กองทัพเขมรแดงบุกเข้ายึดกรุงพนมเปญเเละชนะสงครามกลางเมืองเหนือกองทัพรัฐบาลของนาย ”ลอน นอล” ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา โดยเขมรแดงได้ประกาศตั้งกัมพูชาประชาธิปไตย หลังจากมีสงครามกลางเมืองนานถึง 5 ปี โดยมีนายพล "พอล พต" เป็นนายกรัฐมนตรี และเปลี่ยนการปกครองระบอบประชาธิปไตยเป็นระบบคอมมิวนิสต์ เพื่อหวังซ่อมแซมเศรษฐกิจโดยใช้ระบบสังคมนิยมแบบพึ่งตนเอง
เมื่อเหล่าผู้นำเขมรแดงต้องการให้ชาวกัมพูชากลับไปเป็นชนชั้นดั้งเดิม ยึดถือเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมที่พึ่งพาตนเอง จึงเกณฑ์ผู้คนให้ไปใช้แรงงานด้านการเกษตร โดยบังคับอพยพชาวกัมพูชากว่า 2 ล้านคนออกจากกรุงพนมเปญไปอยู่ชนบท เป็นชาวนาชาวไร่ในชนบท ทำงานหนักวันละ 12 ชั่วโมง โดยไม่หยุดพัก โดยต้องการให้ชนชั้นกรรมาชีพเป็นตัวขับเคลื่อนประเทศ ชาวกัมพูชาเหล่านั้นต่างถูกบังคับให้ใช้เเรงงานอย่างหนัก เเละถูกยึดที่ดินทำกิน
มีชาวกัมพูชาต้องล้มตาย อดอยาก ถูกทารุณจำนวนมาก ด้วยแนวคิดของเหล่าผู้นำเขมรแดงที่ต้องการให้กัมพูชาเป็นประเทศที่มีแต่คนเชื้อสายกัมพูชา ชนกลุ่มน้อยอย่างชาวเวียดนาม และชาวจีน จึงถูกฆ่าตายมากมายมหาศาล ขณะที่ชาวเขมรด้วยกันเองยังไม่ได้รับการยกเว้น เช่น นักศึกษา ปัญญาชน แพทย์ นักคิด นักเขียน ได้ถูกจัดว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ เพราะปกครองยาก และบรรดาคนชรา คนป่วย เด็กก็ถือเป็นคนไร้ประโยชน์ต่อบ้านเมือง จึงต้องกำจัดให้สิ้นซาก
บรรดาผู้เคราะห์ร้ายจะถูกส่งไปยัง "ทุ่งสังหาร" (Killings Fields) เหยื่อทั้งหมดจะถูกยิง ถูกตัดหัว ถูกทุบตี และถูกทรมานอีกสารพัดวิธี โดยมีผู้เสียชีวิตประมาณ 1.5-2 ล้านคน นับเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เลวร้ายที่สุดของศตวรรษที่ 20