เงิน... คือสิ่งที่บางคนพยามหาวิธีเรียนรู้ที่จะไขว้คว้าให้ได้เป็นเจ้าของ ในขณะที่หลายคนเข้าใจไปเองว่ารู้จักมันดีแล้ว

เงิน... คือสิ่งที่สรรค์สร้างและทำลายหลายต่อหลายอย่างในโลกนี้

เงิน... คือสิ่งที่เราจำเป็นต้องมีตลอดชีวิต แต่เราต้องใช้ทั้งชีวิตเพื่อหามันจริงหรือ เรามาหาคำตอบกันค่ะ

         วันนี้พี่อยากชวนน้อง ๆ มาหาแนวคิดเพื่อสร้างความมั่นคงในการเงินเพื่ออนาคตจากหนังสือในตำนานชื่อ Rich Dad, Poor Dad (พ่อรวยสอนลูก)  ซึ่งไม่ว่าโลกจะหมุนผ่านไปเร็วแค่ไหน แต่หลักการทางการเงินจากหนังสือแล่มนี้ก็ยังใช้ได้จริง เรามาเริ่มกันด้วยเงินในโลกแบ่งออกเป็น เงิน 4 ด้าน งาน 4 แบบ

E - Employee
B - Business Owner
S - Self-Employed
I - Investor

เรามาเริ่มที่ตัวแรกกันเลย

E (Employee)

ลูกจ้าง พนักงานประจำ เหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย มีรายได้ประจำ รู้จำนวนรายรับแน่นอน เช่น พนักงานบริษัท ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างประจำ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดของบริษัทหรือหน่วยงานก็ตาม เงินที่จะได้รับ ได้แก่ ค่าตอบแทนที่ชัดเจน จะเป็นแบบรายเดือน รายสัปดาห์ หรือรายวันก็ได้ ค่าโอทีหรือล่วงเวลา โบนัสประจำปี Career Path หรือเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ การเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งต่าง ๆ มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ให้ได้วางแผนวันหยุดกันล่วงหน้า เรียกได้ว่า คนที่ทำงานด้านนี้ส่วนใหญ่ต้องการความแน่นอน มั่นคง และปลอดภัย

S (Self-Employed)

กิจการส่วนตัวหรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก (SME) Freelance พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือเปิดหน้าร้าน เจ้าของแผงในตลาดสด ธุรกิจของตัวเองโดยที่เราเป็นผู้ดูแลหรือผู้ผลิตเอง รวมไปถึงการเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ได้รายได้ตามความสามารถ ประสบการณ์ หรือตามความนิยม ความมีชื่อเสียง เงินด้านนี้อาจมาพร้อมกับอิสระอยู่บ้าง สายอินดี้อาร์ติสต์ ทางของพวกเขาล่ะ จะเปิดจะปิดเมื่อไหร่ก็ได้ หรือสายฟรีแลนซ์เลือกรับงานตามที่ตัวเองชอบ ถนัด และพอใจ แต่อีกมุมหนึ่งก็ต้องใช้ชีวิตบนความเสี่ยงทั้งเรื่องเงินทุน งานไม่เข้า ลูกค้าหาย รายได้หด มาบ้างขาดบ้าง ความไม่สม่ำเสมอทางการเงิน  

B (Business Owner)

ฉันคือท่านประธานบริษัท 55 (ขอยืมประโยคฮิตมาใช้หน่อย) เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่หรือเจ้าของบริษัท โดยเป็นธุรกิจแบบที่สามารถดูแลตัวเองได้ โดยไม่ต้องเข้าไปบริหารจัดการมาก เช่น เจ้าของระบบต่าง ๆ เจ้าของ Franchise รวมถึงลิขสิทธิ์ต่าง ๆ คนกลุ่มนี้และเงินของพวกเขามาจากธุรกิจ โดยที่พวกเขาไม่ต้องลงแรงไปทำงานเองทุกเรื่อง มีรายได้เข้ามาตลอด ไม่ว่าจะยังทำธุรกิจนี้อยู่หรือว่าเสียชีวิตไปแล้ว แต่ข้อเสี่ยงของเงินด้านนี้ก็คือ ความเสี่ยงจากการทำธุรกิจนั้นเอง ทั้งบริหารเงิน บริหารงาน บริหารคน และต่อสู้กับสถานการณ์ทางการเงิน วิกฤตเศรษฐกิจต่าง ๆ ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว แต่ถ้าใครที่มีความมุ่งมั่น มีความรู้ และมีโอกาสที่ดีพอ หลายคนก็คงมีความฝันอยากจะเป็นผู้บริหารกันอย่างแน่นอน

I (Investor)

นักลงทุน คือผู้ที่ใช้เงินลงทุนในทรัพย์สินต่าง ๆ โดยรายได้หลัก ๆ มาจากเงินปันผล ดอกเบี้ย และผลตอบแทนจากการลงทุน เช่น ซื้อขายหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน ที่ดิน คอนโด หุ้น ตราสารหนี้ พันธบัตร กองทุน Bitcoin ธุรกิจเครือข่าย เงินด้านนี้เป็นการใช้เงินหรือระบบออกไปทำงาน สร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่ากลับมา แต่สิ่งสำคัญที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ เงินด้านนี้ไม่ใช่การพนัน ดังนั้นต้องใช้องค์ความรู้ด้านการเงิน การวางแผน การวิเคราะห์อย่างรอบด้าน และขอให้เอาปากกามาวงไว้เลยว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดสังเกตคำเตือนและศึกษารายละเอียดก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง !” ปัจจุบันมีหลายโรงเรียนเริ่มบรรจุเรื่องการเงินและการลงทุนลงในหลักสูตรมัธยมศึกษาแล้ว ดังนั้น เรื่องเงิน จึงไม่ใช่แค่เรื่องของผู้ใหญ่เท่านั้นแล้ว

          ถ้าตอนนี้ให้น้อง ๆ เลือกระหว่าง E S B I น้อง ๆ อยากจะพาตัวเองไปอยู่ที่ตัวไหน และเห็นตัวเองเป็นใครในตัวอักษรตัวนั้น ค่อย ๆ ศึกษา เรียนรู้ วางแผนชีวิตไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และเมื่อแผนคลอดออกมาแล้ว จากนั้นก็แค่...ตั้งใจและสู้ไปกับมัน อนาคตเรา...เราสามารถกำหนดได้เองค่ะ

          เมื่อน้อง ๆ เรียนรู้เรื่องเงิน 4 ด้านแล้ว มันจะช่วยชี้ให้เห็นถึงช่องทางรายได้ที่แตกต่างกัน ทางไหนใช่เรา ตอบโจทย์ที่เราต้องการ ที่สำคัญทำแล้วเรามีความสุข และไม่ว่าจะเลือกทางไหนไม่มีผิด ไม่มีถูก ขอเพียงแค่งานนั้นเป็นงานสุจริต และสามารถเลี้ยงดูเราและครอบครัวได้ หัวใจสำคัญของเรื่องนี้ ไม่ใช่การเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่อยู่ที่น้อง  ๆ ควรรู้จักทำให้ชีวิตมีแหล่งรายได้ มากกว่า 1 ด้าน เพื่อลดความเสี่ยงจากแต่ละด้าน และเพิ่มผลลัพธ์จากข้อดีของแต่ละด้าน

Neve

ข้อมูลอ้างอิง

เงินสี่ด้าน งานสี่ประเภท https://medium.com/@Trader4.0/เงิน-4ด้าน-งาน-4-ประเภท-b51c0e3d9711