Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา
Education > TCAS > บทความ
รู้จัก Influencer ในใจลูก ที่ส่งผลต่อการเข้ามหาวิทยาลัย

  Favorite

          เรื่องนี้จะช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่มองเห็นสิ่งทรงอิทธิพลในหัวใจลูก เรามาดูกันว่าใครเป็นใครกันบ้าง และสิ่งเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเข้ามหาวิทยาลัยของลูกอย่างไร จะต้องวางแผน “รับมือ” หรือ “ร่วมมือ” อย่างไร ลองไปดูกันเลย   

 

1. “เพื่อน” ว่าไง...ว่าตามกัน  

          ตามหลักพัฒนาการวัยรุ่นตามช่วงวัยแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่วัยรุ่นเลือกที่จะฟังเพื่อนมากกว่าผู้ปกครอง หลายครั้งที่เด็กสับสนในชีวิต และเมื่อเพื่อนช่วยแนะคำตอบให้ หรือชักชวนกันไปในแนวทางไหน หนทางนั้นมักได้รับการตอบรับที่ดี ต่างจากหลาย ๆ ครั้งที่ผู้ปกครองบอกแล้วบอกอีก เสนอแนะก็แล้ว บังคับก็แล้ว ขอร้องก็แล้ว แต่ลูกก็ยังดื้อไปเลือกทางที่เป็นในแนวเดียวกับเพื่อนมากกว่า

          สำหรับการเข้ามหาวิทยาลัย การทรงอิทธิพลของเพื่อน ถือว่าอันตรายการต่ออนาคตการเลือกคณะของน้อง ๆ เพราะถ้าเพื่อนเลือกตามใจเพื่อน แล้วน้องเกิดไปเลือกตามใจเพื่อน สุดท้ายเพื่อนได้เป็นตัวเพื่อน แต่น้องไม่ได้เป็น…ตัวเอง ! ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องช่วยให้เสียงของความฝันน้อง ดังกว่าเสียงความฝันเพื่อน เราอาจตามกันในเรื่องอื่นได้ แต่อนาคตลอกกันไม่ได้ ทางใคร ทางมัน ! แต่ไม่ใช่ ตัวใคร ตัวมัน ! เพราะเพื่อนสามารถเป็นผู้ช่วยเรียน ช่วยเลือก ช่วยติว ช่วยกระตุ้นให้เพื่อนได้ บางครั้งการอาศัยให้เพื่อนส่งเสียงแทนครอบครัว ก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่งของการสื่อสารความรักความห่วงใย สิ่งสำคัญคือ คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นเพื่อนกับเพื่อนลูกด้วย ท่านถึงจะมีโอกาสได้อยู่แก๊งเดียวกัน

 

2. “ครอบครัว” คือ ตัวกำหนดอนาคต   

          หลายครอบครัวมีอิทธิพลในการออกแบบ กำกับ ควบคุม ดูแลความฝันของลูก แต่บางครอบครัวออกแบบการเรียนให้ลูกจนลืมไปว่าคนเรียนคือลูก ไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่

          “แม่คิดว่าลูกควรเรียนคณะนี้ มันเหมาะกับลูกที่สุด คนเป็นแม่ย่อมรู้ใจลูกที่สุด”

          “พ่อคิดว่าคณะนี้ดีที่สุดสำหรับลูก เพราะคนเป็นพ่อย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเสมอ”

          และอีกมากมายที่เป็นเหตุผลที่เกิดจากความรัก ความห่วง ความปรารถนาดี แต่จากการได้มีโอกาสพูดคุยกับน้อง ๆ หลายคนและหลายปี ผู้ปกครองบางท่านอาจไม่รู้เลยว่า ความรัก ความห่วงใยที่ท่านมอบให้ลูก มันคือความคาดหวังที่คาดทับลงไปที่หัวใจน้อง ๆ จนพวกเขา...หายใจแทบไม่ออก !

          พ่อแม่สามารถมี “ความหวัง” ในตัวลูกได้ แต่ไม่ควร “คาดหวัง” เพราะคาดมันจะแน่น เหมือนถูกรัดไปด้วยความหวัง แต่ถ้าแค่หวังโดยไม่ต้องคาด มันหมายถึงการออกแบบเป้าหมายร่วมกัน แล้วประคองกัน เดินไปร่วมกัน อย่างมีความหวังและมีทิศทาง

          จะดีกว่ามั้ยถ้าการให้คำแนะนำของผู้ปกครองเป็นดั่งภาพวงแหวนของดาวเสาร์ คือไม่ก้าวล่วงเข้าไปยังเขตดวงดาวหลักของลูก แต่ก็อยู่ไม่ไกลคอยโอบล้อมลูก เชื่อมโยงประสบการณ์ตนผสมกับความเป็นตัวตนของลูก

          ความฝันของพ่อแม่อาจไม่ใช่มรดกของลูกเสมอไป  
          อย่าให้ความฝันของลูก เดินตามความฝันของท่าน เพราะมันอาจไม่แฟร์สำหรับพวกเขา

 

3. “ผู้ทรงอิทธิพลทางโลกออนไลน์” ไลฟ์สไตล์น่าเดินตาม (Youtuber, Influencer, Net Idol)

โลกยุคดิจิตอล....

- สิ่งไกลกลายเป็นใกล้ สิ่งใกล้ก็กลายเป็นไกล 
- คุยกับคนออนไลน์มากกว่าคนออฟไลน์
- เชื่อคนไกล มากกว่าคนใกล้

          เด็กยุคนี้เลือกเชื่อคนที่สร้างชุดความสำเร็จในสไตล์ที่เขายอมรับ ไม่ใช่ระบบการปลูกฝัง ส่งต่อ ถ่ายทอดแบบในอดีตเท่านั้น คนกลุ่มนี้กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น คำพูด คำแนะนำ ตลอดจนไลฟ์สไตล์ของพวกเขา ทำให้วัยรุ่นใช้เป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิตและออกแบบอนาคตของเขา คณะใหม่ ๆ อาชีพใหม่ ๆ ที่ผ่านการพิสูจน์ด้วยเหล่า Influencer จึงเป็นที่นิยม รวมถึงเทรนด์การศึกษาต่อ ที่ไม่ได้สนใจแค่คณะใดคณะหนึ่ง แต่มองไปถึงช่องทางการประกอบอาชีพ และการได้เป็นเจ้านายของตัวเอง    

          Influencer หรือ ผู้ทรงอิทธิพลในหัวใจลูกเหล่านี้ อาจจะเป็นคนอื่น รวมทั้งอาจจะเป็นตัวคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองเอง ดังนั้นปัจจัยที่เด็กหนึ่งคนจะตัดสินใจออกแบบอนาคตของตนอย่างไร จึงไม่ได้มีแต่เสียงของพวกเขาเท่านั้นที่ดังอยู่ แต่อาจมีเสียงจากบุคคลอื่นที่ดังอยู่รอบตัวเขา สิ่งสำคัญคือ เขาจะเลือกฟังใคร แล้วจะออกแบบอนาคตตามแนวทางของใคร เป็นสิ่งที่ผู้ปกครองจะต้องเปิดใจรับฟัง ถ้าเป็นเสียงที่ไปในแนวทางเดียวกับท่าน ท่านอาจจะเลือก...ร่วมมือ แต่ถ้าคนละแนวทางกับท่าน ท่านก็อาจจะต้อง...รับมือ แต่สุดท้ายแล้ว เสียงที่สำคัญที่สุด และควรเป็นเสียงที่ดังที่สุด ในการออกแบบอนาคตของน้อง ๆ คือ... เสียงของพวกเขาเอง !

 

พี่นัท ทรูปลูกปัญญา

Tags
Posted by
Plook TCAS
ข่าวค่ายและกิจกรรม
ข่าวรับตรงล่าสุด
Follow us