า ฤาษีพวกนี้มักบริโภคกาม  
 

ครั้งนั้นมาณพทั้งปวงเที่ยวไปภิกขาในสกุล ก็พากันบอกแก่มหาชนว่าฤาษีพวกนี้มักบริโภคกาม
 

และด้วยด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ในภพชาติสุดท้ายของพระองค์ พระภิกษุทั้ง 500 เหล่านี้ก็ได้รับคำกล่าวตู่ทั้งหมด โดยนางสุนทริกาเช่นกัน

 

 ๖. กรรมเก่าจากการเคยฆ่าน้องชายต่างมารดา

พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นลูกเศรษฐี บิดาของพระองค์มีภรรยาหลายคน  ภรรยาคนหนึ่ง มีลูกชายพระองค์เกรงว่าทรัพยสมบัติส่วนหนึ่งจะถูกแบ่งไปให้แก่น้องชายต่างมารดานั้นจึงลวงน้องชายไปฆ่าที่ซอกเขาแล้วเอาหินทับไว้ ตายจากชาตินั้นบาปกรรมส่งผลให้ไปเกิดอยู่ในนรกนานปี
 

แม้เกิดมาในชาตินี้แม้จะได้ตรัสรู้เป็น พระพุทธเจ้าแล้ว  เศษกรรมที่ยังหลงเหลืออยู่ก็ส่งผลให้พระองค์ถูกพระเทวทัตกลิ้งหินกระทบนิ้ พระบาทจนห้อพระโลหิต

 

๗. กรรมเก่าจากการเคยจุดไฟดักทางพระปัจเจกพุทธเจ้า

พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นเด็กแสนซน วันหนึ่งขณะเล่นอยู่กับเพื่อนเด็ก เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปหนึ่งกำลังเดินมา จึงชวนกันจุดไฟดักทางเพื่อมิให้พระพุทธเจ้าผ่านไปได้
 

ตายจากชาตินั้น บาปกรรมส่งผลให้ไปเกิดอยู่ในนรกนานแสนนาน เกิดมาในชาตินี้แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว เศษกรรมยังหลงเหลืออยู่ พระเทวทัตจึงชักชวนนายขมังธนูผู้ฆ่าคนตายมาก เพื่อให้ฆ่าพระองค์ ส่งผลให้พระองค์ถูกไฟไหม้ที่พระบาท

 

๘. กรรมเก่าจากการเคยไสช้างจับพระปัจเจกพระพุทธเจ้า

พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาติหนึ่งในอดีต คราวที่โลกว่างจากพระพุทธเจ้า มีพระปัจเจกพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลก พระองค์เกิดเป็นควาญช้าง วันหนึ่งเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปหนึ่งบิณฑบาตแล้วเกลียดจึงไสช้างให้จับพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปนั้น

 

 

ตายจากชาตินั้น บาปกรรมส่งผลให้ไปเกิดอยู่ในนรกนานแสนนาน เกิดมาในชาตินี้ แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เศษกรรมที่ยังหลงเหลือ อยู่ส่งผลให้พระองค์ถูกพระเทวทัตยุยงพระเจ้าอชาตศัตรู ให้ปล่อยช้างนาฬาคีรีมาแทงพระองค์

 

๙. กรรมเก่าจากการเคยนำทหารออกศึก

พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นแม่ทัพนำทหารออกรบฆ่า ข้าศึกตายเป็นจำนวนมากด้วยหอก
 

ตายจากชาตินั้น บาปกรรมส่งผลให้ไปเกิดอยู่ในนรกนานแสนนาน เสวยทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส
 

แม้เกิดมาในชาติสุดท้าย หลังจากที่พระเทวทัตทำให้พระองค์ทรงห้อพระโลหิตแล้ว เสด็จไปให้หมอชีวกรักษา หมอชีวกได้รักษาโดยปรุงยาอย่างแรงกล้าเพื่อสมานแผลแล้ว ปิดแผล แล้วเข้าไปทำธุระในเมือง แต่กลับมาไม่ทันเอายาออก ประตูเมืองปิดก่อน ทำให้พระองค์เกิดความเร่าร้อนในสรีระตลอด ซึ่งต่อมาได้รับสั่งให้พระอานนท์นำยาที่ปิดแผลนั้นออกในตอนค่ำนั่นเอง
 

๑๐.  กรรมเก่าจากการเคยชอบใจเมื่อเห็นคนฆ่าปลา

(ข้อนี้แสดงให้เห็นว่า เพียงแค่ดีใจ ที่เห็นคนทำบาป  แค่นั้นกรรมก็ตกกับเราแล้ว)
 

พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นลูกชาวประมง อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชาวประมง เห็นชาวประมงฆ่าปลาแล้วเกิดความสนุกยินดีสนุกสนาน
 

มาเกิดในชาตินี้ แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว บาปกรรมก็ยังส่งผลให้พระองค์รู้สึกปวดพระเศียรเมื่อคราวที่พวกเจ้าศากยะพระประยูรญาติของพระองค์ ถูกพระเจ้าวิฑูฑภะกษัตริย์แห่งแคว้นโกศลยกทัพบุกสังหาร

 

๑๑.  กรรมจากการเคยด่าพระสาวกของพระพุทธเจ้า

พระองค์ตรัสเล่าว่า ในชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นคนปากกล้าด่าว่าพระสาวกของพระพุทธเจ้าผุสสะว่า “ท่านทั้งหลายจงเคี้ยว จงกินแต่ข้าวแดง อย่ากินข้าวสาลีเลย”

 

ตายจากชาตินั้นบาปกรรมส่งผลให้ไปเกิดอยู่ในนรกนานแสนนาน มาเกิดในชาตินี้แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วบาปกรรมก็ยังส่งผลให้พระองค์ได้รับนิมนต์จากพราหมณ์เวรัญชาให้ไปจำพรรษาในเมืองเวรัญชา ซึ่งเกิดข้าวยากหมากแพง ทำให้พระองค์ต้องเสวยข้าวชนิดเลว(ข้าวแดง) อยู่นานถึง 3 เดือน

 

๑๒. กรรมจากการเคยจงใจดัดหลังนักมวยปล้ำให้เจ็บ

พระองค์ตรัสเล่าว่า คราวหนึ่งทรงเกิดในตระกูลคหบดี มีกำลังมากมหาศาล แต่ตัวเตี้ย ต่อมามีนักมวยปล้ำต่างถิ่นมาท้าต่อสู้ พระโพธิสัตว์แม้ถึงจะตัวเตี้ย แต่ก็ได้จับนักปล้ำผู้นั้นขึ้นแล้วหมุนไปในอากาศ แล้วทุ่มลงภาคพื้น แล้วจับดัดหลัง จนนักปล้ำผู้นั้น กระดูกหักเจ็บปวดอย่างมาก และยอมแพ้ในที่สุด  
 

ด้วยกรรมนั้น แม้ในชาตินี้ ถึงจะทรงพลังอย่างนับไม่ได้ แต่ก็ยังเป็นโรคปวดพระปฤษฏางค์ (ปวดหลัง)

 

๑๓. กรรมจากการเคยเป็นหมอยารักษาคนไข้ตาย

ชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นหมอยารับรักษาลูกชายเศรษฐี โดยวิธีให้ถ่ายยา จนลูกชายเศรษฐีตายด้วยความจงใจ

 


ตายจากชาตินั้น บาปกรรมส่งผลให้ไปเกิดอยู่ในนรก มาเกิดในชาตินี้แม้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วเศษกรรมที่ยังหลงเหลืออยู่ก็ส่งผลให้พระองค์เกิดพระโรคปักขันทิกาพาธ(โรคท้องร่วง) หลีงจากเสวยสุกรมัททวะก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน

 

๑๔. กรรมจากการเคยเยาะเย้ยพระพุทธเจ้า

ในชาติหนึ่งในอดีต พระองค์เกิดเป็นชายหนุ่มชื่อ "โชติปาละ" วันหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้ากัสสปะ แล้วกราบทูลทำนองเย้ยหยันว่า ทำไมจึงได้ตรัสรู้ช้าต้องบำเพ็ญพียรอยู่นานกว่าจะตรัสรู้ได้
 

 

มาเกิดในชาตินี้ซึ่งแน่นอนว่าพระองค์จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแน่ แต่ด้วยผลกรรมนั้นจึงส่งผลให้พระองค์หลงทางในการแสวงหาโมกธรรมจนต้องบำเพ็ญทุกรกิริยา อันทำให้พระองค์ต้องประสบกับทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสกว่า 6 ปี จะตรัสรู้ได้


**********************************************************************************************

 

ทั้งหมดนี้คือกรรมเก่าของพระพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงกระทำไว้ในอดีต ตั้งแต่ยังมิได้เป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นกุศลเพียงข้อ ๑ ข้อเดียวเท่านั้น ที่เหลืออีก ๑๓ ข้อเป็นอกุศลทั้งสิ้น

สิ่งที่ควรทำ ยามหลีกหนีไม่พ้นกรรม

ไม่มีใครหนีพ้นผลของกรรม  แม้พระมหาโมคคัลลานะ สำเร็จเป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธิ์เดช ก็ยังถูกทุบจนร่างกายแหลกเหลว เพราะชาติก่อนเคยทุบตีพ่อแม่ไว้

 

ฉะนั้น ทุก ๆ ครั้งที่จะเริ่มทำกรรม ทางกาย วาจา และใจ ขอให้สร้างเป็นบุญ สร้างเป็นกุศลอย่างเดียว  เพราะบุญเท่านั้น เป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย

 

พระพุทธองค์ทรงปฏิเสธที่พระเทวทัตทูลขอเป็นประมุขปกครองสงฆ์ 
และเป็นชนวนเหตุของสังฆเภทในเวลาต่อมา ซึ่งพระองค์ก็ยังทรงรักและเมตตาพระเทวทัตเท่าเทียมกับผู้อื่น
ภาพ : รวมภาพพุทธประวัติเรียงลำดับเหตุการณ์ ทั้งหมด 81 ภาพ วัดพระบาทน้ำพุ

 

และหากเจ็บปวดมากแค่ไหนกับผลกรรมที่ได้รับในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นความล้มเหลวทางการงาน การหาเงิน ความรัก เรื่องเพื่อน หรือเรื่องอะไรก็ตาม  ให้ใช้ขันติ เพื่อสะกดความเดือดเนื้อร้อนใจให้หยุดเป็นความแข็งแกร่ง  และให้ใช้โอกาสนี้เรียกปัญญามาเพื่อมองเห็นความจริง ที่รู้ว่าโลกมีสภาพอย่างนี้
 

ทำให้แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะเลวร้ายแค่ไหน จิตใจก็กลับสงบ 
 

เมื่อวางจิตเป็นกลางได้แล้ว ก็ให้รู้ว่ากรรมเก่านั้นสักแต่ว่ารับ ไม่ยินดี ยินร้าย และจะไม่ทำกรรมใด ๆ ใหม่อีก ด้วยการรักษาศีลห้า และปิดกั้นอกุศลทุกทางที่จะเกิด ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวเราเอง ใครจะสำคัญยิ่งไปกว่าตน 

 

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ในการใช้ชีวิต ที่ต้องดำเนินผ่านความทุกข์ยากลำบากต่าง ๆ และหลายท่าน ก็ต้องเผชิญกับวิบากกรรมที่ทำไว้ในอดีต

 

******************************************************************

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • มหัทธโน
  • 4 Followers
  • Follow