Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา
Education > TCAS > บทความ
Hot Trick 7 วิธี สู่ความสำเร็จ

  Favorite

          “ความสำเร็จ” คงเป็นคำที่ทุกคนอยากให้เกิดขึ้นในชีวิตของเรา ทั้งความสำเร็จในเรื่องการเรียน การทำงาน การใช้ชีวิต การเงิน ครอบครัว และในทุก ๆ ด้าน แต่ถ้าเป็นวัยมัธยมปลายความสำเร็จหลักที่หลายคนนึกถึงมักจะเป็นความสำเร็จในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ชอบ สาขาที่ใช่ ได้เรียนได้ทำกิจกรรมในสิ่งที่ตนรัก แต่ความสำเร็จที่แท้จริง ไม่ควรจะเป็นแค่เป้าหมายระยะสั้นเท่านั้น แต่ควรเป็นการสร้างความสำเร็จให้กับชีวิตในด้านต่าง ๆ ด้วย ดังนั้นเราจึงควรฝึกสร้าง mind set ที่จะช่วยทำให้เรากลายเป็น “คนสำเร็จ” ด้วย วันนี้มีเทคนิค Hot Trick ที่จะช่วยเติมไฟให้หัวใจน้อง ๆ เตรียมตัวให้พร้อมเข้าใกล้ความสำเร็จมาฝากค่ะ

 

1. Small Win เซทความสำเร็จเล็ก ๆ ขึ้นมา

          คำว่าความสำเร็จของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน เป้าหมายของบางคนอาจจะอยู่ที่การเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ ได้ก่อนใคร ในขณะที่บางคนมีเป้าหมายแค่ไปให้ทันโรงเรียนในตอนเช้าก็ถือว่าวันนี้ทำสำเร็จแล้ว ไม่มีใครตัดสินได้ว่า ความสำเร็จของใครดีกว่าใคร เพราะแต่ละคนมีเส้นชัยที่ต่างกัน

          การตั้งเป้าหมายใหญ่เป็นเรื่องที่ดีและควรทำ แต่บางครั้งมันก็ช่างเป็นตัวปั่นทอนกำลังใจเราเหลือเกิ๊นนน! เพราะกว่าจะถึงบางทีก็ท้อ หรือจะจะจะแต่ไม่ถึงสักที เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องการตั้งเป้าหมายเล็กให้สำเร็จในทุก ๆ วัน หรือที่เรียกกันว่า “Small Win” แค่นี้เราก็จะสามารถมีชัยชนะเล็ก ๆ ให้ภูมิใจได้ในทุก ๆ วัน และเมื่อเรารู้ว่า เราสามารถพิชิตเป้าหมายที่วางไว้ได้ เราเองก็จะกล้าและมีพลังในการตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้น และก้าวไปให้ถึง จากก้าวเพียงเล็ก ๆ จะทำให้เราก้าวไปได้ไกลขึ้น และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ...อย่าหยุดก้าว!

 

2. การจัดการแนวคิดเชิงบวก

          หยุดเริ่มต้นวันดี ๆ ด้วยคำว่า “ไม่” หลายคนอาจจะงงว่า แค่คำว่า ไม่ ไม่ ไม่ มันมีผลอะไรต่อชีวิตด้วยเหรอ  จริง ๆ แล้วมีผลมากเลยทีเดียวเลยจร้า เพราะหากเราเริ่มต้นจากการคิดลบ วันนั้นก็จะกลายเป็นวันลบ ๆ วันหนึ่งไปเลย เช่น เริ่มต้นจากการหงุดหงิดที่ตื่นสาย ต่อด้วยใส่ชุดพละไปในวันที่ไม่มีเรียน เข้าแถวสายโดนครูทำโทษ ลืมการบ้านที่ต้องส่งไว้ที่บ้าน และเชื่อเถอะว่า มันจะมีสิ่งอื่นๆ บลาบลาบลา ตามมาอีกนับไม่ถ้วน ขอให้จำขึ้นใจว่า การคิดบวก เกิดผลในบางครั้ง แต่การคิดลบ มักจะเป็นจริงในทุก ๆ ครั้ง และพลังลบมักสยบความสำเร็จได้เสมอ

 

3. เราเดินมาได้ไกลแค่ไหน...จากจุดเริ่มต้น

          ชีวิตวัยรุ่นมันเหนื่อยยย!!! แต่ทุกการก้าวเดินมีความหมายนะ กว่าจะมีวันนี้ วันที่เราใส่ชุด ม.ปลาย เราได้ผ่านอะไรมาบ้าง?  หัวเราะก็ต้องมี น้ำตาก็ต้องมา ถ้าเมื่อไหร่ที่ความเหนื่อยล้า ความท้อแท้มาแทรก อยากให้ลองหันหลังกลับไปดูว่า ตอนนี้เราเดินมาไกลแค่ไหนแล้วจากวันแรกของการเรียนรู้ มันจะง่ายมากต่อการตัดสินใจว่าจะก้าวไปข้างหน้าหรือเดินย้อนกลับไป เพราะฉะนั้นบางครั้งการมองย้อนกลับไม่ใช่ข้อเสียเสมอไป แต่มันกลับเป็นแรงผลักดันให้พุ่งให้ได้ไกลเท่าที่เราต้องการได้

 

4. อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลง

          หลาย ๆ คนได้รับการสอนมาให้จินตนาการถึงภาพความสำเร็จที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เช่น ถ้าเราตื่นเช้าขึ้น ถ้าเราขยันขึ้น เราก็จะเก่งขึ้น  แต่วันนี้เราจะมาลองจินตนาการกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างหากเราไม่ยอมเปลี่ยน!!! เช่น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเรายังตื่นสาย จะเป็นอย่างไรหากยังขี้เกียจ บางทีการเห็นและเข้าใจผลเสียของมันอาจจะยิ่งทำให้เรากลัวการสูญเสียบางสิ่งบางอย่างมากกว่าการอยากที่จะได้บางสิ่งบางอย่าง  โลกของเราหมุนไปข้างหน้าทุกวินาที หากเราไม่เดินไปพร้อมกับโลก นั่นไม่ได้แปลว่าเรายืนอยู่กับที่นะคะ แต่นั่นแปลว่าเรากำลังเดินถอยหลังต่างหาก

 

5. เปลี่ยน Input ที่จะนำเข้ามาในชีวิต

          ร่างกายยังต้องการวัคซีน แล้วชีวิตทั้งชีวิตล่ะ?  Input ที่เราป้อนให้ชีวิตของเราถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันและอนาคต ซึ่ง Input นั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่อ่าน เพื่อนที่คบ หรือแนวคิดดี ๆ และสิ่งที่เรานำเข้าที่เลือกยากที่สุดคือ “แนวคิด” ที่เราป้อนเข้าสู่ตัวเรา เพราะมันมีทั้งที่เราเป็นคนเลือกเองกับสิ่งที่เราไม่ทันได้เลือก จึงทำให้ Input กลายเป็นทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่เป็นของเสีย  

          เพราะฉะนั้นเราลองมองและคิดตามดี ๆ ว่าในอดีตถึงปัจจุบัน เรามี Input อะไรบ้างที่เราเป็นคนเลือกอย่างตั้งใจและมีประโยชน์กับการดำเนินชีวิต ถ้าอะไรที่มีและดีอยู่แล้วก็เก็บเอาไว้ แล้วดูพื้นที่ที่เหลือว่าเราสามารถใส่ Input ดี ๆ อะไรบ้างเพิ่มเติมได้บ้าง แล้วเริ่มลงมือเติมมันเข้าไป

 

6. อย่าคิดแบบนัก (ขี้) “โทษ”

          เคยได้ยินแต่นักโทษ แล้วใครคือนัก (ขี้) โทษ?  พี่ขอเรียกคนกลุ่มหนึ่งที่ชอบโทษทุกสิ่งอย่างรอบตัวไปหมด ไม่ว่าใด ๆ ที่ว่าแย่นั้นเกิดจากคนอื่น อย่างอื่นเสมอ จนลืมมองกระจกให้เห็นว่าตัวการสำคัญที่เราลืมโทษว่าผิดอะไร ผิดตรงไหนคือตัวเราหรือเปล่า

          เราลองมาสำรวจตัวเองกันหน่อยไหมคะว่า ที่ผ่านมาเราเป็นแบบนั้นหรือเปล่า เช่น การบ้านไม่เสร็จเพราะไฟดับ อ่านหนังสือไม่ได้เพราะน้องเสียงดัง ตื่นสายเพราะนาฬิกาไม่ปลุก แบบนี้เป็นต้น ถ้าใช่เราลองหยุดนิสัยนี้แล้วลองเปลี่ยนมาดูว่าเพราะเราทำตรงไหนพลาดไป จึงทำให้เกิดปัญหาเหล่านั้น เพียงแค่นี้เราก็จะไม่กลายเป็นนัก (ขี้) โทษแล้วล่ะค่ะ

 

7. Start… Now!!!

          ทั้ง 6 ข้อที่ผ่านมาจะเป็นไปไม่ได้เลยหากขาดข้อที่ 7 นั่นก็คือ ท.ท.ท. ทำ ทัน ที  เริ่มเดี๋ยวนี้! น้อง ๆ อาจจะเบื่อที่จะอ่าน รำคาญที่จะฟัง เพราะรู้สึกว่า ไม่มีอะไรเกินความคาดหมาย ก็รู้อยู่แล้วว่าชีวิตต้องทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ แต่................. (ลองเติมคำลงในช่องว่างจุดจุดจุดดู) เห็นอะไรจากคำตอบของตัวเองมั้ยคะ ว่าแล้วว่าทำไมหลาย ๆ คน ยิ่งเดินกลับยิ่งไกลจากเป้าหมาย อาจจะเพราะเรารู้แต่ยังไม่ได้เริ่มลงมือทำหรือเปล่า เพราะมัวแต่ติดกับดักของ “ข้ออ้าง” ที่เรามักเรียกมันว่า “เหตุผล” หรือเปล่า เพราะฉะนั้นความรู้และความสามารถจะไม่มีผลอะไรเลย หากขาดการลงมือทำ หนทางจะสั้นลง ถ้าเรามีก้าวแรกที่เริ่มเดิน....

          หากน้อง ๆ ลองทำครบทั้ง 7 ข้อแล้ว เกิดพบคำตอบว่า หนูยังไม่เห็นประสบความสำเร็จเลย พี่อยากให้น้อง ๆ คิดว่า ในความสำเร็จมีความล้มเหลวเป็นส่วนประกอบได้ หากน้องไม่เคยเจอกับความล้มเหลว น้องก็อาจไม่ได้เจอกับความสำเร็จได้เหมือนกัน ดังนั้น Do again ค่ะ ทำซ้ำจนกว่าเราจะจัดการกับความล้มเหลวได้ ทุกความผิดพลาดเป็นบทเรียนที่จะช่วยเคลียร์เส้นทางให้เราเดินไปหาความสำเร็จ ไม่ต้องกลัวล้มเหลวค่ะ แต่จงกลัว...การล้มเลิก!

 

NEve Style

Tags
Posted by
Plook TCAS
ข่าวค่ายและกิจกรรม
ข่าวรับตรงล่าสุด
Follow us