Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา
Education > TCAS > บทความ
เปลี่ยนตัวเองให้เป็น “คนสำเร็จ” ด้วย Mindset 5 ข้อ

  Favorite

โลกกำลังเปลี่ยนแปลงทุกวินาที เราล่ะ ? อีกกี่ปี...จะเปลี่ยนแปลง !

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกที่รวดเร็ว เร่งเร้า และถาโถม การปรับให้ทันและอยู่รอดได้อย่างทรงประสิทธิภาพ จำเป็นต้องใช้เครื่องมือหนึ่งซึ่งเรียกว่า “Mindset” มาใช้เป็นตัวกำกับทิศกำหนดทางให้ชีวิต

 

Mindset คืออะไร ?

          Mindset หมายถึง กรอบความคิด วิธีคิด หรือความเชื่อที่มีผลต่อพฤติกรรม จากงานวิจัยของนักจิตวิทยาชื่อ Carol Dweck พบว่า คนที่ประสบความสำเร็จนั้นจะมี Mindset ที่แตกต่างจากคนทั่วไป โดยคนที่ประสบความสำเร็จนั้นจะมี Mindset แบบ Growth Mindset (กรอบแนวคิดแบบเปิดกว้าง) คือมีความเชื่อว่า เราสามารถพัฒนาทักษะต่าง ๆ ได้อยู่เสมอ ซึ่งแตกต่างจากคนที่มี Mindset แบบ Fixed Mindset (กรอบความคิดแบบปิดตาย) คือคนกลุ่มนี้มักเชื่อว่าทักษะตัวเรามีขีดจำกัด เราทำทุกอย่างสุด ๆ แล้ว เต็มที่แล้วนะ เราพัฒนาอะไรอีกไม่ได้หรอก เรียกว่าเป็นคนไม่ทะยานในการก้าวข้ามขีดจำกัดใด ๆ ในชีวิต

 

Mindset สำคัญอย่างไร ?

          ตอบง่าย ๆ คือ คิดอย่างไร เชื่ออย่างไร ชีวิตก็เป็นอย่างนั้น ความคิดคือสิ่งที่ขีดเขียนการกระทำ แปลว่าชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร ล้วนเกิดจากจุดเริ่มต้นคือ “ความคิด” และเมื่อความคิดเข้มข้นขึ้นจนทรงพลัง นั่นเรียกกว่า “ความเชื่อ” Mindset จึงเป็นเหมือนหางเสือเรือ เหมือนเข็มทิศชีวิต ที่คอยบอกทาง เป็น is am are คือการ เป็น อยู่ คือ ของชีวิตเรา และในบทความนี้ เราจะมาชวนน้อง ๆ ปรับกรอบแนวคิด สร้าง Growth Mindset 5 ข้อ เพื่อปูทางให้ความคิดช่วยเขียนความสำเร็จให้แก่พวกเรา

 

Mindset ที่ 1 พร้อมรับและรุกสู่การเปลี่ยนแปลง

          การเปลี่ยนแปลงไม่น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือการไม่เปลี่ยนแปลง เราต้องเข้าใจก่อนว่าทุกสิ่งรอบตัวนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งในทางที่ดีขึ้นและแย่ลง ก่อนที่เราจะหาวิธีการปรับตัวต่อเหตุการณ์นั้น ๆ เราต้องรู้และเข้าใจอย่างแท้จริงก่อนว่า เหตุการณ์ที่เผชิญอยู่คืออะไร แล้วมีวิธีการรับมืออย่างไรบ้าง ซึ่งทักษะการคิดและการตอบรับต่อสถานการณ์นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นมาก เพราะฉะนั้นเข้าใจ ปรับตัว และมีความสุขไปกับมัน และที่สำคัญไม่ใช่แค่ตั้งการ์ดรับการเปลี่ยนแปลงที่คนอื่นหรือสิ่งอื่นเป็นผู้สร้างให้เกิดขึ้นเท่านั้น แต่เราต้องพร้อมรุกเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง โดยมีตัวเราเป็นผู้เริ่มต้น ชีวิตต้อง Move on เพราะความสำเร็จไม่เคยเกิดขึ้นจากคนที่หยุดอยู่กับที่ อะไรที่จำเป็นต้องเปลี่ยน เปลี่ยนซะ! เพราะถ้าคุณไม่เปลี่ยนตัวเอง โลกก็ต้องเปลี่ยนคุณอยู่ดี 

 

Mindset ที่ 2 สร้างศักยภาพให้ชีวิตด้วยการคิดบวก   

          น้อง ๆ ลองใช้จินตนาการออกแบบการใช้ชีวิต มองแบบล้ำ ๆ มองให้เห็นภาพที่คนอื่นมองไม่เห็น เช่น เห็นศักยภาพตัวเองในการใช้เทคโนโลยี ยุค 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพในการเรียนมากขึ้น หลายคนค้นพบตัวตนจากการใช้เวลาว่างในการหาความรู้เพิ่มเติม ใส่ Learning Mindset ให้ตัวเอง สร้างไลฟ์สไตล์ให้ชีวิตติดบวก บวกความรู้เพิ่มให้ตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ป้อนอาหารให้สมองอย่างต่อเนื่อง เช่น เลือกรับฟังสื่อที่เป็นเรื่องดี ๆ เชิงบวก ที่พัฒนาเราไปให้ทิศทางที่ดีขึ้น เติมความรู้ต่อจากสิ่งที่ตนถนัดหรือสนใจ แม้แต่ในยามเกิดปัญหา การคิดบวกคือพลังที่ทรงประสิทธิภาพเสมอ การคิดบวกไม่ใช่โลกสวย เดินลั้นลาในทุ่งลาเวนเดอร์ แต่คือการไม่ยอมให้ปัญหาหรืออุปสรรคเข้ามาอยู่เหนือชีวิตเรา หรือมาบังทางออกของเรา เช่น ถ้าเราอยู่ในห้องที่อึดอัด เราจะไม่ลดพื้นให้ต่ำลง แต่เราจะยกเพดานให้สูงขึ้น ชีวิตก็เช่นกัน เวลาเจอปัญหา อย่าทำชีวิตให้ต่ำลง แต่จงทำชีวิตให้สูงขึ้น ซึ่งก็คือดีขึ้นนั่นเอง และแรงขับที่จะยกชีวิตเราให้สูงขึ้นได้นั่นคือ พลังบวกจากความคิด  

 

Mindset ที่ 3 มองหาโอกาส ในทุกอากาศที่หายใจ

          ขาดอากาศทำให้ตาย แต่ขาดโอกาสทำให้ไม่โต บางคนสามารถเปลี่ยนตัวเองจาก Nobody เป็น Somebody ได้ และแน่นอนว่าความสำเร็จสำหรับคนทั้งสองประเภทนี้แตกต่างกัน เพราะความตั้งใจและการเรียนรู้ต่างกันนั่นเอง หลายครั้งที่โอกาสมักคลอดออกมาในภาวะวิกฤติ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมองเห็น เพราะถ้าใคร ๆ ก็มองเห็น สิ่งนั้นคงไม่เรียกว่า...โอกาส  ในทุก ๆ วันที่เรายังหายใจ เชื่อเถอะว่านั่นคือโอกาสที่มีค่าที่สุด จงใช้อากาศที่ทำให้คุณยังมีชีวิต ตามหาโอกาสที่ทำให้คุณได้ใช้ชีวิต อย่างคนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งหลายคน ๆ อาจแค่หายใจทิ้งไปวัน ๆ เพราะรู้สึกว่า พรุ่งนี้ก็ยังมีอากาศให้หายใจต่อไป แต่สำหรับโอกาส ถ้าคุณปล่อยทิ้งไปเพียงครั้ง นั่นอาจหมายถึงคุณจะไม่มีวันได้เจอกับมันอีกเลย...ก็เป็นได้   

 

Mindset ที่ 4 Strong ขึ้นจากความผิดหวัง

          ไม่มีใครไม่เคยล้มจากการหัดเดิน และที่เราวิ่งกันได้ทุกวันนี้ เพราะเราลุกเป็น ความผิดหวังเกิดจากการคาดหวังที่มากกว่าผลลัพธ์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตเรา แต่ถ้าเราสามารถผ่านมันมาได้ เราจะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตที่ไม่ตรงกับแผนที่ตั้งไว้ด้วยวิธีคิด เช่น ถ้าการแข่งกีฬาถูกเลื่อนก็ดีนะ จะได้มีเวลาซ้อมได้มากขึ้น ความหวังที่สวยงามนั้นต้องไม่ตายตัว เราสามารถทบทวน ปรับปรุง แก้ไขได้เสมอตามโจทย์ชีวิตที่ผ่านเข้ามาในสถานการณ์ที่ต่างกันไป ที่สำคัญอย่าหมดหวัง เพราะชีวิตที่ไร้ความหวัง ก็ไม่ต่างอะไรจากชีวิตที่ไร้ความหมาย...เชื่อเถอะว่า ในทุกความสำเร็จ ย่อมมีความล้มเหลวเป็นส่วนประกอบ ถ้ามัวแต่กลัวความล้มเหลว นั่นเท่ากับเรากำลังกลัวการเข้าใกล้ความสำเร็จ ล้มได้แต่ต้องลุกเป็น และที่สำคัญเรียนรู้จากการล้ม ทำอย่างไรไม่ให้ล้มซ้ำ และล้มอย่างไร ไม่ให้ล้มเลิก  

 

Mindset ที่ 5 สร้างทุกวัน ให้เป็นวันดี ๆ

          มนุษย์สุด cool อย่างเรา ควรจะได้เจอวันดี ๆ ในทุก ๆ วัน วันดี ๆ สามารถสร้างได้โดยไม่ต้องรอโชคชะตา รอวันพิเศษ รอโอกาสสำคัญ รอคนอื่นมอบให้ เพียงแค่ใช้เทคนิคง่าย ๆ คือ “เติมคำลงในช่องว่าง” วิธีการคือ น้อง ๆ ควรฝึกทำ “to do list” รายวัน ด้วยการจัดตารางใส่กิจกรรมภาคบังคับที่ต้องทำไว้ก่อน เช่น เรียนออนไลน์ ทำการบ้าน เรียนพิเศษ ทำงานบ้าน เป็น Routine Schedule เพื่อจะทำให้เราเห็นว่า ตรงไหนเวลาแน่น ตรงไหนที่ยังมี Gap นั่นแหละ Bingo! เจอช่องว่างเข้าให้แล้ว จัดการใส่สิ่งดี ๆ ที่มีความสุขในชีวิตเข้าไปเลยจ้า อะไรบ้างที่ติดค้างและอยากทำ เช่น อ่านหนังสือเล่มโปรด เล่นเกมสุดมัน เล่นดนตรีสุดชิล แค่เราได้ทำในสิ่งที่อยากทำบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละวัน แค่นี้มันก็กลายเป็นวันดี ๆ อีกวันแล้ว แต่ข้อพึงระวัง! อย่าใส่สิ่งที่อยากทำมากไปกว่าสิ่งที่ต้องทำนะคะ เพราะอย่าลืมว่าสิ่งที่อยากทำอาจเป็นเรื่องของกิเลส แต่สิ่งที่ต้องทำเป็นเรื่องของวินัย และแน่นอนว่าการจะไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้ เราต้องใช้วินัยเป็นตัวควบคุมความสมดุลของความสุขและความรับผิดชอบ

 

          5 mindset นี้เป็นเพียง Item ทางความคิดที่อยากฝากให้น้อง ๆ มีติดตัว ติดหัว และติดใจ รับรองว่าถ้ามีติดไว้ คุณจะได้ใช้ชีวิตในสไตล์ของคนที่ประสบความสำเร็จแน่นอน   

 

NEve Style

Tags
Posted by
Plook TCAS
ข่าวค่ายและกิจกรรม
ข่าวรับตรงล่าสุด
Follow us