Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา
Education > TCAS > บทความ
5 สายอาชีพที่ต้องปรับตัว จากการจะถูกเทคโนโลยี AI เข้ามาแทนที่ใน 10 ปีข้างหน้า

  Favorite

          ปัจจุบันเทคโนโลยีเดินหน้าไปไกลเรื่อย ๆ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence) หรือ AI ถูกคิดค้นมาเพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ AI เข้ามามีบทบาทในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น นอกจากจะช่วยการทำงานในองค์กรแล้ว ยังถูกผลิตออกมาให้เชื่อมโยงกับสินค้า เพื่อจำหน่ายให้ผู้บริโภค เมื่อระบบ AI ขยายตัวมากขึ้นในสังคม นอกจากจะมีผลดีแล้ว ในอีกด้านก็สะท้อนว่า อาชีพไหนบ้างที่จะต้องปรับตัว จากการจะถูกเทคโนโลยี AI เข้ามาแทน ข้อมูลส่วนนี้มีผลต่อคนทำงาน นักเรียน และนักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อ เพราะทุกอย่างเชื่อมโยงกับการประกอบอาชีพ

 

5 สายอาชีพที่ต้องปรับตัว จากการจะถูก AI เข้ามาแทนที่ใน 10 ปีข้างหน้า

 

1. อาชีพที่เกี่ยวข้องกับระบบการดูแลสุขภาพ

          ปัจจุบันนี้มีการนำ AI มาใช้อย่างมากในระบบการดูแลสุขภาพ การช่วยเหลือผู้ป่วย และงานด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะระบบข้อมูลต่าง ๆ ที่ประมวลผลออกมาได้ละเอียด รวดเร็วกว่าการใช้คนทำงาน จึงเป็นเหตุผลว่า คนที่ทำอาชีพด้านการดูแลสุขภาพต้องมีการปรับตัว ให้ทำงานร่วมกับ AI ได้ โดยที่ไม่ถูก AI เข้ามายึดพื้นที่การทำงาน จนทำให้องค์กรรู้สึกว่า สามารถใช้ AI แทนการจ้างคนทำงานก็ได้

 

2. อาชีพด้านการตลาด

          งานด้านการตลาด ก็ใช้ AI เข้ามาประมวลผลเช่นกัน โดยเฉพาะระบบการตอบโต้อัตโนมัติ, กระตุ้นการขายผลิตภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งในอีก 10 ปี ข้างหน้ามีแนวโน้มว่า สายงานการตลาดจะพึ่งพาเทคโนโลยี AI มากกว่าเดิม และยังมีแผนพัฒนาการจัดเก็บข้อมูลลูกค้ารายบุคคล เพื่อนำมาใช้ในการขายและนำเสนอสินค้าให้ผู้บริโภค ด้วยการทำงานของ AI ในการวิเคราะห์ควบคู่ไปกับการขาย นอกจากจะนำเสนอ แนะนำ และให้ข้อมูลได้อย่างอัตโนมัติแล้ว ยังสามารถตอบโตกับลูกค้าได้อีกด้วย จะเห็นได้ว่าการทำงานทั้งหมดนี้ AI แทบทำหน้าที่ได้แทนมนุษย์ได้แบบสบาย ๆ จึงเป็นสาเหตุที่คนทำงานด้านนี้ ต้องปรับตัวให้ความสามารถของตัวเอง สามารถทำงานคู่กับ AI ต่อไปได้

 

3. อาชีพที่อำนวยความสะดวกในชีวิต

          การใช้ชีวิตปัจจุบันขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี คนสามารถเข้าถึงทุกอย่าง และทุกอย่างสามารถตอบสนองความสะดวกกลับมาได้มากขึ้น ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่ง AI นั้นสามารถทำงานเชื่อมโยงกับอินเตอร์เน็ตได้เช่นกัน เช่น อยากหาความสุขจากการออกไปเที่ยว ก็สามารถจัดการได้ผ่านอินเตอร์เน็ต จองที่พัก จองตั๋วเดินทาง จองสถานที่ท่องเที่ยว วางแผนการเดินทาง ผู้บริโภคทำเองได้โดยไม่ต้องผ่านพนักงาน เป็นต้น ยิ่งลดขั้นตอนการใช้คนมากเท่าไหร่ ผู้ที่ประกอบอาชีพด้านนี้ จึงต้องปรับตัว วางกลยุทธ์ให้ทำงานร่วมกับ AI ได้ 

 

4. อาชีพด้านการคมนาคม

          การคมนาคม นำระบบ AI มาใช้ในการขับเคลื่อนการขับขี่อัตโนมัติ เครื่องยนต์ต่าง ๆ สามารถทำงานได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานคน เป็นอีกเทคโนโลยีที่ในอนาคตจะถูกพัฒนาขึ้นอีกมาก เพราะการเดินทางเป็นปัจจัยหลักของการใช้ชีวิต และต้องมีระบบมาอำนวยความสะดวกมากขึ้นแน่นอน ยิ่งสะดวก ยิ่งลดการใช้คน เพราะอุปกรณ์จากระบบ AI ถูกนำเข้ามาทำหน้าที่แทน จึงเป็นสาเหตุให้คนทำงานด้านนี้ต้องเตรียมพร้อมรับมือ

 

5. อาชีพด้านการเงิน

          ธุรกรรมการเงินในยุคนี้ก็ใช้ระบบ AI เข้ามาช่วยเช่นกัน โดยเฉพาะการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นตรวจความผิดพลาด การทุจริตทางการเงินและการธนาคาร รวมทั้งใช้อำนวยความสะดวกให้กับพนักงานและลูกค้า ไม่ว่าจะบริษัทไหนก็นำระบบ AI เข้ามาทำงานหมด โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ ย่อมต้องการความแม่นยำเรื่องข้อมูล เพื่อใช้ช่วยวิเคราะห์ก่อนการลงทุน พนักงานด้านการเงินส่วนใหญ่ ในขณะทำงานก็ยังต้องใช้เทคโนโลยีจาก AI เข้ามาช่วย จึงเป็นสาเหตุว่า ยิ่งโลกพัฒนาระบบ AI มากเท่าไหร่ ความจำเป็นในการใช้คน อาจลดจำนวนลง

 

          ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่สามารถใช้วางแผนอนาคตได้ เพราะทุกอย่างเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพ เพราะอาชีพเชื่อมโยงกับการศึกษา ฉะนั้นไม่ใช่เฉพาะแค่คนที่ทำงานต้องวางแผน นักเรียน, นักศึกษา ต้องศึกษาข้อมูลไว้ประกอบการตัดสินใจ ในการเลือกเรียน ให้สอดคล้องกับการทำงานในอนาคต ส่วนอาชีพที่อาจจะถูก AI เข้ามาแทนที่นั้น ยังคงต้องมีการใช้คนทำงานอยู่ เพราะไม่สามารถใช้ AI ควบคุมแทนได้ทั้งหมด 100% แต่รูปแบบงาน การรับคนทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ อาจปรับเปลี่ยนไป เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องศึกษาและปรับตัวในการวางแผนอนาคต โดยเฉพาะนักรียน นักศึกษา
 

5 อุตสาหกรรมที่จะถูก “ปัญญาประดิษฐ์(AI)” เข้ามาแทนที่ในอีก 10 ปี ข้างหน้า สืบค้นเมื่อ  21 เม.ย. 63 https://sumrej.com/5-industries-ai-will-disrupt-in-the-next-10-years-9-2017/

 

Tags
Posted by
Plook TCAS
ข่าวค่ายและกิจกรรม
ข่าวรับตรงล่าสุด
Follow us