Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา
Home > Dhamma >

แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๒๐ - ๒๕๒๔)

Posted By Plookpedia | 14 มิ.ย. 60
1,980 Views

  Favorite

แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๒๐ - ๒๕๒๔)

      ดังได้กล่าวข้างต้นแล้วว่าในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๑๖ - ๒๕๑๙ ได้เกิดปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ปัญหาเงินเฟ้อ และการว่างงานอย่างกว้างขวาง รวมทั้งความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ประกอบกับสถานการณ์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจสังคมและการเมืองเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นในการจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๔ จึงได้มีการเปลี่ยนรูปแบบการวางแผนพัฒนาใหม่จากการวางแผนแบบการจัดสรรทรัพยากร (Allocative Plan) เป็นแผนแบบชี้ทิศทางหรือชี้นำ (Indicative Plan) ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นและความคล่องตัว ซึ่งผู้บริหารและหน่วยปฏิบัติ สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนงานโครงการเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปและทรัพยากรที่มีอยู่ 

แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๔ มีจุดเน้น ๒ ประการ คือ 
      ประการแรก มุ่งที่จะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้มั่นคงในช่วง ๒ ปีแรกของแผน ทั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจรวมทั้งชะลออัตราเพิ่มของ   ประชากรต่อไป 
      ประการที่ ๒ เร่งทำการฟื้นฟูบูรณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งป่าไม้ ที่ดิน แหล่งน้ำ และแร่ธาตุ เพื่อให้เป็นรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว 

 

การฟื้นฟูและบูรณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การฟื้นฟูและบูรณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เป็นรากฐานการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน


สำหรับเป้าหมายที่สำคัญๆของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๔ มีดังนี้

  • ให้เศรษฐกิจขยายตัวโดยเฉลี่ยร้อยละ ๗.๐ ต่อปี มูลค่าผลผลิตการเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ ๕.๐ ต่อปี และนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ ๗.๗ ต่อปี 
  • ลดอัตราการเพิ่มของประชากรให้เหลือร้อยละ ๒.๑ ต่อปี ในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ซึ่งจะทำให้รายได้ต่อหัวเพิ่มเฉลี่ยร้อยละ ๔.๖ ต่อปี
  • ให้การลงทุนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ ๗.๒ ต่อปี ซึ่งจะมีส่วนช่วยทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น ๒.๒ ล้านคน
  • รักษาระดับเงินเฟ้อไม่ให้สูงเกินร้อยละ ๖.๐ ต่อปี 
  • เสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศและสร้างความเป็นธรรมในสังคมโดยลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้และทางสังคม ฯลฯ

 

อาชีพทางการเกษตร
อาชีพทางการเกษตรยังคงมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย

 

      ในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๔ ปรากฏว่า เศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัวซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทยเพราะต้องพึ่งพิงแหล่งพลังงานจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ต้องใช้จ่ายเพื่อซื้อน้ำมัน วัตถุดิบ และเครื่องจักรเพิ่มขึ้นมาก ก่อให้เกิดการขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละเกือบ ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลประมาณร้อยละ ๖.๓ ของผลิตผลรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้เกิดปัญหาเงินเฟ้อสูงถึงร้อยละ ๑๑.๖ ต่อปี นอกจากนี้ยังเกิดวิกฤตการณ์ของธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงิน เช่น กรณีการล้มของบริษัทราชาเงินทุน เป็นต้น
      อย่างไรก็ดีในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๔ ปรากฏว่าเศรษฐกิจขยายตัวสูงกว่าเป้าหมายเล็กน้อย คือ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี สาขาที่เพิ่มสูงขึ้นคือสาขาเหมืองแร่ ก่อสร้าง คมนาคมขนส่ง และประปา ทั้งนี้เพราะรัฐทุ่มเทการลงทุนเป็นจำนวนมาก ส่วนสาขาที่ขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายคือ สาขาเกษตร ทั้งนี้เป็นเพราะความจำกัดของที่ดินและความเสื่อมโทรมของที่ดิน แหล่งน้ำ ส่วนสาขาอุตสาหกรรมขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายเช่นกัน ทำให้เกิดปัญหาการว่างงานในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ถึง ๖๐๐,๐๐๐ คน และยังโยงไปถึงปัญหาความยากจน และการกระจายรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่อยู่ในสาขาเกษตรและที่อยู่ในชนบทที่ห่างไกล ผู้ที่อยู่ในสาขาเกษตรกรซึ่งมีจำนวนมากมีรายได้ต่ำกว่าผู้อยู่ในสาขาอุตสาหกรรมเกือบ ๕ เท่าตัว ประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงหนือมีรายได้ต่างจากคนในกรุงเทพฯ เพิ่มจาก ๖.๙ เท่าตัว ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็น ๗.๕ เท่าตัว ในปี พ.ศ. ๒๕๒๔
      สำหรับการพัฒนาด้านสังคม ปรากฏว่ามีบางเรื่องทำได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่กำหนดไว้คือ สามารถลดอัตราการเพิ่มของประชาชนใน ปี พ.ศ. ๒๕๒๔ เหลือเพียงร้อยละ ๒.๒ ส่วนการพัฒนาด้านการศึกษาและสาธารณสุข ยังคงมีปัญหาด้านคุณภาพของบริการและยังไม่สามารถกระจายได้ อย่างทั่วถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทที่ยากจนและห่างไกล

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow