เมื่อวันก่อนเปิดไปดูรายการโทรทัศน์ เห็นนักร้องลูกทุ่งไทยสไตล์เกาหลีร้องเพลง 'ชิมิ ชิมิ'
จุดประกายเอาประเด็นมาสอนภาษาอังกฤษซะเลย
'ชิมิ' เป็นศัพท์วัยรุ่นมาจากคำว่า 'ใช่ไหม/ใช่หรือไม่'
ภาษาอังกฤษก็มีเหมือนกัน เรียกว่า Tag Question
ใช้ถามห้อยท้ายเวลาเราไม่มั่นใจสิ่งที่เราพูด ต้องการความเห็นสนับสนุน
หลักการโดยทั่วไปคือ เราจะต่อสร้อยคำถามด้วย คำถามที่เป็นตรงกันข้ามกับประโยคหลัก
เช่นมาเป็นประโยคแบบ positive (บวก) เราก็จะต่อสร้อยด้วยคำถามที่เป็นปฎิเสธ
English is fun, isn't it? ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุก, ใช่มั้ยล่ะ
สังเกตว่าเราจะต่อสร้อยคำถามที่เป็นปฎิเสธเป็นคำถามแบบลดรูปเสมอ เราจะไม่ใช้ is not it?
ถ้าประโยคข้างหน้ามาเป็น negative เราก็ต่อสร้อยคำถามที่เป็นบวกซะ
You don't like ice cream, do you? เธอไม่ชอบไอศกรีม ใช่มั้ยล่ะ
ง่ายจังเลยเนอะ แต่มันก็มีข้อยกเว้นเล็กน้อย
I am a good teacher ...เราจะไม่ใช้ Question tag ว่า Amn't I นะ
จะใช้ว่า Aren't I... I am a good teacher, aren't I? พี่แบมเป็นครูที่ดี ใช่ป่ะ
ทำไมน่ะเหรอ ..ก็เพราะว่าให้มันออกเสียงฟังแล้วรื่นหูน่ะสิ
จะให้ออกว่า แอ๊มท์ ไอ น่ะเหรอ ฟังแล้วเหมือนภาษาเวียดนามมากกว่าภาษาอังกฤษ...ว่ามั้ย
You have to attend the meeting.... เราไม่ต่อด้วย haven't you เพราะว่า have to จำเป็นต้องทำอะไรสักอย่าง
เราจะต่อท้ายว่า don't you
Let's go, ต่อท้ายด้วย tag ว่า shall we? เพราะ Let's = Let us เป็นการชักชวน
ของแถมนอกตำรา
Tag question ในภาษาพูดจะไม่ได้ลงด้วย isn't it? do you? don't you? Aren't they? Aren't I? เสมอไป
สามารถใช้คำอื่นได้ เหมือนที่เราใช้คำว่า 'ชิมิ ชิมิ' เป็น tag question แบบไทยๆ
ที่เขาใช้กันก็มี huh? yeah? right? aey?
ต่างกันตรงสำเนียง ...คนที่รวบ tag question ด้วยคำว่า aey? มักจะเป็นคนแคนาดา
แบบฝึกหัด
ภาษาคือทักษะ ทักษะต้องการการฝึกฝน เรามาฝึกฝนกับ tag question กัน...จงเติม question tag ของข้อต่อไปนี้
1. It is raining,.......
2. John wasn't at the party last night,.......
3. I am right,........
4. She can never do it right,.....
5. They won't report us,......
แล้วจะมาเฉลยต่อคอมเม้นท์ของแต่ละคนนะจ๊ะ