Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา
Education > TCAS > บทความ
10 คำถาม เบิกทาง สร้างนักเกษตร แห่งรั้วนนทรี

  Favorite
เกษตร ม.เกษตรศาสตร์

 

        หากพูดถึงศาสตร์แห่งการเกษตร ภาพคณะแรกที่วิ่งเข้ามาในหัวของทุกคนน่าจะเป็นคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รากลึกที่เป็นรากฐานการพัฒนาการเกษตรของไทย ให้เป็นแหล่งอาหารและแหล่งเศรษฐกิจที่มั่นคงของประเทศ วันนี้พี่นัทมี 10 คำถามของน้อง ๆ ที่มีหัวใจเกษตร มาไขข้อข้องใจกัน ผ่านการสัมภาษณ์ ผศ.ดร.สุดสายสิน แก้วเรือง รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แล้วเราจะได้รู้จักศาสตร์การเกษตร ศาสตร์แห่งแผ่นดิน มากยิ่งขึ้น

 

ผศ.ดร.สุดสายสิน แก้วเรือง
รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

 

1. คณะเกษตร เรียนทำไร่ นา สวน และเลี้ยงสัตว์ ใช่มั้ย ?   

          คำว่า “เกษตร” ทำให้หลาย ๆ คนเข้าใจผิดว่าคณะเกษตร เรียนทำไร่ ทำนา มีแต่ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ ! คณะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ หลักสูตรหลักของเราชื่อ “วิทยาศาสตร์เกษตร” คือเรียนเรื่องพืช สัตว์ พืชก็ยังแบ่งเป็นพืชไร่ พืชสวน โรคพืช เรื่องของอาหาร คหกรรมก็อยู่ในนี้ อยู่ในคณะเกษตรเหมือนกัน

          ปริญญาตรีของคณะเกษตรมีทั้งหมด 9 หลักสูตร เป็นหลักสูตรปกติภาษาไทย 8 หลักสูตร และหลักสูตรเกษตรเขตร้อน หลักสูตรนานาชาติ 1 หลักสูตร แต่ในขณะเดียวกันยังมีเกษตรเขตร้อนที่เป็นภาษาไทยด้วย นักเรียนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่า ถ้าลงเรียนเกษตรเขตร้อน จะต้องโดนปฏิบัติเยอะ ลงแปลงเยอะ แต่จริง ๆ แล้ว เข้าใจผิด ! เกษตรเขตร้อนคือให้รู้กว้าง ๆ ว่าการทำการเกษตรของทั้งโลก ทั้งพืช ทั้งสัตว์เป็นอย่างไร และยังเน้นไปอีกด้านหนึ่งคือ เน้นการค้าขาย เป็นธุรกิจเกษตรที่มีอยู่ทั้งโลก ว่าส่งออกและนำเข้ากันอย่างไร มีกักกันพืชกันอย่างไร

          ส่วนถ้าเป็นหลักสูตรวิทยาศาสตร์อย่างอื่นทั่ว ๆ ไป จะมีความเข้มข้นในเชิงวิทยาศาสตร์มากกว่าเกษตรเขตร้อน จะต้องเข้าใจพืช เข้าใจสัตว์โดยทางกายภาพ สรีระของมันว่าที่มันโต  โตได้อย่างไร มันกินอะไรเข้าไป กินแร่ธาตุ กินปุ๋ย แล้วเอาไปสร้างอาหารแบบไหน เพราะฉะนั้นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเรียนเคมี ชีวะ พืชศาสตร์ สรีระวิทยา พวกนี้เป็นพื้นฐานที่จะรู้ว่า กระบวนการเจริญเติบโตเป็นแบบนี้ การขยายพันธุ์เป็นแบบนี้ มีข้อเสียอย่างไร เป็นโรคได้อย่างไร เพื่อที่จะแก้ไขให้ได้ เช่น กรณีมีโรคระบาดขึ้นมาทางสัตว์ ทางพืชก็มีโรคระบาดเหมือนกัน จำเป็นจะต้องศึกษาพฤติกรรมการทำลายของแมลงหรือของเชื้อโรคต่าง ๆ ทำลายที่ส่วนไหน มีกลไกอย่างไรในการตั้งรับ จะแก้ จะรักษากันอย่างไร อันนี้เป็นภาพรวมทั้งหมดของคณะเกษตรว่าเรียนอะไร แต่ทุกคนไม่ได้จะต้องเรียนหนักไปในทุกเรื่อง ก็จะแบ่งเป็นหลักสูตรนี้เป็นเรื่องโรค ก็เรียนเรื่องโรคเยอะหน่อย หลักสูตรนี้ด้านการผลิต ก็อาจจะเรียนด้านการผลิตทั่ว ๆ ไปหนักหน่อย

 

อาคารปฏิบัติการเฉพาะทาง

 

2. คณะเกษตร รับแค่เด็กสายวิทย์ จริงหรือ ?

          จริง เราเปิดรับเฉพาะเด็กที่เรียนสายวิทยาศาสตร์ เพราะเราเคยเปิดรับสายอื่นมาแล้ว แต่พอมาเรียนหนัก ๆ แล้วไปไม่รอด และถึงแม้การเรียนระดับมัธยมปลายสมัยใหม่ไม่มีการแยกสายวิทย์สายศิลป์แล้ว แต่เราจะใช้วิธีกำหนดหน่วยกิตในระดับมัธยมปลายแทน คือต้องเรียนกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ คือ เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ ครบตามหน่วยกิตที่กำหนด เช่น ต้องผ่านกลุ่มวิทยาศาสตร์ 22 หน่วยกิต ต้องผ่านกลุ่มคณิตศาสตร์ 12 หน่วยกิต หรือถ้าเรียนแผนอื่นที่ไม่ใช่วิทย์ – คณิต แต่เก็บหน่วยกิตกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ครบก็สามารถสมัครได้

 

3. คณะเกษตร เข้าร่วม TCAS รอบไหนบ้าง ?

          ถ้าเป็นหลักสูตรปกติ เข้าร่วม TCAS  4 รอบ คือรอบที่ 1 – 4 แต่ถ้าเป็นหลักสูตรนานาชาติ เข้าร่วมครบทั้ง 5 รอบ

 

บรรยากาศการเรียนการสอน

 

4. ชีวิตนิสิต คณะเกษตร 4 ปี ต้องเจออะไรบ้าง ?

          ปี 1 เริ่มจากเรียนวิชาพื้นฐานทั่วไปก่อน ภาษาอังกฤษมีบ้าง มีเรื่องความเป็นอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย การปรับตัว วิชาที่ต้องเจอ เช่น Art of living ศิลปะการดำรงชีวิต มีฟิสิกส์ เคมี ชีวะ จะเรียนประมาณ 20 หน่วยกิต คือ พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์กับศึกษาทั่วไปบางส่วน และจะเรียนรวมกัน โดยยังไม่แยกสาขา (บางสาขาที่แยกตัวตั้งแต่ปี 1 เลย คือ คหกรรม อาหารและโภชณาการ สัตวศาสตร์ เทคโนโลยีระบบเกษตร)

          ปี 2 เริ่มแยกไปตามสาขา เรียนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม มีเคมีอย่างน้อย 2 วิชา สูงกว่านั้นจะเป็นพฤษศาสตร์วิทยา สัตววิทยา สรีระวิทยาของพืชของสัตว์ ในคณะเกษตรมี 9 ภาควิชา จะมี 5 - 6 สาขาวิชาที่ออกแบบมาให้มาเป็นวิชาพื้นฐานที่จำเป็น เช่น ถ้าจะเรียนพืช จะต้องรู้อะไรบ้าง ต้องรู้พืช ต้องรู้แมลง ต้องรู้โรคพืช อันนี้ถือว่าเป็นวิชาพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับพวกที่จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางด้านการเกษตร

          ปี 3 – ปี 4 เรียนเข้มข้นในวิชาของแต่ละสาขา

 

5. ย้ายสาขาได้หรือไม่ ?

          ถ้าสุดท้ายนิสิตเรียนไม่ไหว สามารถย้ายได้โดยมีเกณฑ์การย้ายคือ ต้องผ่านวิชาที่กำหนด ต้องมีเกรดเฉลี่ยรวมไม่ต่ำกว่าที่กำหนด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละสาขา  ยกเว้นคนที่เข้ามาเรียนหลักสูตรนานาชาติไม่สามารถย้ายไปเรียนภาคปกติได้

 

ห้องปฏิบัติการกลางคณะเกษตร

 

6. DNA ของเด็กเกษตร คืออะไร ?

          เด็กเกษตรจะรักพวกพ้อง รักพี่ รักน้อง แต่ละรุ่นจะสอนให้สนิทสนมกลมเกลียวกัน ต้องท่องชื่อเพื่อนให้ได้ ท่องชื่ออาจารย์ให้ได้ แล้วการเรียนจะคละหมู่ sec (หมู่) ทำให้รู้จักเพื่อนต่าง sec ด้วย แล้วพอจบก็จะมีภาพจำว่า ครั้งหนึ่งตอนอยู่ใน sec เขาเป็นอย่างไร สนุกอย่างไร ลำบากอย่างไร

 

7. กิจกรรมที่เป็น Signature ของเด็กเกษตรคืออะไร ?

          เรามีกิจกรรมชื่อ “รู้เรียน รู้เล่น รู้คิด” คือชีวิตหลังจากมัธยมมาเป็นมหาวิทยาลัยนั้น เรียนก็ต้องเรียนหนัก เล่นก็ต้องเล่นเป็น คิดก็ต้องคิดแบบผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นสิ่งต่าง ๆ พวกนี้มันต้องถูกสอนให้กับนิสิต นิสิตที่เข้ามาใหม่อาจยังปรับตัวไม่ทัน กิจกรรมนี้ก็จะบอกว่าในแต่ละหลักสูตรเรียนอะไรกัน ต้องรับสถานการณ์อย่างไรที่จะเข้าใจบทเรียนให้ทัน เพราะฉะนั้นต้องเข้าร่วมกิจกรรม

          ผ่านจากกิจกรรมนี้ไป ปี 1 ต้องรู้จักความยากลำบากของเกษตรกร อย่างเช่น เรามีกิจกรรมวิถีเกษตรไทย คือทั้งรุ่นต้องไปทดลองปลูกข้าวในพื้นที่ที่เราจัดให้ แล้วตามด้วยกิจกรรมที่จะต้องดูแล แล้วต่อด้วยกิจกรรมเกี่ยวข้าว นิสิตจะได้เรียนรู้ว่า เกษตรกรมีความยากลำบากเพียงใด จะได้รู้ว่าในอนาคตวันข้างหน้า พวกเขาจะต้องไปช่วยคนเหล่านี้ ในการดูแลพืช ดูแลสัตว์ เพราะฉะนั้นเขาก็ได้ฝึกกระบวนการ วิธีการของเกษตรกร ในกิจกรรมจะมีผู้ใหญ่ มีอาจารย์คอยเข้าไปดู คอยให้กำลังใจ  ถือว่าเป็นประเพณี เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่เรามี  ตอนหลังเรามีนิสิตต่างชาติมาเรียนด้วย เขาก็ได้สนุกกับกิจกรรมพวกนี้ ได้ลงมือทำจริง

 

การฝึกงาน

 

8. จบเกษตร ทำงานอะไร ?

          การทำงานแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ 3 กลุ่ม

1. กลุ่มที่นำความรู้กลับไปลงมือทำเอง มีถึง 20 – 30 %

2. กลุ่มข้าราชการ เดี๋ยวนี้คนรุ่นใหม่เริ่มหันกลับไปรับข้าราชการมากขึ้น กลับกลายเป็นว่าเอกชนขาดแคลนบุคลากร คนเข้าเอกชนน้อยลง ข้าราชการมีตั้งแต่ข้าราชการท้องถิ่น อบต. มีกรม กอง ของทางด้านการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นกรมวิชาการ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมการข้าว เป็นต้น

3. กลุ่มทำบริษัทเอกชน เช่นทำเมล็ดพันธุ์ ทำปุ๋ย ทำสารเคมี ใช้เครื่องจักร ซึ่งบริษัทมีความต้องการคนที่จบการเกษตรโดยตรง   

          เรียนจบเกษตรไม่ต้องกลัวตกงาน อย่างตอนปี 1 เราจะมีวิชาที่ชื่อว่า orientation คือการเชิญเอกชน เชิญข้าราชการ เชิญเกษตรกร SME ที่ประสบความสำเร็จมาเล่าให้นิสิตฟัง เพื่อให้เขาเข้าใจว่า เกษตรทำอะไรได้กว้างขว้าง  และเพื่อให้รู้ว่า พอจบไปแล้วจะเป็นแบบนี้ ชอบหรือไม่ชอบ ถ้าไม่ชอบจะได้มีเวลา หรือรู้ว่าไม่ถนัดทางด้านนี้ จะได้เฟดตัวเองออกไป เพราะฉะนั้นเราก็เอาข้อเท็จจริงมาให้ดูกัน โดยผ่านผู้ที่มีประสบการณ์จริง

          คณะเกษตรทั้งคณะ จบออกมาได้ประมาณ 350 คน ทั้งประเทศมีสถาบันทางด้านการเกษตรอยู่ประมาณ 50 มหาวิทยาลัย ปีหนึ่งก็จะมีประมาณ 8,000 คน ถามว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง เราก็ไม่ค่อยเห็นว่า บัณฑิตจากสถาบันต่าง ๆ บอกว่าจบไปแล้วไม่มีงานทำ ก็เลยคิดว่าทั้ง 8,000 คน ได้งานทำทั้งหมดใน 3 ประเภทคือ ส่วนตัว ข้าราชการ และเอกชน

 

การฝึกงาน

 

9. Portfolio แบบไหน ชนะใจคณะเกษตร ?

          จริง ๆ พอร์ตถือว่าเป็นแค่ส่วนประกอบ คณะเกษตรเน้นรอบแรก คัดลือกจากเกรดและก็ใจชอบ พอร์ตคือสิ่งที่เรียนอยู่ในโรงเรียน ว่าเรียนเกษตรอะไรบ้าง  เคยทำอะไรเกี่ยวกับการเกษตรบ้าง เช่น เคยโต้วาทีเกี่ยวกับการเกษตร จุดสำคัญคือ ขอให้เกี่ยวข้องกับการที่บอกว่า “เราชอบเกษตร” นอกจากนี้ เรายังเน้นให้โอกาสแก่บุตรหลานเกษตรกร

 

10. อยากเป็นเด็กเกษตร เตรียมตัวอย่างไร ?

          ขอแนะนำด้านการเตรียมตัวสอบ โดยเฉพาะความแตกต่างระหว่างรอบ 3 กับ รอบ 4 ซึ่งใช้วิชาสอบที่ไม่เหมือนกัน รอบ 3 ใช้วิชาสามัญ 5 วิชา ส่วนรอบ 4 ใช้ GAT, PAT, O – Net และ GPAX  ซึ่งน้อง ๆ ต้องเตรียมตัวสอบให้ตรงกับวิชาที่ใช้ และรอบที่เลือก

 

          10 คำถาม ที่ช่วยสร้างความกระจ่างในคณะเกษตร แห่งรั้วนนทรี ใครอยากเข้าคณะนี้ ต้องมีความพร้อมทั้งความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ความรักในศาสตร์แห่งแผ่นดิน ซึ่งประกอบด้วยศาสตร์พระราชา ศาสตร์ชุมชน และ ศาสตร์สากล  ตลอดจนความพร้อมที่จะช่วยดูแลเกษตรกรไทย  ถ้ามั่นใจในความชัดเจนเหล่านี้แล้ว ได้เวลาลุกขึ้นมาอ่านหนังสือ เตรียมตัวให้พร้อมตามปณิธานแห่งมหาวิทยาลัย

          “เกษตรศาสตร์ มุ่งสร้างศาสตร์แห่งแผ่นดิน เพื่อความกินดีอยู่ดีของคนในชาติ”

 

พี่นัท ทรูปลูกปัญญา
เขียนและเรียบเรียงบทสัมภาษณ์

Tags
Posted by
Plook TCAS
ข่าวค่ายและกิจกรรม
ข่าวรับตรงล่าสุด
Follow us